13 ส.ค. 2023 เวลา 17:14 • ประวัติศาสตร์
อินเดีย
จำได้คร่าวๆว่า ชื่อจริงๆท่านคือ อหิงสกะ ชื่อนี้พ่อตั้งให้ค่ะ แปลว่าผู้ไม่เบียดเบียนค่ะ ตั้งเอาเคล็ด เพราะลูกเกิดฤกษ์โจร ถ้าเลี้ยงดีจะดีมาก เลี้ยงพลาดเป็นมหาโจร วันที่ท่านคลอดเกิดอาเพศ อาวุธสั่นสะเทือนขานรับท่านเกิดไปทั่วเมือง... พ่อท่านเป็นปุโรหิต ก็ทำนายชะตาลูกชาย เป็นภัยต่อไพร่ฟ้า ด้วยว่าท่านจะเป็นมหาโจร เป็นเจ้าแห่งศาตราเลย
ครั้นจะฆ่าเเด็กน้อยกษัตริย์​ก็เมตตา พ่อท่านจึงเอาไปฝากเรียนที่อื่น... กึ่งๆเนรเทศ และไม่ให้จับศาตราวุธใดๆ
ไปอยู่ในสำนักอาจารย์ ก็เป็นที่รักใคร่ของอาจารย์ เพราะท่านเป็นคนที่จิตใจดี มีเมตตา อ่อนน้อมถ่อมตน ดูแลรับใช้อาจารย์ จนเป็นที่รักใคร่เอ็นดู ทั้งอาจารย์เจ้าสำนักและภรรยาท่าน ต่างเมตตารักใคร่จนเพื่อนร่วมรุ่นพากันอิจฉา จึงช่วยกันออกอุบายเป่าหูอาจารย์ว่า...
ระวังจะมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับภรรยาอาจารย์นะ เพราะดูเอ็นดูกัน... อาจารย์พอโดนเป่าหูก็เขว้ค่ะ โกรธเคือง ต้องการฆ่าทิ้ง แต่ก็ไม่มีความผิดอะไร จึงออกอุบายหวังให้คนอื่นฆ่า... อุบายนั้นคือ
ถ้าเจ้าจะเรียนสุดยอดวิชาจากอาจารย์ จะถ่ายทอดให้ แต่ต้องฆ่าคนให้ได้ 1,000 คน
1
ด้วยความที่ท่าอหิงสกะ เคารพรัก เชื่อฟังอาจารย์ มิได้คิดว่าเป็นแผนชั่วร้าย หลอกให้ไปฆ่าคน เพื่อล่อให้คนอื่นมาฆ่าท่านแทน ท่านก็เชื่อฟังค่ ท่านก็เริ่มจับอาวุธ เบียดเบียนผู้อื่นด้วยการฆ่า แรกๆ ฆ่าไป ไม่ได้ตัดนิ้ว ก็ลืมค่ะ ว่าฆ่าไปกี่คน สุดท้ายท่านเลยใช้วิธีตัดนิ้วหัวแม่มือของเหยื่อที่ถูกท่านฆ่าตาย ร้อยเป็นพวงแล้วเอามาแขวนคอ ท่านจึวได้สมยานามว่า องคุลีมาล แปลว่า นิ้วหัวแม่มือร้อยเป็นพวงห้อยคอ ... เหมือนพวงมาลัย เอามาห้อยคอนั่นละค่ะ
2
ตอนนี้อารมณ์ท่านอาจเหมือนฆาตากรต่อเนื่อง ยิ่งฆ่ายิ่งบ้าเลือดค่ะ เจอใครฆ่าดะ ลูกเด็กเล็กแดง ทหารตามล่าก็เอาชนะไม่ได้ เพราะท่านเป็นเจ้าแห่งศาสตรา อาวุธทุกอย่างเมื่ออยู่ในมือท่าน ก็เสมือนเป็นทาสท่านเลย ท่านมีพรสวรรค์เรื่องนี้ บงการอาวุธให้ฆ่าตามสะดวก....
จนสุดท้าย เหลือเพียงนิ้วเดียวจะครบหนึ่งพัน ตอนนั้นท่านตั้งใจไว้ว่า เดินไปเจอใครจะฆ่าเลย จะได้ครบพันซะทีแล้วจะกลับไปหาอาจารย์ที่สำนักเพื่อเรียนวิชา.... ตอนนั้นถึงวาระของท่านที่จะบรรลุธรรม ในยามเช้า พระพุทธเจ้าเข้าณานเพื่อใช้ญาณหยั่งรู้ว่าวันนี้ท่านควรจะไปโปรดใครเพราะเขาผู้นั้นจะบรรลุธรรมได้...
องคุลีมาลเข้าข่ายพระญาณให้ท่านมองเห็น และเห็นไปอีกว่า ถ้าท่านไปช่วยห้ามไม่ทันในการฆ่าเก็บนิ้วสุดท้ายนี้ องคุลีมาลจะทำกรรมหนักคือฆ่าแม่ของตัวเอง เพราะแม่เป็นห่วงจะมาหาลูกเพื่อจะให้หนีทหารหลวงที่ตามล่าอยู่ แต่ลูกกลับตั้งสัจจะว่าเจอใครก็จะฆ่า
1
ถ้าการนี้สำเร็จ ท่านจะทำกรรมหนักคืออนันตริยกรรม กรรมที่ขวางการบรรลุธรรม.....​เพราะบาปหนักมากจนจิตไม่อาจจะผ่องใสได้ มืดมนในความชั่วแบบดำดิ่ง จนไม่อาจใคร่ครวญความจริงใดให้บรรลุธรรมได้ และต้องตกนรกก่อนจะเสวยบุญใดๆได้ ถือว่าเสียโอกาสมาก พระพุทธเจ้าเลยรีบเสด็จไปโปรด
ท่านเดินให้องคุลีมาลมองเห็นหลัง องคุลีมาลพยายามเดินตามเพื่อหวังจะฆ่า แต่เดินตามไม่ทัน
พระพุทธเจ้าเดินดูเรื่อยๆ ช้าๆ แต่องคุลีมาลวิ่งตามกลับไม่ทัน จนต้องตะโกนบอกให้หยุด....
1
พระพุทธเจ้าตอบว่า เราหยุดแล้ว ท่านต่างหากที่ไม่หยุด
องค์คุลีมาลบอก ท่านเป็นนักบวชทำไมมุสา ท่านไม่ได้หยุดเดินเลย ท่านจะบอกว่าหยุดอย่างไร
พระพุทธเจ้าตอบกลับว่า... เราหยุดการฆ่าทั้งปวงแล้ว... ท่านต่างหากที่ไม่หยุด....
คำพูดเพียงเท่านี้ สำหรับคนมีบุญเก่ามาก บารมีเต็ม พื้นฐานจิตใจดีเพียงแต่หลงเชื่อคนผิดคืออาจารย์ที่หลอกให้ฆ่าคน... คำพูดสั้นง่ายของกัลยาณมิตร ดึงสติท่านกลับมาได้ค่ะ
1
ท่านมองเห็นการเข่นฆ่าผู้คนของตัวเอง เกิดความสำนึกผิด... เกิดปัญญารู้อะไรควรไม่ควร รู้ดีรู้ชั่ว รู้ตัว
มีดวงตาเห็นธรรม และขอบวชในที่สุด เมื่อมีดวงตาเห็นธรรมแล้ว พระพุทธเจ้าก็บวชให้...ท่านทำความเพียรต่อ ก็บรรลุเป็นพระอรหันตสาวกองค์หนึ่งในเวลาต่อมาค่ะ...
2
แต่ด้วยกรรมที่ท่านทำไว้ ท่านเป็นที่รังเกียจของผู้คน เวลาท่านออกบิณฑบาตร จะถูกขว้างปาด้วยก้อนหินและถ้อยคำด่าว่ามากมาย ท่านต้องหัวแตก เจ็บตัวกลับมาทุกวัน ก็ด้วยผลของกรรมชั่วที่ท่านทำไว้ด้วยการทำร้ายคนอื่น... ท่านยอมรับผลของกรรมทุกอย่าง ไม่หนี ไม่บ่น เข้าใจ... รับผิด... ทหารหลวง กษัตริย์​ตามล่าท่าน มาเจอท่านอยู่กับพระพุทธเจ้า ก็มีการรับรองคุณธรรมของท่านจากพระพุทธเจ้าว่าตอนนี้ ท่านอหิงสกะไม่เบียดเบียนใครแล้ว...
ท่านเคยช่วยหญิงตั้งครรภ์ที่เจ็บครรภ์คลอดแล้วคลอดติดคลอดทารกไม่ได้ มีความทรมานมาก... จำรายละเอียดไม่ได้ช่วงนี้ว่าใครมาตามท่านยังไง แต่ท่านก็ไปช่วยด้วยจิตที่เมตตา ท่านได้นำเรื่องหญิงคลอดบุตรยากไปแจ้งกับพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงประทานคาถา... คำพูดนี้ให้ท่านไปบอกหญิงดังกล่าว..
ท่านให้หญิงคนนี้สวดคาถาของท่าน.... ก็เป็นเหมือนคำอวยพรค่ะ...
พอหญิงคนนี้ท่องคาถา เด็กก็คลอดออกมาง่ายดายค่ะ...
คาถานี้คือคาถาองคุลีมาล เชื่อกันว่าใช้ให้หญิวที่จะคลอดบุตรท่องจะช่วยให้คลอดง่าย...หลังจากได้ช่วยชีวิตคน ความเกลียดชังของผู้คนต่อตัวท่านในฐานะผู้ฆ่าก็ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ.....
.... คือมันเป็นเรื่องเล่านะคะ.... ถ้าใช้เหตุผลจับประเด็นก็คงติดข้องหลายอย่าง...เช่น
คนชั่วแบบนั้น ฆ่าคนขนาดนั้นบรรลุพระอรหันต์ได้อย่างไร
ชั่วขนาดนั้น ทำไมบวชได้ พระพุทธเจ้ายอมบวชให้ได้ยังไง
คาถาคลอดง่ายอะไร เพ้อเจ้อ มีจริงหรือเปล่า
การข้องกับสิ่งเหล่านี้ บางครั้งก็ไม่มีประโยชน์ เพราะมันเป็นแค่ความเห็นที่ตรง หรือไม่ตรงใจเรา...และไม่ได้พัฒนาให้ตัวเราดีขึ้น... แต่คำถามแบบบนี้พิสูจน์ได้ด้วยการลงมือปฏิบัติ... . ให้เข้าถึงสัจจธรรมได้ด้วยตัวเอง... จะหายสงสัย จะรู้และมีคำตอบ... ถ้ายังทำไม่ได้ก็จะได้แค่ สงสัยไปเรื่อยๆค่ะ... .. ฉะนั้นถ้าสงสัยแล้วไม่ปฏิบัติเพื่อพิสูจน์ ก็คือ.... สูญเปล่า
ถ้ารับรู้ด้วยมุมแบบนี้เป็นหลักก็อาจจะเอาแต่สงสัย มีข้อติดขัดเป็นระยะๆ เอะอะก็คิดแค่จะพิสูจน์ความฉลาดตนที่คิดได้... ... เห็นแบบนี้ก็ไม่ผิดอะไรค่ะ แต่มันก็แค่ความคิดเห็นตามความเชื่อ หรือไม่เชื่อแค่นั้น... เสียเวลา
1
แต่ถ้ารับรู้อีกมุมคือ...
คนเราแม้พื้นฐานจิตใจจะดีอยู่เดิม ก็ชั่วเพราะหลงเชื่อคนพาลที่พาหลงผิดได้
อย่าเชื่อเพราะแค่คนนั้นเป็นครู คนนั้นน่าเชื่อถือ อย่างน้อยก็ต้องคิด ใคร่ครวญ ตรึกตรอง ให้ดี
การหลงเชื่อคนพาลพวกนี้เพราะสติปัญญาอ่อนด้อย คิดใคร่ครวญอย่างลึกซึ้งไม่ได้ หรือขาดประสบการณ์
กัลยณมิตรคือผู้เตือนสติ ชี้ผิดถูก การพบกัลยาณมิตรคือโชคดี มีผู้ชี้ขุมทรัพย์
2
คนเราเมื่อสำนึกผิดด้วยใจจริง มองเห็นความผิดคิดชั่วของตนแล้วละอายต่อบาปนั้น ก็ย่อมพัฒนาจิตใจให้ดีขึ้นได้ ขอให้ตั้งใจ
การให้โอกาส ให้อภัยกันในสังคม สำหรับคนหลงผิดที่สำนึกได้จริง เป็นการสร้างคนดีอีกวิธีหนึ่ง
การถูกลงโทษจากผลการกระทำของตัวเอง มีเสมอแม้กฎหมายอาจทำอะไรไม่ได้
ผู้เข้าใจโลกจะยอมรับกฎแห่งกรรม
เมื่อเข้าถึงสัจจธรรมแท้แล้ว จิตไม่ข้องกับอะไรเลย แม้อดีต วางทุกข์ในปัจจุบัน ไม่กังวลอนาคต... นี่ล้วนเป็นผลของการเข้าถึง... ส่วนเหตุนั้น คือการฝึกจิตอย่างถูกต้องเหมาะสม ตรงทาง ไม่ใช่ฝึกเอาอัไร แต่ฝึกให้จิตกลับสู่ธรรมชาติเดิมแท้เพื่อเรียนรู้ความจริงทั้งหลายด้วยตัวจิตเอง....
การเห็นแง่มุมเหล่านี้... เห็นผิดที่ตรงไหน....และมีประโยชน์กับชีวิตหรือเปล่า...
คนพุทธต้องฉลาดใช้เรื่องเล่าพาเราเข้าถึงความจริงค่ะ
1
ถ้าเราเปิดใจรับรู้ในอีกแง่มุม เราก็จะได้เรียนรู้อีกแบบค่ะ.....
โฆษณา