14 ส.ค. 2023 เวลา 07:40 • ความคิดเห็น

เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ ตอนอายุ 31 ก็ไหวอยู่นะ?

ความเหนื่อยล้าของคนวัย 31 จะมีมากกว่าตอนเราอายุ 22 สักแค่ไหนเชียวนี่เป็นคำถามที่อยู่ในใจของผมจนผมพยายามอยากจะฝึกภาษาอังกฤษให้ได้ในระดับ C Level ของ English Proficiency ซึ่งจริง ๆ มันก็ยากเหมือนกันนะ
แต่ไม่เป็นไร ความฝันของผมสำคัญที่สุด
เราได้วางแผนไว้ในการเรียนภาษาอังกฤษในแต่ละวันก็คือ 1 ชั่วโมงทุกวัน
เริ่มต้นด้วยการวางแผน... และเราก็เจออุปสรรค
จากที่เราเริ่มต้นเราไม่สามารถอยู่กับภาษาอังกฤษได้ครบ 1 ชั่วโมงมาตลอด
ซึ่งความจริงก็คือ เรากลับบ้านมาถึงบ้านตอน 6 โมงเย็น กินข้าว อาบน้ำ เดินไปคุยกับย่าและวาง To do list ในวันต่อไป ก็ปาเข้าไป 2 ชั่วโมงแล้วล่ะ
ขณะนี้เวลา 20.00 น. เราใช้เวลา 1 ชั่วโมงไปกับการอ่านหนังสือ TOEIC แต่เราจับความอะไรไม่ได้เลย เพราะพื้นฐานเรายังไม่แน่นมากพอที่จะทำข้อสอบตรงนั้นได้
เราเลยไปซื้อหนังสือเกี่ยวกับแกรมม่าพื้นฐานไว้สำหรับทบทวนรายละเอียดรูปแบบต่าง ๆ ของภาษาอังกฤษเลย จริง ๆ เราก็มีพื้นฐานมาอยู่บ้างนะ แต่ไม่ได้แน่นจนเขียน Essay ได้ เราเลยเลือกที่จะวางพื้นฐานของการเรียนก่อน ซึ่งตอนนี้เราก็ทำได้ดีขึ้นเรื่องและเข้าใจคำศัพท์ต่าง ๆ ที่ใช้บ่อย ๆ ได้
แต่ก็ยังใช้เวลาอ่านหนังสือภาษาอังกฤษไม่ครบ 1 ชั่วโมงอยู่ดี
เราเลยลองไปหาดูในเว็บภาษาอังกฤษดูว่ามีอะไรแนะนำบ้าง ในเว็บไซด์ก็ได้ตอบว่าต้องเรียนภาษาอังกฤษจากการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ดูหนัง ฟังเพลง บลา ๆ ๆ ๆ
ผมทำทุกอย่าง ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่มันยังไม่ถูกจุดสักที
จนผมได้เข้าในแอพลิเคชั่นที่ชื่อว่า Duolingo แอพนกสีเขียวน่ารักตะมุตะมิ ได้ทำให้ผมติดงอมแงม ในแอพนั้นมีการฝึกเรียงประโยคภาษาอังกฤษ การพูดภาษาอังกฤษ การเติมประโยค การจับคู่ประโยคและฟังก์ชั่น อีกมากมาย ไม่ใช่แค่เรียนภาษาแต่สามารถแข่งกับเพื่อนในแรงค์กิ้งต่าง ๆ ได้ด้วย
แอพฟรีสามารถหาโหลดใน App store และ Play store ได้เลยนะครับ แต่สำหรับผมใช้รายปี 900 กว่าบาทเท่านั้นเองก็สามารถเรียนรู้ภาษาอังกฤษและสนุกอีกด้วย
จนถึงตอนนี้เราก็สามารถเรียนภาษาอังกฤษได้ทุกที่ทุกเวลา
และปรับเปลี่ยนแผนการเรียนภาษาอังกฤษ ควบคู่ไปกับการปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนภาษาอังกฤษทุกอย่าง
#Duolingo #ฝึกภาษาอังกฤษ #Howto
โฆษณา