14 ส.ค. 2023 เวลา 14:28 • ท่องเที่ยว
Nong Khiaw Bridge

หนองเขียว เมืองงอย เมืองพี่น้องสุดสโลไลฟ์ริมฝั่งแม่น้ำอู

หนองเขียว เมืองงอย สองเมืองที่แต่ก่อนคือเมืองงอย แต่ด้วยปัญหาด้านการเดินทาง ทำให้มีชาวบ้านบางส่วนย้ายมาปลูกบ้านในพื้นที่สะดวกต่อการคมนาคมมากขึ้น เริ่มจากบ้านไม่กี่หลัง กลายเป็นหมู่บ้านใหญ่ เราเลยเรียกหมู่บ้านใหม่นี้ว่าเมืองงอยใหม่ หรือที่นักท่องเที่ยวต่างรู้จักกันในชื่อเมืองหนองเขียว
ทางขึ้นผาแดง
เมืองงอยเดิมจะอยู่ลึกเข้าไปมีถนนเส้นเล็กๆไว้ใช้ในการคมนาคม แต่ในช่วงฤดูฝนไม่สามารถใช้ถนนเส้นนี้ได้เนื่องจากถนนเละ และถนนบางช่วงขาด ทำให้ต้องใช้เรือล่องไปตามแม่น้ำอูเพื่อเดินทาง เรียกได้ว่าเสน่ห์ของเมืองงอยก็คือการเดินทางโดยเรือเพื่อเข้าไป
หนองเขียว ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาที่นี่คือธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และวิถึชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวลาว อีกหนึ่งสิ่งคือวิวด้านบนผาแดง ซึ่งเราได้เขียนไปในบทความก่อนหน้านี้แล้ว
บรรยากาศภายในเมืองหนองเขียว
เมืองที่มีแม่น้ำอูไหลผ่านกลางเมือง มีสะพานคอนกรีตเป็นตัวเชื่อมระหว่างสองฝั่ง ซึ่งคือหนึ่งในมุมที่หลายคนมาเมืองนี้ต้องมาถ่ายรูปอัปไว้โซเชียล เป็นจุดที่สามารถมองวิวเมืองหนองเขียวได้กว้าง 360 องศา มองเห็นภูเขาสีเขียวสลับซับซ้อน รวมถึงจุดที่นิยมมาดูพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก
จุดเช็คอินยอดนิยม
หลังจากเราค้างที่หนองเขียวหนึ่งคืน เราก็มีแพลนจะไปที่เมืองงอยกันต่อ ถ้าพูดถึงไฮไลท์ของเมืองงอย เราว่าการนั่งเรือเข้าไปนี่แหล่ะคือไฮไลท์
เมืองงอยเก่า หรือที่เราเรียกกันว่าเมืองงอย เมืองเล็กๆ ถ้าใครอยากสัมผัสความสโลว์ไลฟ์เราแนะนำให้มาที่นี่ เมืองที่สามารถเดินเที่ยวได้โดยใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวัน เรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้านแบบดั้งเดิม ที่พักที่เราพักจะอยู่ใกล้กับท่าเรือ ในตอนเช้าจะเห็นชาวบ้านเอาผ้าไปซักริมแม่น้ำ ออกเรือหาปลา สูดอากาศบริสุทธิ์ปราศจากมลพิษของฝุ่นควันเข้าปอดให้เต็มปอด
1
ส่วนไฮไลท์ของเมืองงอยคือการขึ้นไปบนผาน้อยแล้วทอดมองวิวจากมุมสูง โดยเสียค่าเข้าคนล่ะ 10000 กีบ หลังจากเสียค่าเข้าแล้วก็จะเดินผ่านสวนก็กาแฟเล็กๆ เข้าไปถึงจุดขึ้น ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็มาถึงด้านบน ด้านบนจะมีศาลาให้นั่งพักเหนื่อย และดูวิวมุมสูง 360 องศา
วิวด้านบนผาน้อย
หลังจากเราดื่มด่ำบรรยากาศจนอิ่มหนำสำราญแล้ว ก็มาเดินสำรวจเมืองงอยในตอนเย็นสักหน่อย บรรยากาศเงียบสงบกับอากาศที่ไม่ร้อนมาก ตอนที่ไปเป็นช่วงเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะมาก มีแค่ 2-3 กลุ่ม หลังจากเราแวะทานข้าวเสร็จก็ไปดื่มด่ำสัมผัสบรรยากาศของเสียงดนตรีเคล้าไปกับดีกรีของน้ำเก๊กฮวยเล็กน้อย ซึ่งทั้งร้านมีกลุ่มเราแค่โต๊ะเดียว หลังจากร้านปิดก็ได้เวลาแยกย้ายกันในตอนห้าทุ่มกว่า ซึ่งทั้งเมืองปิดไฟเงียบกันหมดแล้ว
บรรยากาศตอนเย็นเมืองงอย
ตื่นเช้ามาได้เวลาเดินทางกลับ ซึ่งเรือขากลับมีแค่หนึ่งเที่ยวต่อวันเท่านั้นออกในตอนเก้าโมงครึ่ง ขากลับเราใช้เวลาไม่มากเท่าตอนมาเพราะเรือพัดตามกระแสน้ำ นั่งดื่มด่ำสัมผัสบรรยากาศ ทอดมองวิวสองฝั่งข้างลำน้ำอูก็ดูชิวไปอีกแบบ
แผนที่เมืองงอยพอสังเขป
จากความคิดที่จะมาแค่ถ่ายรูปกับสะพานข้ามแม่น้ำอูที่เมืองหนองเขียว แต่โชคชะตาก็ได้ทำให้เราได้ขึ้นไปนอนบนผาแดง แล้วพี่แจ็คก็พูดว่า ‘มาถึงหนองเขียวทั้งที ไม่ไปเมืองงอยได้ไง’ ประโยคที่ทำให้เราติดสอยห้อยตามพวกพี่เขาจนมาถึงเมืองเล็กๆที่สโลว์ไลฟ์แบบนี้
สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ
📌 ค่ารถหลวงพระบาง หนองเขียว 70000 กีบ มีรถรอบ 9.00, 11.00 และ 14.00 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง ขึ้นที่ บขส สายเหนือ
📌 ค่ารถสองแถว จาก บขส หนองเขียว เข้าไปในเมือง 10000 กีบ
📌 ราคาค่าขึ้นไปนอนบนผาแดง และหมูกระทะ 650 บาท ถ้าไม่นอนด้านบนขึ้นฟรี
📌 ค่าตั๋วเรือไปหนองเขียว เมืองงอย 25000 กีบ ออกเรือ 3 ครั้งต่อวัน 09.30, 11.30 และ 14.30 นาฬิกา ส่วนขาดลับเมืองงอย หนองเขียว มีวันละครั้ง เวลา 09.30 นาฬิกา
📌 ค่าเข้าผาน้อยคนละ 10000 กีบ
นอนบนผาแดง จองผ่าน
Nongkeaw Adventure Tour
☎️ : +8562022022555
โฆษณา