15 ส.ค. 2023 เวลา 06:26 • คริปโทเคอร์เรนซี

dogecoin standard ตอนที่ 319 ต้นเหตุของปัญหาโลกร้อน /climate change/

ในปัจจุบันปัญหาเรื่องโลกร้อน ได้พูดถึงอย่างกว้างขวาง ซึ่งในตอนนี้ผู้เขียนจะลองอธิบายปัญหาผ่านทฤษฎีใหม่ของผมเอง โดยใช้ปัจจัย 2 ตัวคือ จำนวนประชากรโลก(หน่วยเป็น พันล้านคน )กับ velocity of money เป็นตัวอธิบาย
1
ผู้เขียนตั้งสมมุติฐานว่า ถ้าเอาจำนวนประชากรโลก คูณกับ velocity จะได้ตัวเลขสูงสุดคือ 10,000 หน่วยต่อปี เป็นเหมือนกับพลังงานความร้อนที่โลกรับไหว หากตัวเลขเกินนี้แปลว่าจะมีพลังงานสะสมเกิน ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
1
velocity เริ่มกลับมาเกิน 1.25 แล้ว แปลว่าวิกฤตใหญ่กำลังจะตามมา
ก่อนเกิดโควิด 19 velocity of money อยู่ที่ 5-6 เท่า ในขณะที่ประชาประมาณ 7,500 ล้านคน ถ้าคิดเป็นพลังงานความร้อน = 7500*6= 45,000 หน่วย ในขณะที่โลกรับตัวเลขนี้ได้ประมาณ 10,000 หน่วยเท่านั้น
2
เราก็มาค้นดูย้อนหลังว่าปัญหาโลกร้อน พลังงานเกินเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ปีไหน
จำนวนประชากรโลก และอัตราการเพิ่มของประชากร จะเห็นว่าจำนวนประชากรสามารถเพิ่มขึ้นไปได้ถึง 10,000 ล้านคนเลย ในปี 2080
จากชาร์ทจะพบว่า ปัญหาโลกร้อนเริ่มมาจากปี 1960 ตอนนั้นประชากรโลก 2,500 ล้านคน velocity=4 เท่า ถ้านำมาคูณกันจะได้ 10,000 หน่วย เป็น จำนวนสูงสุดที่สิ่งแวดล้อมรับไหว ใน 1 ปี
ในปี คศ. 2000 ประชากร 6,000 ล้าน velocity 9 เท่า จะได้ 54,000 หน่วย
ในปี คศ. 2010 ประชากร 7,000 ล้าน velocity 10 เท่า จะได้ 70,000 หน่วย เกิน 10,000 ไปมหาศาล
แสดงว่าปัญหาเรื่องพลังงานเกินเหมือนเป็นหนี้สินเริ่มสะสมมาเป็นเวลายาวนานเกิน 60 ปี และเริ่มส่งผลกระทบอย่างรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ fake news อย่างแน่นอน มาพร้อมกับประชากรที่มากขึ้น และ กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น (velocity economy )
คำนวณพลังงานส่วนเกินตลอด 60 ปีนี้จะได้ประมาณ 1.8 ล้านหน่วย
บังเอิญกับช่วงปี 2020 ได้มีปัญหาโควิด 19 ซึ่งได้มาทำลาย velocity จาก 6 เท่าเหลือ 1 เท่ากว่า ๆ ซึ่งเหมือนเป็นตัวมาหยุดภาวะโลกร้อนนี้ ไม่ให้เลวร้ายขึ้น แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น เหมือนเราไม่ก่อหนี้เพิ่ม แต่ยังไม่ได้ใช้หนี้สินเลยสัก 1 หน่วย
ถ้าเราลองใช้ทฤษฎีนี้มาคำนวณพลังงานส่วนเกิน จะได้เท่ากับ 30,000 หน่วย *60 ปี = 1,800,000 หน่วย เยอะมาก
ประมาณว่าโลกมีรายได้ปีละ 10,000 หน่วย ถ้าใช้คืนปีละ 1,000 หน่วย จะใช้เวลา 1,800 ปี
ถ้าเอาแบบไม่มีมนุษย์เลย มนุษย์สูญพันธุ์ ก็คือใช้คืนปีละ 10,000 หน่วยเลย จะใช้เวลา 180 ปี
พอคำนวณตามทฤษฎีนี้แล้วรู้สึกว่าธรรมชาติเสียหายหนักกว่าที่เคยคิดไว้มาก และไม่รู้ว่าจะกลับคืนมาเป็นปกติได้อีกหรือไม่ สงสัยต้องย้ายไปอยู่ใน matrix กันตั้งแต่วันนี้เลยหรือไม่
3
สาเหตุหลักมาจากระบบการเงินที่สร้างเงินจากหนี้สิน +อาศัย velocity ในการหมุนเงิน และจำนวนประชากรโลกที่มากเกินไป ไม่มีการควบคุม
ก็คือ velocity economy นั่นเอง ซึ่งต่อไปไม่มีทางกลับไแใช้ระบบนี้ได้อีกนานแสนนาน ต้องเปลี่ยนระบบเป็น UBI economy อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องพยายามกด velocity ให้ต่ำมากๆ
1
จำนวนประชากรปัจจุบันคือ 8,000 ล้านคน ถ้ายอมปิดประเทศ ปิดเมืองเหมือนช่วงโควิด ลด velocity ให้เหลือ 1.0 ก็จะเท่ากับใช้หนี้ปีละ 2,000 หน่วย ไม่เพิ่มจำนวน ประชากรอีก ก็ใช้เวลาประมาณ 900 ปี
1
โอกาสที่จะไม่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ยังมี แต่น้อยลงเรื่อย ๆ เมื่อ velocity ในปัจจุบันขึ้นมาเกิน 1.25 แล้วอยู่ที่ 1.446 สถานการณ์เริ่มแย่ลงอีกครั้งหลังเปิดประเทศ คนส่วนใหญ่ไม่ยอมให้จำกัด velocity อยากใช้ชีวิตเหมือนเดิม เกิดการประท้วงขึ้นทั่วโลก
2
เมื่อควบคุม velocity ไม่ได้ ก็ต้องมาควบคุมจำนวนประชากรแทน เป็นสาเหตุของสงครามโลกครั้งที่ 3 โดยตรง เพื่อลดจำนวนประชากร ความต้องการของทานอส เพื่อลดประชากรลง 50% อาจจะเป็นจริงขึ้นมาได้
2
dogecoin standard is inevitable...เพื่อสร้างระบบการเงินใหม่ที่ไม่อาศัย velocity นั่นคือ ubi economy นั่นเอง มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากปัญหาสิ่งแวดล้อม
1
dogecoin standard
not financial advisor
บทความนี้อาจจะยากไปนิดหนึ่ง ต้องอ่านหลาย ๆ รอบ ถ้าสงสัยก็ถามใน comment นี้ได้นะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา