15 ส.ค. 2023 เวลา 04:54 • ปรัชญา
คำตอบก็อยู่ในคำถามเลยครับ สิ่งทั้งหลายทั้งปวง สิ่งที่จับต้องได้และไม่ได้
อารมณ์? กาย? วาจา? ความมั่นคง?
สิ่งหนึ่งที่พวกเรามนุษย์ด้วยกันเองก็ยังเผลอมองข้ามและก็ยึดมั่นถือมั่นอย่างเอาจริงเอาจัง ก็คือ หลักธรรมและคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือของพระเยซูหรือตามที่ศาดาต่างๆสอนกันมา ทั้งๆที่หัวใจของพุทธศาสนาคือการปล่อยว่างไม่ยึดติด พวกเรากลับ ยึดติดคำสอนแทนว่า "เราจะต้องไม่ยึดติดนะ"
1
มนุษย์อย่างเราๆมีแนวโน้มที่จะสามารถไม่ยึดติดกับสิ่งที่มองเห็นได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่มองเห็น ชื่อเสียง? เงินทอง? เกียรติยศ? อันนี้เรายังพอเห็นมัน แต่ว่า ความเชื่อ คำสอน สิ่งเหล่านี้ที่พ่อแม่ปู่ย่าตายายสอนเรามา แล้วก็บอกเล่ากันสืบต่อๆกันมาจนเป็นความเชื่อ และสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น แล้วก็ไม่มีแม้แต่จะตั้งข้อสงสัยกับมันว่า มันอย่างนั้นจริงๆไหม เราเชื่อตามๆกันมาและนั้นก็คือสิ่งที่เรียกว่า ยึดติด ได้เช่นกันครับ
1
การยึดติดยึดมั่นไม่ได้เป็นสิ่งผิดครับ แต่ถึงเมื่อถึงเวลาเราก็ต้องปล่อยออกไป อีกสิ่งหนึ่งที่พระพุทธเจ้าเคยตรัสหรือสอนเอาไว้อีกอย่างคือ อย่าเชื่อตามๆกัน แต่ให้ทดลองและพิสูจน์ความเชื่อนั้นด้วยตัวเอง (คำอาจเป็นตรงตามต้นฉบับแต่ความหมายประมาณนี้) ก็คืออย่ายึดถือตามๆกัน ใครเชื่ออย่างไรเราก็เชื่ออย่างนั้น นั้นก็ไม่ใช่ความเชื่อเช่นกัน นั้นเป็นความงมงาย
1
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ และเข้าถึงหลักธรรม หรือหัวใจของพุทธศาสนา ว่า "สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น" ตามที่คุณกล่าวมา แต่นั้นก็เป็นของพระพุทธเจ้า เราก็ไม่ควรจะยึดติดกับหลักคำสอนหรือยึดติดกับหลักหัวใจพุทธศาสนาเช่นกัน เราควรจะตรัสรู้ได้ด้วยตนเอง และเข้าถึงหัวใจของเราหรือจิตเดิมแท้ของเราและนั้นจะเป็นหลักหัวใจของเราแต่ละคน
1
ย้ำว่าการ ยึดติดไม่ผิด และการไม่ยึดติดก็ไม่ผิดเช่นเดียวกัน ถ้ามันผิดจริงๆป่านนี้คนที่ยึดติดก็คงถูกพวกวิญญาณที่รักษากฏหมายพาไปขังคุกกันหมดแล้วล่ะ แต่ว่ามันไม่มีน่ะสิ
1
โฆษณา