15 ส.ค. 2023 เวลา 05:33 • หุ้น & เศรษฐกิจ

จีนอ่วม‼️ Shadow Banking นับถอยหลังระเบิดเวลาลูกใหม่แต่หน้าเก่าของจีน

ทางด้าน Zhongzhi Enterprise Group ที่บริหารเงินประมาณ 1 ล้านล้านหยวน หรือคิดเป็นประมาณ 1.38 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ได้กลายเเป็นประเด็นอันดับหนึ่งที่ถูกพูดถึงกันในขณะนี้ หลังจากลูกค้าองค์กรของบริษัทหลายรายเปิดเผยว่าหน่วยทรัสต์ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทได้ค้างชำระเงินหลายรายการ
3
ทางด้าน Zhongzhi ถือเป็นบริษัทบริหารจัดการความมั่งคั่งเอกชนรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของจีน และได้ก่อให้เกิดความวิตกกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับ Shadow Banking หลังผิดนัดชำระเงินสำหรับผลิตภัณฑ์การลงทุนประเภท High Yield หลายรายการในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดย Zhongzhi เป็น 1 ในผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมทรัสต์ของจีนที่มีมูลค่า 2.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการรวมเอาลักษณะเฉพาะของธนาคารพาณิชย์และวาณิชธนกิจ, private equity และการบริหารความมั่งคั่งเข้าด้วยกัน (ซึ่งสถานบันการเงินปกติเค้าไม่มีใครทำกัน ทำให้มีชื่อเรียกบริษัทพวกนี้ว่า Shadow banking หรือทำตัวเป็นเป็นธนาคารนั้นเอง ทั้งๆที่ตัวเองไม่ใช่ และพอตัวเองไม่ใช่สถานบันการเงิน กฏระเบียบต่างๆจะค่อนข้างหละหลวมกว่า)
3
โดยบริษัทในกลุ่มนี้จะรวบรวมเงินออมจากคนที่ร่ำรวยและลูกค้าองค์กรเพื่อปล่อยสินเชิ่อ และลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หุ้น พันธบัตร และสินค้าโภคภัณฑ์ โดยในปัจจุบัน Zhongzhi บริหารจัดการสินทรัพย์ประมาณ 1 ล้านล้านหยวน (1.38 แสนล้านเหรียญสหรัฐ)
ขณะที่ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจาก Zhongrong Trust ซึ่งก็คือ Trust เพื่อการลงทุน โดยมีผลิตภัณฑ์ 270 รายการ และมูลค่ารวม 3.95 หมื่นล้านหยวนที่จะครบกำหนดในปีนี้ (ตามข้อมูลของ Use Trust ) ขณะที่อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นอยู่ที่ 6.88% ซึ่งถือว่าสูงมากๆเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารอายุ 1 ปีที่ 1.5% โดยทางด้าน Zhongzhi มีสัดส่วนเป็นเจ้าของใน Zhongrong Trust ถึง 33% นั่นเอง
1
โดยในวันที่ 11 ส.ค. มีบริษัท 3 แห่งบอกว่าพวกเขาไม่ได้รับการชำระเงินสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ออกโดยบริษัทที่เชื่อมโยงกับ Zhongzhi รวมถึง Zhongrong Trust อีกด้วย โดยทางด้าน Zhongrong ได้เปิดเผยสถานการณ์ดังกล่าวต่อสาธารณะชนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และยังบอกอีกว่าพวกเขารับทราบถึงเรื่องจดหมายปลอมที่ถูกแชร์บนโซเชียลมีเดียที่มีเนื้อหาว่า “บริษัทไม่สามารถดำเนินการได้อีกต่อไป” และทางบริษัทได้รายงานเรื่องดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว หรือพูดง่ายๆก็คือปฏิเสธอยู่นั่นเอง
1
นอกจากนี้เองในจดหมายอีกฉบับหนึ่งที่ยังไม่ได้รับการยืนยันซึ่งเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย มีเนื้อหาที่ระบุว่าผู้จัดการความมั่งคั่งของ Zhongzhi ได้ขอโทษลูกค้าโดยกล่าวว่า บริษัทได้ตัดสินใจที่จะชะลอการชำระเงินสำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม นอกจากนี้จดหมายดังกล่าวยังระบุอีกว่า ผลกระทบจะเกี่ยวข้องกับนักลงทุนมากกว่า 150,000 ราย ซึ่งมียอดการลงทุนรวม 2.3 แสนล้านหยวน
2
🔥 ถ้าถามว่าทำไมเรื่องนี้ถึงน่ากังวลมาก?
ความไว้วางใจของนักลงทุนตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมานานหลายปีหลังจากหน่วยงานกำกับดูแลของจีนเริ่มควบคุม shadow banking ในปี 2017 แต่ในประเด็นของ Zhongzhi ดันมาเกิดขึ้นในเวลาที่ค่อนข้างแย่มากๆ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ทั้งโลกนั้นกังวลเกี่ยวกับการฟิ้นตัวของเศรษฐกิจและตลาดอสังหาฯจีนอยู่แล้วนั้นเอง
2
โดยก่อนหน้าที่จีนเพิ่งเผชิญกับการที่บริษัท Country Garden ซึ่งหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาฯรายใหญ่ที่สุดของประเทศ กำลังใกล้จะผิดนัดชำระหนี้ ขณะที่ยอดการปล่อยสินเชื่อของภาคธนาคารจีนลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งเป็นสัญญาณของความต้องการที่ลดลงจากภาคธุรกิจและผู้บริโภค
2
นอกจากนี้หน่วยทรัสต์ของ Zhongzhi เองยังได้เข้าซื้อหุ้นในโครงการอสังหาริมทรัพย์เมื่อปีที่แล้ว โดยวางเดิมพันว่าตลาดอสังหาฯจะฟื้นตัวในปีนี้ และจะได้นำเงินมาจ่ายคืนผู้ลงทุนได้ในปีนี้ แต่อย่างที่เราทราบๆกันคือ ตลาดอสังหาฯจีนยังคงซบเซาต่อเนื่อง
1
โดยสัดส่วนการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์คิดเป็น 11% ของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารของ Zhongrong ตามรายงานประจำปีของปีที่แล้ว และเป็นหนึ่งในบริษัทที่เข้าซื้อหุ้นในโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างน้อย 10 โครงการ โดยเดิมพันว่าโครงการบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จจะได้เงินสดมาชำระเงินคือให้กับกองทุนที่มีอสังหาฯเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันมูลค่ากว่า 2.3 แสนล้านดอลลาร์
นอกจากนี้เองข้อมูลจาก Use Trust ยังระบุอีกว่า มีผลิตภัณฑ์ trust ทั้งหมด 106 รายการ มูลค่า 4.4 หมื่นล้านหยวน ผิดนัดชำระหนี้ในปีนี้ (นับจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม) โดยมีการลงทุนด้านอสังหาฯคิดเป็นมูลค่าถึง 74% ด้วยกัน
3
นอกจากนี้ยังมีสัญญาณเพิ่มเติมอีกว่าทางการจีนค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับการที่บริษัทอาจก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้างหรือ domino effect โดยผู้กำกับดูแลการธนาคารของจีนหรือ National Financial Regulatory Administration ได้จัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาเพื่อตรวจสอบความเสี่ยงที่ Zhongrong เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำหนดให้ Zhongrong ต้องรายงานแผนการชำระเงินในอนาคตรวมถึงสินทรัพย์ที่มีอยู่ที่สามารถนำมาใช้เพื่อจัดการกับวิกฤตสภาพคล่องได้
ประกอบกับเมื่อเช้าที่ผ่านมาทางแบงก์ชาติจีนหรือ PBoC ยังได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยแบบ Surprice ตลาด โดยปรับลดดอกเบี้ย MLF อายุ 1 ปีลงอีก 0.15% มาอยู่ที่ 2.5% รวมถึงยังปรับลดอัตราดอกเบี้ย reverse-repo อายุ 7 วันลงอีก 0.10% มาอยู่ที่ 1.8% เพื่อเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบจากประเด็นดังกล่าวอีกด้วย
🎯 ดังนั้นแล้วนิคกี้มองว่าเรื่องนี้ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดมากๆ เพราะผลกระทบยังไม่ชัดเจน และข่าวต่างๆยังไม่นิ่ง แต่ที่แน่ๆคือเรื่องนี้ส่งผลต่อ sentiment และความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาด และน่าจะทำให้หุ้นจีนมี downside risk อีกพอสมควร แนะนำให้ชะลอการลงทุนในหุ้นจีนทั้งหมดไปก่อนจนกว่าเราจะมีข้อมูลผลกระทบ และความเสี่ยงเพิ่มเติมคะ
1
Source: Bloomberg
#เศรษฐกิจ #การเงิน #ลงทุน #กองทุน #มือใหม่ #ข่าวเศรษฐกิจทั่วโลก #ข่าวทั่วโลก #หุ้น #กองทุนรวม #Recession #เศรษฐกิจถดถอย #วิกฤติเศรษฐกิจ #วิกฤติ #inflation #จีน #ShadowBanking #Zhongrong #Zhongzhi
โฆษณา