15 ส.ค. 2023 เวลา 08:39 • ความคิดเห็น
พุทธศาสนาจาพมหาศาตร์สดา ผู้บำเพ็ญเพียรจนบรรลุโสดาบัน
บรรลุธรรม โดยเหล่าสาวกผู้ "เชื่อชอบรักศรัทธา" ร่วมกันกล่าวว่า
เสร็จหรือสำเร็จ หรือพระพุทธเจ้าทรงกำหนดปลายทางเพียรพยายามว่า"บรรลุ"
จากการพิสูจน์ทั้งรูปธรรมทางวิทยาศาสตร์ และนามธรรมที่อาจอธิบายได้ยาก
แต่ให้พุทธสานิกชนเป็นผู้ปฏิบัติพิสูจน์ด้วยตนเอง ก็เสมือนพระองค์ทรง
เขียนหนังสือชื่อ"พุทธศาสนา"ไว้ และผู้คนก็นำมาปฏิบัติเพื่อพิสูจน์เป็นรูปธรรม
ให้เกิดกับความเข้าใจของตนเอง
1
เดิมพระองค์ก็เป็นเหมือนนักวิทยาศาตร์พุทธะ ตั้งสมมุติฐานไว้ วางแนวทาง
คำสอนการปฏิบัติไว้ เพื่อให้คนอื่นๆพิสูจน์รับรู้และพูดคุยเล่าเรื่องบอกต่อ
ใจลึกๆอาจคิดว่าถ้าสำเร็จแล้วไม่เผยแพร่ก็เสียประโยชน์ก็เลยนำพาแนวคิด
ออกมาเผยแผ่ ตรรกะคือพุทธศาสนาเผยแผ่แต่ให้พิสูจน์ในตน
สมมุติติฐานเพื่อให้มองกลับเข้าไปในตัวตนในจิตใจมนุษย์มากกิเลส
หลักคิดก็คือใครทำใครปฏิบัติคนนั้นก็หาคำตอบด้วยตัวเอง
Marketing แบบNGO Non Profit Organization เป้าหมายสูงสุดจึงไม่ต้องการกำไรมหาศาลแต่ต้องการให้ผู้คน"ใจเบาใจสบายๆ ทุกข์น้อยๆขัดเกลากิเลสฯลฯ"
มากกว่ามุ่งหวังว่า"ต้องพ้นทุกข์" เพราะทุกลมหายใจเข้าออกก็มีสุขทุกข์
ตลอดเวลาแม้ในจิตสมาธิ กลับกันกับวิทยาศาตร์สมมุติฐานเพื่อพิสูจน์
และร้างสมมุติฐานใหม่ไม่มีที่สิ้นสุด แอบอิงไปด้วยMarketing แบบตอบ
สนองกิเลส(ความต้องการตอบสนอง)ของลูกค้าที่ต้องการ...อยากมากิเลส
"การตอบสนองกิเลสคือวิทยาสตร์การพัฒนาที่ดีขึ้นเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด"
โฆษณา