18 ส.ค. 2023 เวลา 01:00 • สิ่งแวดล้อม

ระบบทำความเย็นฮีทปั๊ม กำลังเป็นที่นิยมในแคนาดา

ต้องยอมรับว่าแนวโน้มความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และภาวะโลกร้อนนับวันจะเป็นเรื่องใกล้ตัวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนั้น ชาวแคนาดาจึงมีความตื่นตัวที่จะปรับเปลี่ยนสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกันอย่างจริงจัง ด้วยการควบคุมการปล่อย CO2 เพื่อป้องกันภาวะโลกร้อน และหนึ่งในวิธีการที่กำลังได้รับความนิยมในฤดูกาลหน้าร้อนขณะนี้ คือ การหันมาเลือกติดตั้งระบบฮีทปั๊ม (Heat Pump) สำหรับทำความเย็นภายในบ้านแทนที่เครื่องปรับอากาศแบบดั้งเดิม
ฮีทปั๊ม (Heat Pump) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายเทความร้อนจากแหล่งที่มีความร้อนสูงกว่าเพื่อมาผลิตน้ำหรืออากาศร้อนโดยใช้อุปกรณ์เช่นเดียวกับเครื่องปรับอากาศ แต่สามารถใช้ความร้อนที่ออกจากเครื่องเพื่อไปทำน้ำร้อนหรือลมร้อน ส่วนความเย็นที่ได้สามารถนำไปใช้เป็นผลพลอยได้
โดยฮีทปั๊มเป็นเครื่องทำความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า เมื่อเทียบกับเครื่องทำความร้อนแบบอื่นเนื่องจากอาศัยหลักการถ่ายเท ทำให้ใช้พลังงานน้อยกว่าเครื่องทำความร้อนที่ใช้ฮีทเตอร์ ขณะเดียวกัน ก็สามารถเป็นระบบเครื่องทำความเย็นภายในบ้านเมื่อต้องการได้เช่นเดียวกัน
A pair of air source heat pumps, an eco-friendly home heating solution, installed at a contemporary
ซึ่งนาย Peter Messenger ผู้เชี่ยวชาญระบบปรับอากาศ HVAC (Heating, Ventilation , Air Conditioning) และเจ้าของบริษัท A1 Airconditioning and Heating จากเมืองโอ๊ควิลล์ รัฐออนทาริโอ ได้เผยถึงความต้องการชาวแคนาดาที่ต้องการติดตั้งระบบฮีทปั๊มเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เนื่องจากผู้บริโภคได้ตระหนักถึงสภาพอากาศที่ร้อนและรุนแรงมากขึ้น นอกจากนั้น เทคโนโลยีของระบบฮีทปั๊มที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงเงินส่วนลดจากรัฐบาลที่ส่งเสริมนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมได้มาเป็นปัจจัยที่ให้ผู้บริโภคหันมาติดตั้งระบบฮีทปั๊ม แทนการเลือกใช้เครื่องปรับอากาศหรือระบบเตาเผาไหม้จากก๊าซธรรมชาติ
นาย Peter กล่าวเพิ่มเติมว่า ในอนาคตธุรกิจของตนจะยกเลิกบริการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ และจะหันมาให้บริการระบบฮีทปั๊มอย่างเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมการผลิตหรือโรงงานต่าง ๆ ได้มีการใช้ระบบฮีทปั๊มมานานแล้ว แต่ทว่ายังไม่ค่อยได้รับความนิยมในบ้านเรือนมากนัก วัดได้จากจำนวนการติดตั้งระบบฮีทปั๊มในปี 2543 อยู่ที่ราว 400,000 เครื่อง แต่ในวันนี้พบจำนวนการติดตั้งเพิ่มเป็นสองเท่าจากในอดีต และคาดว่าจะคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน นาย Greg Donahue ผู้จัดการฝ่ายสินค้า บริษัท Reliance Home Comfort ผู้จัดจำหน่ายระบบฮีทปั๊มในประเทศ กล่าวถึงยอดจำหน่ายอุปกรณ์ฮีทปั๊มช่วงปีนี้ขยายตัวมากกว่า 7 เท่าจากปีก่อนหน้า ถือเป็นการส่งสัญญาณถึงความต้องการชาวแคนาดาที่มองหาระบบให้ความร้อนและความเย็นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ซึ่งมีต้นทุนค่าใช้จ่ายเท่าเดิมหรืออาจต่ำกว่าได้ โดยที่ผ่านมาจากสถานการณ์ไฟป่าเกิดขึ้นในประเทศและอุณหภูมิที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาเลือกติดตั้งระบบให้ความเย็นจากฮีทปั๊มแทนที่เครื่องปรับอากาศ เพราะเข้าใจถึงเทคโนโลยีการทำงานที่เหมาะกับสภาพภูมิอากาศแคนาดาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นับจากปี 2564 ที่รัฐบาลกลางแคนาดาได้มีนโยบายส่งเสริมการติดตั้งระบบฮีทปั๊มสำหรับที่พักอาศัยสายเขียว ด้วยการมอบเงินส่วนลดค่าเครื่องและอุปกรณ์มูลค่า 5,000 เหรียญแคนาดา (ราว 130,000 บาท) ต่อเครื่อง ขณะเดียวกันรัฐบาลท้องถิ่นยังมีเงินช่วยเหลือสำหรับค่าใช้จ่ายการติดตั้งให้กับเจ้าของบ้านอีกบางส่วน ซึ่งค่าใช้จ่ายการติดตั้งระบบฮีทปั๊มอยู่ที่ราว 6,000 – 14,000 เหรียญแคนาดา (156,000 – 364,000 บาท) ซึ่ง ณ วันนี้พบว่ามีชาวแคนาดาขอรับเงินส่วนลดไปกว่า 40,000 เครื่องแล้ว
Household boiler house with heat pump, barrel Valves; Sensors and an automatic control unit.
ปัจจุบันอาคารต่าง ๆ มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มาจากระบบทำความร้อนและความเย็น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 13 ของทั้งหมด รัฐบาลแคนาดามีการตั้งเป้าลดการปล่อยมลพิษทางอากาศลงจากเดิม ร้อยละ 37 ภายในปี 2030 และมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ สุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายใน 2050 โดยระบบฮีทปั๊มถือเป็นอุปกรณ์ที่เข้ามาเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคำนึงถึงความยั่งยืนในระยะยาว
รวมทั้งยังสามารถลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง ซึ่งจากการศึกษาข้อมูลของ Natural Resources Canada เผยว่า ระบบฮีทปั๊มสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายกับเจ้าของบ้านถึงปีละ 3,500 เหรียญแคนาดากว่าวิธีเตาหลอมความร้อน ขึ้นอยู่กับพื้นที่และสภาพของที่พักอาศัยเช่นกัน
Outdoor Swimming Pool Heat Pump Maintenance
ข้อคิดเห็นจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา
ปัจจุบันการติดตั้งระบบฮีทปั๊มยังมีข้อจำกัดสำหรับหลายครัวเรือน เนื่องจากต้องมีระบบท่อส่งอากาศภายในบ้าน เพื่อรองรับการกระจายความร้อนและความเย็น แต่ทว่า ด้วยเทคโนโลยีการพัฒนาระบบฮีทปั๊มที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการสนับสนุนจากภาครัฐหลายประเทศ เพื่อให้สอดรับเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ย่อมจะสามารถผลักดันระบบฮีทปั๊มให้ใช้งานแพร่หลายมากขึ้น
ในฐานะที่ไทยเป็นผู้ส่งออกเครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วนรายสำคัญของโลก ควรศึกษาการเปลี่ยนแปลงความต้องการของผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด เพราะหมายถึงตลาดนำเข้าเครื่องปรับอากาศอาจจะลดขนาดลง ดังนั้น ผู้ประกอบการควรพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตให้ทันสมัย คำนึงถึงความต้องการของตลาด มุ่งเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน เพื่อสอดรับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมแต่ละประเทศที่มีความเข้มงวดมากขึ้น
Reference
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา
โฆษณา