Blockdit Logo (Mobile)
วิทยาพาที
•
16 ส.ค. 2023 เวลา 20:21 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

ศาสตร์แห่งผี

ศาสตร์แห่งผี (Ghost science) หรือที่รู้จักกันในนามของ ปรจิตวิทยา (parapsychology) หรือ การวิจัยภาวะเหนือสามัญ (paranormal research) โดยการการศึกษาเจาะลึก เกี่ยวกับ ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ (supernatural phenomena) รวมถึงเรื่องของผี ทั้ง การปรากฏตัว (apparitions) การหลอกหลอน (hauntings) และเหตุการณ์อื่นๆ ที่ยังอธิบายไม่ได้ (unexplained occurrences) ซึ่งมักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ (criticized) และถูกด้อยค่า (marginalized)
ทั้งที่แท้จริงแล้ว ศาสตร์แห่งผีนั้นเป็นการศึกษา ที่มุ่งหมายจะใช้หลักการ (principles) และวิธีการ (methodologies) ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อทำความเข้าใจสิ่งที่ดูเหมือนอธิบายไม่ได้ ในบทความนี้ เราจะมาทำการสำรวจสาขาศาสตร์แห่งผี ทั้งในส่วนของ ประวัติความเป็นมา กรรมวิธีวิจัย ประเภทของปรากฏการณ์ผี ความท้าทายและความสงสัย รวมไปถึง ความก้าวหน้าและอนาคต
บทนำ
(Introduction)
นอกจากจะเป็นการศึกษาเกี่ยวกับผีแล้ว ยังรวมไปถึงเรื่องของ โทรจิต (telepathy) การหยั่งรู้ล่วงหน้า (precognition) และอื่นๆ ในขณะที่มักถูกพิจารณาว่า เป็นเพียงข้อถกเถียง (controversial) และ เรื่องราวที่ยังเต็มไปด้วยคำถาม
ทว่าศาสตร์แห่งผี ก็ยังพยายามใช้หลักการและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อทำความเข้าใจแง่มุมที่ดูเหมือนอธิบายไม่ได้ ของอาณาจักรแห่งเรื่องเหนือสามัญ (paranormal realm) ทั้งหลาย ผ่านคำถามสำคัญ (key questions) ทั้งหลาย ที่ผลักดันให้นักวิจัย สำรวจความลึกลับของสิ่งเหนือธรรมชาติต่อไป
Ghost science
กล่าวโดยสรุป ศาสตร์แห่งผีได้นำเสนอการเดินทางอันน่าหลงใหล (captivating journey) สู่โลกแห่งสิ่งเหนือธรรมชาติ โดยใช้วิธีการเชิงประจักษ์ (empirical methods) เพื่อสำรวจ สิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับผี และ ปรากฏการณ์เหนือสามัญ (paranormal phenomena) อื่นๆ ในขณะที่นักวิจัยพยายามไขความลึกลับของปริศนา เพื่อเชื่อมช่องว่าง (bridge the gap) ระหว่าง สิ่งที่ประจักษ์ชัด (empirical) และสิ่งที่อธิบายไม่ได้ (unexplained)
ซึ่งได้ช่วยกระตุ้นให้เกิด ความอยากรู้อยากเห็น (curiosity) และการถกเถียง (debate) เกี่ยวกับขอบเขตของวิทยาศาสตร์ (boundaries of science) และคำถามที่ลึกซึ้ง (profound questions) ที่อยู่นอกเหนือม่านของสิ่งที่ไม่รู้จัก (veil of the unknown)
การอุบัติขึ้นของศาสตร์แห่งผี
(The Emergence of Ghost Science)
การกำเนิดขึ้นของศาสตร์แห่งผี เริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ในช่วงเวลานั้น มีความสนใจเพิ่มขึ้น ในการสำรวจ ความลึกลับของสิ่งเหนือธรรมชาติ และความเป็นไปได้ของปรากฏการณ์ทางจิต (psychic phenomena) โดยนักวิจัยพยายามที่จะเข้าถึงปรากฏการณ์ เกี่ยวกับ การสื่อสารกับวิญญาณผู้ตาย ผ่านสื่อ (mediums) และการเข้าทรง (séances) ด้วยกรอบความคิดที่เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น ทั้งแนวทางเชิงวิพากษ์ (critical) และเชิงประจักษ์ (empirical)
ตัวอย่างการวิจัยที่น่าสนใจ เริ่มจาก สมาคมค้นคว้าทางจิต (The Society for Psychical Research : SPR) ซึ่งจัดตั้งขึ้นที่ลอนดอนในปี ค.ศ.1882 ซึ่งได้รวบรวมนักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ และปัญญาชนที่สนใจ ในการสืบสวนปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ที่มีการรายงาน ผ่านการสอบสวนอย่างเป็นระบบ
ถัดไป เจ.บี. ไรน์ และมหาวิทยาลัยดุ๊ก (J.B. Rhine and Duke University) โดย โจเซฟ แบ็งค์ ไรน์ (Joseph Banks Rhine) ผู้วิจัยเกี่ยวกับ การรับรู้เหนือสัมผัส (Extrasensory perception : ESP) ได้ก่อตั้งห้องปฏิบัติการปรจิตวิทยา (Parapsychology Laboratory) ที่มหาวิทยาลัยดุ๊ก ใน ปี ค.ศ. 1930 ซึ่งได้ใช้วิธีการทางสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล
Father of Parapsychology, J.B. Rhine (ref. 1)
และหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ศาสตร์แห่งผีก็มีการพัฒนามากขึ้น โดยมีการตั้งสถาบันใหม่ๆ ขึ้น อาทิเช่น สถาบันปรจิตวิทยา (Parapsychology Foundation) และสถาบันวิทยาศาสตร์โนเอติค (Institute of Noetic Sciences)
กล่าวโดยสรุป การเกิดขึ้นของศาสตร์แห่งผี ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการสืบสวนทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ซึ่งความพยายามของนักวิจัยทางจิตยุคแรก ล้วนมีส่วนสนับสนุนการจัดตั้งสาขาวิชานี้อย่างเป็นทางการ แม้จะมีความท้าทายและความสงสัย แต่การแสวงหาความเข้าใจในความลึกลับของสิ่งเหนือธรรมชาติ ก็ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้นักวิจัย
ทำการสำรวจขอบเขตของ การรับรู้ของมนุษย์ (human perception) จิตสำนึก (consciousness) และ สิ่งแปลกปลอม (unknown) เมื่อ ศาสตร์แห่งผี มีวิวัฒนาการมากขึ้น ก็จะช่วยกำหนดรูปแบบความเข้าใจของเรา เกี่ยวกับประสบการณ์ของมนุษย์ และโลกอันลึกลับ (enigmatic world) ที่อยู่นอกขอบเขตทางกายภาพ (physical realm)
วิธีการทางวิทยาศาสตร์ในศาสตร์แห่งผี
(The Scientific Method in Ghost Science)
วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ทำหน้าที่เป็นแกนหลักของ การสืบสวนเรื่องเหนือสามัญ (paranormal investigations) โดยใช้ กระบวนวิธีที่เข้มงวดและเป็นระบบ เพื่อสำรวจและทำความเข้าใจปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ เริ่มต้นด้วยการกำหนดสมมติฐานที่ทดสอบได้ (testable hypothesis) ซึ่งจะเป็นรากฐานสำหรับการออกแบบการทดลองที่รอบครอบ เพื่อกำจัดหรือควบคุม (eliminate or control) ตัวแปรที่อาจรบกวน (confounding variables) ซึ่งอาจมีอิทธิพลต่อผลลัพธ์
ในขณะที่การรวบรวมข้อมูลเชิงประจักษ์ นักวิจัยสามารถใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม และกิจกรรมที่ผิดปกติ (anomalous activity) ที่อาจเกิดขึ้น ในด้านความโปร่งใส นักวิจัยจะใช้วิธีเปิดเผย วิธีการ ข้อมูล และผลลัพธ์ ให้สามารถเข้าถึงได้อย่างเปิดเผย ซึ่งการเปิดกว้างนี้จะช่วยให้นักวิจัยคนอื่นๆ สามารถตรวจสอบขั้นตอนของการศึกษา และวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างอิสระ ซึ่งก่อให้เกิดภาพรวมความรู้ (collective knowledge) ในสาขานี้
Paranormal investigations equipments (ref. 2)
กล่าวโดยสรุป วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ได้นำเสนอ วิธีการที่มีโครงสร้างและวัตถุประสงค์ สำหรับการสืบสวนสิ่งเหนือธรรมชาติในศาสตร์แห่งผี โดยการกำหนดสมมติฐานที่ทดสอบได้ การออกแบบการทดลองที่มีการควบคุม การรวบรวมข้อมูลเชิงประจักษ์ และการนำผลลัพธ์ไปวิเคราะห์ทางสถิติ
นักวิจัยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความเข้าใจของเราเกี่ยวกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ การเน้น ความโปร่งใส และการพิจารณาด้านจริยธรรม ช่วยเพิ่มความมั่นใจ ถึงความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของการค้นพบ ในภารกิจสำรวจ ความลึกลับของสิ่งเหนือธรรมชาติ และอาณาจักรลึกลับของผี (enigmatic realm of ghosts)
ประเภทของปรากฏการณ์ผีที่ศึกษา
(Types of Ghostly Phenomena Studied)
ในศาสตร์แห่งผี นักวิจัยได้ทำการตรวจสอบ ปรากฏการณ์ผี (ghostly phenomena) และประสบการณ์เหนือธรรมชาติ (supernatural experiences) อื่นๆ ปรากฏการณ์เหล่านี้มักมีความหลากหลาย ตั้งแต่การพบเห็นผี ไปจนถึงโทรจิต และการทำนายล่วงหน้า ซึ่งพอจะจำแนกประเภทที่มีการศึกษาได้คือ การปรากฏของผีและการหลอกหลอน (Ghostly Apparitions and Hauntings) โทรจิตและการสื่อสารระหว่างใจ (Telepathy and Mind-to-Mind Communication)
การหยั่งรู้ล่วงหน้าและการมองอนาคต (Precognition and Future Sight) ไซโครไคเนซีสและจิตเหนือวัตถุ (Psychokinesis (PK) and Mind Over Matter) ประสบการณ์เฉียดตาย (Near-Death Experiences : NDEs) ปรากฏการณ์เสียงอิเลคทรอนิค (Electronic Voice Phenomena : EVP) การมองเห็นทางไกล (Remote Viewing)
Materials from the Eileen J. Garrett Parapsychology Foundation (ref. 3)
กล่าวโดยสรุป ศาสตร์แห่งผี ได้เข้าครอบคลุมปรากฏการณ์ต่างๆ มากมาย ที่ท้าทายความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ทั่วไป อีกทั้งยังมีความพยายามที่จะสำรวจความลึกลับของสิ่งเหนือธรรมชาติ และขอบเขตที่เป็นไปได้ของการรับรู้และจิตสำนึกของมนุษย์ โดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ นักวิจัยด้านศาสตร์แห่งผียังคงมุ่งมั่นที่จะเปิดเผย ความจริงเบื้องหลัง สิ่งที่อธิบายไม่ได้ และขยายความเข้าใจของเราเกี่ยวกับ อาณาจักรลึกลับขอผีและสิ่งเหนือสามัญทั้งหลาย
ความท้าทายและความสงสัยในศาสตร์แห่งผี
(Challenges and Skepticism in Ghost Science)
ศาสตร์แห่งผี ได้เผชิญกับความท้าทายและความสงสัยหลายประการ ซึ่งอาจทำให้ยากต่อการได้รับการยอมรับเป็นวงกว้าง ในชุมชนวิทยาศาสตร์ ขณะที่นักวิจัยในศาสตร์สาขานี้ ก็ต้องพบกับอุปสรรคต่างๆ ที่ต้องใช้การตรวจสอบอย่างเข้มงวด (rigorous investigation) และการพิจารณาอย่างรอบคอบ ตัวอย่างของความท้าทาย และความสงสัยดังกล่าว ได้แก่ ความสามารถในการทำซ้ำได้และประเด็นเกี่ยวกับระเบียบวิธี (Replicability and Methodological Issues)
อคติของผู้ทดลองและผลกระทบต่อความคาดหวัง (Experimenter Bias and Expectancy Effects) ขนาดตัวอย่างเล็กและนัยสำคัญทางสถิติ (Small Sample Sizes and Statistical Significance) อคติการเผยแพร่และการรายงานแบบเลือก (Publication Bias and Selective Reporting) ผลของจิตประสาทและการชี้นำ (The Placebo Effect and Suggestion) ขาดฉันทามติในคำจำกัดความและการวัดผล (Lack of Consensus in Definitions and Measurement) มลทินและความลำเอียงในชุมชนวิทยาศาสตร์ (Stigma and Bias in Scientific Community)
Challenges and Skepticism in Ghost Science
กล่าวโดยสรุป ความท้าทายและความสงสัย ถือเป็นอุปสรรคสำคัญในศาสตร์แห่งผี แต่แม้จะมีอุปสรรคเหล่านี้ นักวิจัยก็ยังคงมุ่งมั่น ที่จะใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการสำรวจความลึกลับของสิ่งเหนือสามัญต่อไป ด้วยการจัดการปัญหาเกี่ยวกับระเบียบวิธี การส่งเสริมความโปร่งใส การเพิ่มขนาดกลุ่มตัวอย่าง และการส่งเสริมการสอบถามที่เปิดกว้างแต่มีวิจารณญาณ
ซึ่งจะเป็นขั้นตอนสำคัญในการเอาชนะความท้าทายและสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง ที่น่าเชื่อถือมากขึ้น สำหรับการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับปรากฏการณ์ผี แม้ว่าเส้นทางอาจมีความท้าทาย แต่นักวิจัยก็ยังคงร่วมกันในภารกิจต่อเนื่อง เพื่อทำความเข้าใจอาณาจักรลึกลับของผี และสิ่งเหนือธรรมชาติที่อธิบายไม่ได้ ต่อไป
ความก้าวหน้าและอนาคตของศาสตร์แห่งผี
(Advancements and Future Prospects in Ghost Science)
ศาสตร์แห่งผี ยังคงพัฒนาและปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ในแวดวงของนักวิจัย ที่สำรวจความลึกลับของสิ่งเหนือธรรมชาติ และตรวจสอบปรากฏการณ์ผี แม้จะมีความท้าทายและความสงสัย แต่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี วิธีการวิจัย และความร่วมมือแบบสหวิทยาการ (interdisciplinary collaborations) ก็ได้มอบโอกาสที่สดใส สำหรับอนาคตของศาสตร์แห่งผี
ยกตัวอย่างเช่น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี (Technological Advancements) ข้อมูลขนาดใหญ่และปัญญาประดิษฐ์ (Big Data and Artificial Intelligence : AI) การริเริ่มทางวิทยาศาสตร์ของพลเมือง (Citizen Science Initiatives) การทำงานร่วมกันข้ามสาขาวิชา (Cross-Disciplinary Collaborations) การสืบสวนทางประสาทวิทยา (Neuroscientific Investigations)
Advancements and Future Prospects in Ghost Science
การศึกษาระยะยาวและการวิจัยภาคสนาม (Longitudinal Studies and Field Research) การเน้นวิทยาศาสตร์แบบเปิดและการจำลองแบบ (Emphasis on Open Science and Replication) และ การบูรณาการมุมมองทางวัฒนธรรมและมานุษยวิทยา (Integration of Cultural and Anthropological Perspectives)
กล่าวโดยสรุป อนาคตของศาสตร์แห่งผี จะมีศักยภาพสูงขึ้น ท่ามกลางความก้าวหน้าและการค้นพบใหม่ ด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ความร่วมมือแบบสหวิทยาการ และการเน้นระเบียบวิธีวิจัยที่เข้มงวด นักวิจัยในสาขานี้สามารถสำรวจความลึกลับของสิ่งเหนือธรรมชาติต่อไป ด้วยความสมบูรณ์ทางวิทยาศาสตร์
ในขณะที่ชุมชนวิทยาศาสตร์ยังคงเปิดกว้าง สำหรับการตรวจสอบสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ การศึกษาเกี่ยวกับปรากฏการณ์ผี ที่มีความคืบหน้า จะมีส่วนทำให้เราเข้าใจการรับรู้ของมนุษย์ จิตสำนึก อาณาจักรลึกลับของผี และสิ่งเหนือธรรมชาติ มากยิ่งขึ้น
บทสรุป
(Conclusion)
สาขาศาสตร์แห่งผี หรือที่เรียกว่า ปรจิตวิทยา หรือ การวิจัยสิ่งเหนือสามัญ ได้นำเสนอการเดินทางที่น่าดึงดูดใจ ในการสำรวจ เรื่องเหนือธรรมชาติ และปรากฏการณ์ผี ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของมนุษย์ ความเชื่อเรื่องภูติผี และชีวิตหลังความตาย (afterlife) ล้วนฝังแน่นอยู่ในวัฒนธรรมของมนุษย์ ทำให้เกิดทั้งความกลัวและความหลงใหล
ในยุคปัจจุบัน การสืบสวนทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ ประสบการณ์เหนือสามัญ ได้พยายามใช้วิธีการที่เข้มงวด และวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อทำความเข้าใจธรรมชาติอันน่าฉงน ของการเผชิญหน้ากับผี (ghostly encounters) และความสามารถทางจิต (psychic abilities)
การศึกษาศาสตร์แห่งผี ครอบคลุมปรากฏการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่การเห็นผี และการหลอกหลอน ไปจนถึงโทรจิต การทำนายล่วงหน้า และประสบการณ์ใกล้ตาย นักวิจัยตรวจสอบคำกล่าวอ้าง เกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติ โดยพยายามแยกเรื่องราวเบ็ตเตล็ด (anecdotal accounts) ออกจากหลักฐานที่น่าเชื่อถือ (credible evidence) ผ่านการทดลองที่มีการควบคุม การวิเคราะห์ทางสถิติ และความร่วมมือแบบสหวิทยาการ (interdisciplinary collaborations)
Psychic abilities
แม้ความท้าทายและความกังขาในศาสตร์แห่งผี จะยังคงมีอยู่เรื่อยๆ รวมถึงปัญหาของการจำลองแบบ (replicability) อคติของผู้ทดลอง (experimenter bias) และการขาดความเห็นพ้องต้องกัน (lack of consensus) ในการนิยาม (defining) และการตรวจวัด (measuring) เกี่ยวกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ แต่แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ ทว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น อุปกรณ์รวบรวมข้อมูลขั้นสูง (advanced data collection equipment) และปัญญาประดิษฐ์ ก็ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่มีแนวโน้ม ในการยกระดับการสืบสวนเรื่องเหนือสามัญ
ในขณะเดียวกัน โอกาสในอนาคตของศาสตร์แห่งผี ก็ยังขึ้นอยู่กับการแสวงหาแนวทางปฏิบัติทางวิทยาศาสตร์แบบเปิด (open science practices) การวิจัยที่ทำซ้ำได้ (replicable research) และการศึกษาระยะยาวอย่างต่อเนื่อง (longitudinal studies) รวมไปถึงการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสหวิทยาการ และ การยอมรับการมีส่วนร่วมของ การริเริ่มด้านวิทยาศาสตร์พลเมือง ล้วนสามารถให้มุมมองใหม่และนำไปสู่การค้นพบที่น่าตื่นเต้น
โดยสรุปแล้ว ศาสตร์แห่งผี ถือเป็นตัวแทนของภารกิจที่ไม่เหมือนใคร ในการสำรวจความลึกลับของสิ่งเหนือธรรมชาติ ขอบเขตของการรับรู้ของมนุษย์ และธรรมชาติของจิตสำนึก ในขณะที่นักวิจัยยังคงเผชิญกับความท้าทายและความสงสัย ทว่าการอุทิศตนให้กับการสืบสวนทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับปรากฏการณ์ผี ก็มีส่วนช่วยในการแสวงหาความรู้และความเข้าใจในสาขาที่น่าสนใจนี้อย่างต่อเนื่อง
เสน่ห์ของสิ่งที่ไม่รู้จัก (allure of the unknown) และความหลงใหลในสิ่งเหนือธรรมชาติ ทำให้แน่ใจได้ว่าศาสตร์แห่งผี จะยังคงเป็นพื้นที่ที่น่าสนใจสำหรับการสำรวจ ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ทั้งนักวิจัยและสาธารณชน ให้ร่วมพิจารณาความลึกลับที่อยู่นอกเหนือม่านของสิ่งที่อธิบายไม่ได้ต่อไป
(วิพากษ์ศาสตร์ลับ ep.1 ศาสตร์แห่งผี)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา