17 ส.ค. 2023 เวลา 14:23 • สุขภาพ

เรื่องเล่าเกี่ยวกับมะเร็งไทรอยด์ 🪴

🌻ผู้ป่วยมะเร็งไทรอยด์ นับได้ว่าเป็นผู้ป่วยที่โชคดีที่สุดในบรรดาผู้ป่วยมะเร็งทั้งหลาย เนื่องจากอาจสามารถรักษาให้หายขาดได้ หรืออย่างน้อยก็สามารถควบคุมได้
🌻หลังจากผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดไทรอยด์ออกแล้ว ขั้นตอนการรักษาที่ดีที่สุดต่อไปคือ การกินไอโอดีนรังสี (กลืนแร่)
🌻ไอโอดีนรังสีสามารถทำลายเนื้อเยื่อไทรอยด์ทั้งเนื้อดี และมะเร็งที่ยังเหลืออยู่ได้ แต่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จทุกราย เนื่องจากพบว่าประมาณ 10-30% ของการรักษาอาจไม่สามารถทำลายเนื้อเยื่อไทรอยด์ดังกล่าวนี้ได้ ซึ่งต้องใช้วิธีการรักษาอื่นเข้าช่วย
🌻ผู้ป่วยที่กินไอโอดีนรังสี อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
1️⃣ภาวะแทรกซ้อนที่ไม่รุนแรง ซึ่งพบได้ประมาณ 50% ของผู้ป่วย ภาวะนี้มักจะหายได้เอง ได้แก่
1.1 คลื่นไส้ อาเจียน อาการอาจปรากฏได้ 2-3 วัน หลังจากกินไอโอดีนรังสี
1.2 ต่อมน้ำลายอักเสบ ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บบริเวณต่อมน้ำลายใต้กกหู 2 ข้าง หรือใต้คาง ปากแห้ง อาการเหล่านี้อาจปรากฏได้เป็นเดือนหลังจากกินไอโอดีน
1.3 ปากจืด การรับรู้รสอาหารผิดปกติไป บางคนมีอาการปรากฏอยู่นานเป็นปี
1.4 คอบวม และเจ็บคอ พบได้ประมาณ 20% ของผู้ป่วย ซึ่งมักเป็นรายที่มีเนื้อเยื่อไทรอยด์หลงเหลืออยู่มาก
2️⃣ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง พบน้อยมาก แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
2.1 มะเร็งเม็ดเลือดขาว พบประมาณ 1% ของผู้ป่วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณรังสีรวมที่ผู้ป่วยได้รับมาทั้งหมด (อาจเกิดในผู้ป่วยที่ได้รับการกินไอโอดีนรังสีมากกว่า 10 ครั้ง) ซึ่งโดยทั่วไปแพทย์จะคอยดูแลควบคุมเรื่องนี้เป็นอย่างดี
2.2 การทำงานของไขกระดูกลดลง พบได้ประมาณ 1% เช่นกัน ซึ่งผู้ป่วยบางราย อาจมีความจำเป็นต้องได้รับการให้เลือด อย่างไรก็ตามภาวะนี้สามารถหายได้เอง
❌ไอโอดีนรังสี มีข้อห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ ดังนั้นควรคุมกำเนิดในระหว่างการรักษาและไม่ควรตั้งครรภ์หลังจากกินไอโอดีนรังสีเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน สำหรับผู้ป่วยชายห้ามภรรยาตั้งครรภ์ ภายใน 6 เดือนหลังจากกินไอโอดีนรังสี
🌻แล้วจะทราบได้อย่างไรว่าเราอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเป็นมะเร็งไทรอยด์หรือไม่❓
1️⃣มะเร็งไทรอยด์กับไทรอยด์เป็นพิษ ไม่ใช่โรคเดียวกัน ต่างกันตรงที่ มะเร็งไทรอยด์ผู้ป่วยมักจะมาพบแพทย์เนื่องจาก คลำเจอก้อนที่บริเวณลำคอ ขนาดก้อนโตขึ้นเรื่อยๆ กดแล้วไม่เจ็บ (มะเร็งมักไม่มีอาการใดๆ)
2️⃣หลังจากนั้นแพทย์จะวินิจฉัย และเจาะก้อนนำไปตรวจ
3️⃣เมื่อทราบผล ว่าอาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นชิ้นเนื้อร้าย แพทย์จะแนะนำให้ผ่าตัดนำชิ้นเนื้อออกไปตรวจซ้ำอีก 1 รอบ โดยใช้วิธีการผ่าตัดเฉพาะส่วนที่มีขนาดโต
4️⃣ถ้าผลการผ่าตัดพบว่าเป็นชิ้นเนื้อร้าย แพทย์จะให้ผ่าตัดไทรอยด์ที่เหลืออยู่ออกให้หมด เพื่อเป็นการป้องกัน ไม่ให้เกิดการลุกลาม
5️⃣และทำการรักษาต่อโดยการกินไอโอดีนรังสี เพื่อกำจัดไทรอยด์ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาออกให้หมด
🌻ซึ่งขั้นตอนการเข้ารักษามะเร็งไทรอยด์ นับว่าไม่ยุ่งยาก แต่จะมีข้อห้ามเยอะมากๆค่ะ ทั้งก่อนและหลังกินไอโอดีนรังสี
1️⃣ผู้ป่วยจะได้รับการฉีดไอโอดีนรังสี เข้าสู่เส้นเลือดดำ เพื่อทำการสแกนว่ายังมีไทรอยด์หลงเหลืออยู่มากน้อยแค่ไหน
2️⃣แพทย์จะทำการนัดวันในการกลืนแร่ และแนะนำว่าเราต้องเตรียมตัวอย่างไร
🌻สำหรับการเตรียมตัวก่อนกลืนแร่มีดังนี้
1️⃣โดย 2 อาทิตย์ก่อนการกลืนแร่ ต้องงดอาหารทั้งหมดที่มีไอโอดีน เช่น อาหารทะเลทุกชนิด เครื่องปรุงรสเสริมไอโอดีน อาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์นม ไข่แดง ถั่วเหลือง กระเทียม อาหารแปรรูปทุกชนิด แนะนำให้อ่านก่อนทานจะดีที่สุดค่ะ
🌻คำถามที่ตามมาคือ สามารถทานอะไรได้บ้างคะ❓
✔️เกลือสินเธาว์ เพราะไอโอดีนได้ระเหยออกไปจากการตากหมดแล้ว
✔️ซอสทาคูมิ น้ำตาล พริก
✔️นมจากพืช นมอัลมอนต์ พิตาชิโอ (แอบทานยากหน่อยนะคะ สำหรับคนไม่ชอบ) น้ำนมข้าว
✔️เส้นก๋วยเตี๋ยวจากแป้งข้าว วุ้นเส้น เผือก มัน ข้าวโพด
✔️เนื้อ ไก่ หมู ไข่ขาว
✔️ซึ่งมีอาหารอีกหลายๆอย่างที่สามารถรับประทานได้นะคะ
🌻ถ้าเราเผลอทานโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ไม่เป็นไรค่ะ แต่พยายามเลี่ยงนะคะ เพื่อให้ไอโอดีนรังสีที่เราจะต้องกลืนเข้าไปจับไทรอยด์ที่เหลืออยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ เพราะข้างต้นที่กล่าวมาให้งดล้วนเป็นไอโอดีนธรรมชาติ
💡สรุปง่ายๆก็คือ เราจะให้เจ้าไทรอยด์ไม่มีโอกาสได้เลือกกินค่ะ บังคับให้กินไอโอดีนรังสีเท่านั้น
2️⃣ห้ามพาเด็กและสตรีมีครรภ์มาในวันที่กลืนแร่นะคะ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ไวต่อรังสี กล่าวคือเมื่อผู้ป่วยกลืนแร่เพื่อรักษาไทรอยด์ ในทางกลับกันรังสีในตัวผู้ป่วยจะไปกระตุ้นการทำงานของไทรอยด์ในตัวบุคคลอื่นค่ะ ซึ่งทำให้ไทรอยด์ในตัวบุคคลอื่นทำงานหนัก และเป็นพิษได้ในอนาคต
ห้ามพาเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี และสตรีมีครรภ์มาในวันกลืนแร่
3️⃣แพทย์จะให้เริ่มทานยาไทรอยด์สำหรับผู้ที่ไม่เคยทานยาเลย ซึ่งต้องดูตามดุลยพินิจแพทย์อีกทีค่ะ
🌻สำหรับการปฏิบัติตัวหลังจากกลืนแร่มีดังนี้
1️⃣ห้ามรับประทานอาหารและน้ำเป็นระยะเวลา 30 นาที ก่อนและหลังจากกลืนแร่
2️⃣รับประทานผลไม้รสเปรี้ยว และอมวิตามินซี หลังจากกลืนแร่แล้ว 30 นาที
3️⃣ดื่มน้ำมากๆ 2-3 ลิตรต่อวัน เพื่อขับรังสีออกจากร่างกาย
4️⃣กดชักโครกอย่างน้อย 3 ครั้งเพื่อดันรังสีลงให้ไวที่สุด หรือส้วมซึม ราดน้ำอย่างน้อย 5 ขัน
5️⃣ล้างมือทุกครั้งที่ออกจากห้องน้ำ
6️⃣อาบน้ำและสระผมทุกวัน
7️⃣น้ำลาย เสมหะ หรืออาเจียน ทิ้งลงอ่างล้างหน้า ชักโครก เท่านั้นนะคะ
8️⃣แยกรับประทานอาหาร ช้อน จาน ต้องใช้เป็นของตนเอง แยกล้างด้วยค่ะ
9️⃣เสื้อผ้า ซักแยก ใช้เครื่องซักผ้าได้ปกติค่ะ
🔟แยกนอน เพื่อป้องกันไม่ให้รังสีไปโดนบุคคลอื่น
1️⃣1️⃣และต้องงดอาหารที่มีไอโอดีนต่ออีก 2 อาทิตย์ หรือตามแพทย์สั่ง
1️⃣2️⃣เว้นระยะห่างจากบุคคลอื่น 2-3 เมตร
1️⃣3️⃣ระยะเวลาแยกกักตัว อยู่ที่ปริมาณในการกลืนแร่ และตามแพทย์สั่งค่ะ มีทั้ง 1 อาทิตย์ และ 2 อาทิตย์
แหล่งอ้างอิง
งานเวชศาสตร์นิวเคลียร์ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา