19 ส.ค. 2023 เวลา 08:15 • ท่องเที่ยว
วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว

มหัศจรรย์วัดเรืองแสง "วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว" จ.อุบลราชธานี

วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือ วัดภูพร้าว จังหวัดอุบลราชธานี
ช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา...เพื่อนๆชวนไปเที่ยวจังหวัดอุบลราชธานี ได้อ่านโปรแกรมคร่าวๆ ก็ตัดสินใจ
ร่วมทริปด้วย เพราะอยากไปเห็น"วัดเรืองแสง" ด้วยตา
ของตัวเองสักครั้ง
พระอุโบสถสีปัดทอง
วัดเรืองแสง หรือ วัดภูพร้าว...ตั้งอยู่บนเนินเขา ในอำเภอ
สิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เป็นการจำลองสภาพแวดล้อมของวัดป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาศ
ตัวอุโบสถมีต้นแบบมาจาก #วัดเชียงทอง ประเทศลาว
เสาแต่ละต้นลงลวดลายด้วยมือ โดยรอบนอกเป็นลายดอกบัวและสัตว์ทั้งหลายตามคติบัว 4 เหล่า
ทางเข้าเป็นต้นสาละ ต้นมะขามป้อม ต้นสมอ และด้านในสุดเป็นต้นโพธิ์ เบื้องหลังพระประธานในอุโบสถ แกะสลักไม้เป็นต้นโพธิ์
ไฮไลท์เด็ดของวัดคือ ภาพจิตรกรรมต้นกัลปพฤกษ์ด้านหลังพระอุโบสถที่เรืองแสงได้...ในยามค่ำคืน
ลายต้นกัลปพฤกษ์ด้านหลังอุโบสถนั้น เป็นฝีมือการออกแบบของช่างคณากร ปริญญาปุณโณ ที่ใช้สารเรืองแสง ฟอสเฟอร์ (phosphor) ทำให้ปรากฏสีเขียวเรืองแสงเวลากลางคืน โดยมีแรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิตในภาพยนตร์เรื่องอวตาร (Avatar)
"แนวคิดการสร้างได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่อง AVATAR ที่ตัวช่างที่เป็นคนคริสต์อยู่ท่ามกลางคนพุทธ โดยมีต้นไม้แห่งจิตวิญญาณหรือวิหารที่กำลังก่อสร้างเป็นสิ่งที่เกาะเกี่ยวผู้คนหลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ศิลปะบวกกับวิทยาศาตร์ตามแนวคิดของดาวินชีก็ถูกนำมาประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์ร่วมด้วย"
"และเป็นความฝันของผมตั้งแต่เด็กเลย สำหรับเรื่องของการเรืองแสง"
จิตรกรรมต้นกัลปพฤกษ์...ด้านหลังพระอุโบสถ
วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว...เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายภาพ ไหว้พระ และดูไฟเรืองแสง
ความเป็นมา...
บริเวณนี้เป็นป่าบนเนินหน้าผาสูง ในราวพ.ศ. 2495–2498 พระอาจารย์บุญมาก ฐิติปัญโญ เดินทางจากประเทศลาว
มาพักปักกลด และต่อมาสร้างเป็นวัด ให้ชื่อว่า "วัดภูพร้าว"
ในราวปี พ.ศ.2500 - 2514 ทางราชการมีการออกสำรวจระดับที่จะสร้างเขื่อนสิรินธร พระอาจารย์บุญมากได้มาขอบิณฑบาตสถานที่บนภูพร้าวแห่งนี้เป็นวัด จนกระทั่งในปีพ.ศ. 2516 พระอาจารย์บุญมากได้เดินทางกลับไปเมืองจำปาสัก เนื่องจากเกิดความไม่สงบทางการเมืองในประเทศลาว วัดภูพร้าวจึงถูกปล่อยร้าง ...
ตัวอุโบสถมีต้นแบบมาจาก #วัดเชียงทอง ประเทศลาว เสาแต่ละต้นลงลวดลายด้วยมือ
ต่อมาพ.ศ. 2542 พระครูกมลภาวนากร ลูกศิษย์พระอาจารย์บุญมากมาบูรณะวัดขึ้นใหม่ จนได้รับอนุญาต
ตั้งวัดเมื่อพ.ศ. 2545 ในนาม "วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว" หลังจากพระครูกมลละสังขารไปในปี 2549 พระครู
ปัญญาก็เข้ามารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดและสานต่องานสร้างวัดต่อไปจนถึงปัจจุบัน
ชื่อ "ภูพร้าว" นั้น พระครูกมลภาวนากร กล่าวว่า เมื่อก่อนธรรมชาติยังอุดมสมบูรณ์ ธรรมชาติของภูเขาลูกนี้มีพิเศษ แปลก คือ มีหินคล้ายลูกมะพร้าวเต็มไปหมด ทุบออกมาจะมีฝุ่นหรือเม็ดหินใสๆแวววาวระยับคล้ายเพชรพลอย ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นหินศักดิ์สิทธิ์ เอาไปรักษาโรค เรียกมะพร้าวฤาษีทำเอาไว้ จึงเรียกเขาลูกนี้ว่า "ภูพร้าว" ต่อมามีคนเก็บเอาไปขายลูกละ 2-3 ร้อยบาท จนหมด)
ใครยังไม่เคยไป...แนะนำเลยนะคะ
พี่หนิงไปครั้งแรกประทับใจมาก...คิดว่าจะไปอีกสักครั้ง
ช่วงเดือนมืดจะได้เห็นดวงดาวบนท้องฟ้าด้วย
#เที่ยวละไมไปด้วยกัน #พาเที่ยวพากินไปเรื่อย
#60แล้วงัยไปเที่ยวกัน #geotourism #historicaltourism
โฆษณา