Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Supawan’s Colorful World
•
ติดตาม
18 ส.ค. 2023 เวลา 00:07 • ท่องเที่ยว
Orchha : Chaturbhj Temple & Sri Ram Temple
วัด Chaturbhuj ซึ่งอุทิศให้กับพระวิษณุ ตั้งอยู่ที่ Orchha ในรัฐมัธยประเทศ ประเทศอินเดีย .. ชื่อ Chaturhuj เป็นการรวมกันของ 'chatur' หมายถึง "สี่" และ 'bhuj' หมายถึง "แขน" ซึ่งแปลตามตัวอักษรว่า "ผู้ที่มีสี่แขน" และหมายถึงพระรามอวตารของพระวิษณุ
ระหว่างเดินทางสู่วัด เราผ่านพื้นที่ชุมชนที่คึกคักไปด้วยชาวบ้านที่วางขายเครื่องบูชา อาหารหลากหลายประเภท รวมถึงเสื้อผ้าและของใช้ .. บรรยากาศแบบบ้านๆ น่าสนใจ
วัดนี้มีโครงสร้างหลายชั้นที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างลักษณะทางสถาปัตยกรรมของวัด ป้อม และพระราชวัง .. เดิมทีวัดนี้สร้างขึ้นเพื่อบูชารูปพระราม ซึ่งติดตั้งในวัดพระรามราชาภายในป้อมโอรชา ในปัจจุบันมีการบูชารูปพระกฤษณะในพระวิหาร วัดนี้ขึ้นชื่อว่ามีวิมานที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในบรรดาวัดฮินดูซึ่งมีความสูง 344 ฟุต
วัดนี้สร้างโดย Bundela Rajputs แห่งอาณาจักร Orchha ในรัชสมัยของจักรพรรดิโมกุลอัคบาร์ การก่อสร้างเริ่มโดย Madhukar Shah สำหรับพระราชินี Rani Ganeshkuwari แต่มาสร้างเสร็จโดย Vir Singh Deo พระโอรส ในศตวรรษที่ 16
Madhukar Shah นั้นเลื่อมใสศรัทธา และเป็นสาวกของพระกฤษณะ .. ส่วนพระราชินี ศรัทธาในองค์พระราม
เล่าขานตามตำนานท้องถิ่น .. วัดนี้สร้างขึ้นหลังจากที่พระราชินีฝันว่า พระรามขอให้พระนางสร้างพระวิหารถวายพระองค์ พระนางจึงไปขอให้พระสวามีสร้างวัดเพื่อเป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพของพระราม
หลังจากได้รับอนุมัติให้สร้างวัดจตุรมุขแล้ว ราชินีเสด็จไปอโยธยาเพื่อรับรูปเคารพของพระรามที่จะประดิษฐานในวัดแห่งใหม่ ... ครั้นเมื่อพระนางเสด็จกลับจากกรุงอโยธยาพร้อมรูปเคารพของพระราม ในขั้นต้นพระนางทรงเก็บเทวรูปไว้ในพระราชวังซึ่งเรียกว่า รานีมาฮาล เนื่องจากวัดจตุรมุขยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
อย่างไรก็ตาม เธอไม่รู้ถึงคำสั่งห้ามว่ารูปเคารพในวัดไม่สามารถเก็บไว้ในวังได้ .. เมื่อสร้างพระวิหารเสร็จแล้วและต้องย้ายเทวรูปของพระรามไปติดตั้งที่วัดจตุรพุช เทวรูปของพระรามไม่ยอมย้ายออกจากพระราชวัง
ดังนั้น แทนที่จะเป็นวัดจตุรมุข เทวรูปของพระรามยังคงอยู่ในพระราชวัง ในขณะที่วัดจตุรมุขก็ยังคงอยู่โดยไม่มีเทวรูปพระรามในวิหาร .. เมื่อพระรามถูกบูชาในวังจึงถูกดัดแปลงเป็น “วัดรามราช” ซึ่งกลายเป็นวัดแห่งเดียวในประเทศอินเดียที่พระรามได้รับการบูชาในฐานะกษัตริย์
วัดรามราชา .. ด้านหน้ามีปืนใหญ่วางขนาบประตูทั้ง 2 ด้าน
ภายในวัด มีการบูชาพระราม
ผู้เคารพเลื่อมใสเล่นดนตรี สวดมนต์บูชา
การจัดการวัดในแต่ละวันเป็นความรับผิดชอบของ Ram Raja Trust อย่างไรก็ตาม การอนุรักษ์โครงสร้างพระวิหารนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของกรมโบราณคดีแห่งรัฐ
วิหารชาตุรพุช มียอดแหลมสูงเป็นรูปลูกสนซึ่งสร้างบนแท่นสูง 4.5 เมตร ความสูงโดยรวมของวัดคือ 105 เมตร .. แผนผังเมื่อเทียบกับมหาวิหารและวางแผนให้คล้ายกับแขนทั้งสี่ของพระวิษณุ
ภายนอกของวัดได้รับการประดับประดาอย่างหรูหราด้วยสัญลักษณ์ดอกบัว อาคารแสดงรูปแบบที่ผสมผสานระหว่างศาสนาและฆราวาสซึ่งนำมาจากสถาปัตยกรรมของวัดและป้อม วัดนี้หันหน้าไปทางทิศตะวันออกและตั้งอยู่บนแกนเดียวกับ Ram Mandir ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งอยู่ภายในป้อม Orchha อย่างไรก็ตาม
มุมมองที่น่าดึงดูดใจของวัดคือ เป็นสถาปัตยกรรมอาคารหลายชั้นที่มีช่องเปิดโค้ง
ทางเข้าขนาดใหญ่มาก หอคอยกลางมีขนาดใหญ่โต คล้ายป้อมปราการ .. ส่วนหน้าของวัดมีบันไดให้เดินขึ้นไป
ภายในมีห้องโถงหลายห้องและห้องโถงใหญ่หรือมณฑปของวัดสร้างเป็นรูปไม้กางเขนหรือไม้กางเขนและระบุว่าเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Maru-Gurjara ผสมกันและตั้งเป็นมุมฉากกับมุขหน้ามีผังเหมือนกัน ทั้งสองด้าน
การตกแต่งภายในของวัดมีการตกแต่งไม่มากนัก เพดานโดมกลางซึ่งมีซุ้มหลายซุ้มประดับด้วยดอกบัวบาน ลักษณะทางสถาปัตยกรรมภายนอกประกอบด้วย "เครือเถาหินกลีบดอก ลวดลายดอกไม้และเรขาคณิต บัวที่รองรับบนแท่นจี้รูปดอกบัวตูม คาดเอวหินประดับอัญมณี โครงระเบียงปลอม”
ด้านหนึ่งของวัด .. เป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพของพระวิษณุ
โถงกลาง .. โปร่งและสูงมาก เห็นได้ชัดว่าเป็นโครงสร้างรูปกากบาท ให้ความรู้สึกเหมือนโบสถ์คริสต์
ด้านปลายของโครงสร้างแบบไม้กางเขน มีประตูเปิดสู้ด้านนอก และมีบันไดลงไปสู่พื้นระดับล่าง ..
ทิวทัศน์หน้าประตูสวยงาม สามารถมองเห็นส่วนหนึ่งของสิ่งก่อสร้างโบราณ ที่คาดว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของป้อมค่าย หรือพระราชวังในสมัยก่อน.. เป็นมุมที่ถ่ายรูปได้สวยมุมหนึ่งทีเดียวค่ะ
.. ว่ากันว่าเมื่อสร้างหอคอยของวัดแล้ว ได้ถูกหุ้มด้วยทองคำซึ่งถูกขโมยไปหลายปี .. แต่เราจะตามไปดูกันค่ะ
การเดินจากชั้นแรกเพื่อขึ้นไปยังด้านบนชั้นที่สูงๆ .. หากเป็นชาวต่างชาติต้องได้รับอนุญาต และมีการตรวจพาสปอร์ตก่อน เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจะต้องขึ้นบันไดหินที่ทั้งแคบทั้งชัน และคดเคี้ยว (เหมือนกับบันไดที่โบสถ์ในเมทองฟลอเรนซ์ อิตาลี) รวมถึงต้องคอยหลีกการขึ้น-ลงให้ดี เพราะไม่สามารถเดินสวนทางได้
ชั้นที่สอง .. มีทางเดินเล็กๆรอบหอคอย ตรงกลางกลวงโล่ง เวลาเดินหวาดเสียวเล็กๆ
เราเดินรอบๆทางเดิน และเก็บภาพ
ทิวทัศน์ด้านนอก .. มองจากวัดที่เรายืนอยู่
ไม่นกชั้นนี้ของวัดสามารถเข้าถึงได้จากจุดที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของเมือง Orchha, แม่น้ำ Betwa ที่คดเคี้ยว, สวรรค์ภาวนา, วัด Rama Raja และวัด Laxmi Narayan อันโอ่อ่าที่อยู่ห่างออกไป
เราเดินขึ้นบันไดหินเพื่อเดินไปยังชั้นต่อไป.. ชั้นนี้ด้านในทึบตัน อาจจะเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ยังมีช่องให้มอบออกไปยังด้านนอกได้
.. สอบเห็นป้อมพระราชวังที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก .. ไปเดินเที่ยวพระราชวังด้วยกันค่ะ
Basded on :
https://en.wikipedia.org/wiki/Chaturbhuj_Temple_(Orchha)
2 บันทึก
1
1
5
2
1
1
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย