18 ส.ค. 2023 เวลา 06:56 • ประวัติศาสตร์

เกาะกระแส : ปีศาจค้างคาวญี่ปุ่น

โยไกประเภทค้างคาวของญี่ปุ่น มีทั้งที่ดูดเลือดหรือลมหายใจของเหยื่อจนตาย บางครั้งยังโจมตีเหยื่อด้วยการพ่นค้างคาวออกจากปากอีกด้วย
ค้างคาวปรากฏในตำนาน ตำนาน และนิทานพื้นบ้านจากหลากหลายวัฒนธรรมทั่วโลก และมักเกี่ยวข้องกับความมืด ความตาย และสิ่งเหนือธรรมชาติ บ่อยครั้งที่ค้างคาวเป็นตัวแทนของการหลอกลวงและการตีสองหน้า
บางวัฒนธรรม (อย่างจีน) ในภาษาจีนกลางเรียกว่า "เปียนฝู" (蝙蝠) ซึ่งอักษร ฝู พ้องเสียงกับอักษร "ฝู" (福) ที่แปลว่า โชคดี ยังพ้องเสียงกับชื่อเทพเจ้า "ฝู" หนึ่งในสามเทพเจ้าแห่งดวงดาวในลัทธิเต๋า "ฝู ลู่ โซ่ว" (福禄寿, ภาษาแต้จิ๋ว คือ ฮก ลก ซิ่ว)
นอกจากนี้ ค้างคาวยังปรากฏอยู่ในตำนานอื่น ๆ ของจีนอีกด้วย เช่น ชาวจีนเชื่อว่าค้างคาวมีอายุยืนยาวมากเพราะดื่มกินแต่น้ำบริสุทธิ์จากในถ้ำเท่านั้น หรือเชื่อว่าหากได้กินค้างคาวสีขาวก็จะมีอายุยืนยาว จึงมักใช้เป็นสัญลักษณ์มงคลบนข้าวของเครื่องใช้เสมอ
ญี่ปุ่นมี “โยไก” (yokai) หลายชนิด บางชนิดเป็นอันตรายกับมนุษย์ รวมถึงโยโกที่มีรูปร่างคล้ายกับค้างคาว 3 ตน คือ โนบุสึมะ ยามาชิชิ และ โนเดปโปะ ที่ histtalk นำมาเล่าให้ฟังในวันนี้ด้วย
โนบุสึมะ ค้างคาวดูดเลือด
เริ่มด้วยกันที่ โนบุสึมะ (Nobusuma) หรือที่รู้จักในชื่อ โทบิกุระ (Tobikura) เป็นปีศาจค้างคาวดูดเลือดที่ดักจู่โจมนักเดินทางยามราตรี กำเนิดของมันก็เหมือนโยไกหลาย ๆ ชนิด นั่นคือ มันเป็นค้างคาวอายุยืนและเมื่อได้รับพลังเหนือธรรมชาติ ถึงจุดหนึ่งจะกลายร่างเป็นโยไก ในที่สุด
โนบุสึมะ (จาก https://www.curiousordinary.com/2021/05/bat-yokai.html)
แต่นั่นยังไม่น่ากลัวเท่าไหร่ เพราะหากโนบุสึมะอายุมากขึ้นและมีพลังแกร่งกล้ามากขึ้นไปอีก มันจะกลายร่างอีกครั้ง คราวนี้จะเข้าสู่การเป็น “ยามาชิชิ” ที่อันตรายกว่าเดิม (ดูหัวข้อถัดไป)
ตามปกติโนบุสึมะจะกินถั่ว ผลไม้และลูกไม้ต่าง ๆ ตำนานเล่าว่า มันยังกินไฟ รวมถึงเลือดสัตว์และมนุษย์เป็นอาหารด้วย
ในยามค่ำคืน โนบุสึมะจะดักรออยู่อยู่ตามต้นไม้สูง เมื่อเห็นเหยื่อซึ่งเป็นนักเดินทางยามราตรี มันจะบินโฉบลงมาเกาะที่หน้าเหยื่อแล้วดูดเลือด ว่ากันว่าแสงไฟจากคบเพลิงหรือโคมไฟเป็นสิ่งกระตุ้นให้มันลงมือจู่โจมเหยื่อ แต่บางครั้งมันก็แค่บินโฉบมาเป่าไฟให้ดับแล้วจากไปพร้อมเสียงร้องโหยหวนชวนขนลุก
ยามาชิชิ ปีศาจขโมยลมหายใจ
ไปต่อกันที่ ยามาชิชิ (Yamachichi) ที่มีถิ่นอาศัยอยู่ในป่าลึกแถบตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น มันเป็นปีศาจที่พัฒนาต่อจากโนบุสึมะที่มีอายุยืนยาวและมีพลังมากขึ้น รูปร่างของมันคล้ายลิง มีปากแหลม
ยามาชิชิ (https://yokai.com/wordpress/wp-content/uploads/2018/03/yamachichi.jpg)
ยามค่ำคืน ยามาชิชิจะออกจากป่าแล้วออกตระเวนไปตามบ้านคน เมื่อเห็นเหยื่อหลับอยู่ มันจะใช้ปากแหลม ๆ ดูด หรือ “ขโมย” ลมหายใจของเหยื่อ จนเมื่อมันอิ่มหรือพอใจแล้ว ก็จะใช้มือเคาะที่หน้าอกเหยื่อเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีลมหายใจเหลืออยู่แล้วจากไป ซึ่งเท่ากับเหยื่อได้สิ้นลมหายใจหรือตายไปแล้ว นั่นเอง
แต่ตำนานก็ยังเปิดช่องไว้ว่า ถ้าระหว่างที่ยามาชิชิกำลังปฏิบัติการ “ขโมย” ลมหายใจของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายอยู่นั่น การกระทำของมันจะเท่ากับถูกขัดจังหวะ คือ มีคนพบเห็นหรือจับได้ มันจะรีบหนีไป และมอบอายุที่ยืนยาวขึ้นกว่าเดิมมากให้เหยื่อเป็นการตอบแทน
โนเดปโปะ ปีศาจพ่นค้างคาว
 
โนเดปโปะ (Nodeppo) มีรูปร่างคล้ายกระรอกบิน อาศัยอยู่ตามป่าเขา บางคนว่าที่จริงมันคือตัวมามิ (mami) หรือตัวแบดเจอร์ หรือแรคคูนญี่ปุ่น และด้วยการโจมตีและดูดเลือดเหยื่อในยามค่ำคืน จึงมีคนเข้าใจสับสนว่ามันคือโนบุสึมะอยู่บ่อย ๆ ว่ากันว่ามันจะใช้พังผืดบังตาเหยื่อจนมองไม่เห็นแล้วดูดกินเลือดเหยื่อเป็นอาหาร
โนเดปโปะ (จาก https://www.curiousordinary.com/2021/05/bat-yokai.html)
สิ่งที่ทำให้โนเดปโปะแตกต่างจากโยไกอื่น ๆ คือ มันสามารถพ่นค้างคาวออกจากปากได้คราวละมาก ๆ เหมือนกระสุนปืน ค้างคาวที่ออกจากปากโนเดปโปะจะไปรุมเกาะตามใบหน้าของเหยื่อจนทำให้มองไม่เห็น บางตำนานก็ว่าทำให้เหยื่อตาบอด และถ้าเหยื่อดิ้นรนต่อสู้ก็อาจพลัดตกเขาตายและกลายเป็นเหยื่อของปีศาจตนนี้ไปในที่สุดก็มี
โยไกค้างคาวของญี่ปุ่นอาจไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เหมือนค้างคาวในหลาย ๆ วัฒนธรรม แต่สิ่งหนึ่งที่สะท้อนออกมาจากเรื่องราวที่เล่ามาคือ ถึงการเดินทางในอดีต โดยเฉพาะยามค่ำคืน เป็นสิ่งที่น่ากลัวและเต็มไปด้วยภยันตรายนานาชนิด ภูติผีปีศาจและสัตว์ประหลาดต่าง ๆ เกิดจากความกลัวอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ต่อให้มีอันตรายแค่ไหน มนุษย์ก็ยังต้องเดินทางด้วยจุดประสงค์ต่าง ๆ กัน พร้อมทั้งหาหนทางที่ปลอดภัยและการป้องกันอันตรายต่าง ๆ ให้ดีที่สุด
โฆษณา