18 ส.ค. 2023 เวลา 11:39 • ประวัติศาสตร์

"หุ่นทดสอบการชนรถ" ในยุคแรกคือ "มนุษย์"

ในปีค.ศ.1896 (พ.ศ.2439) เป็นปีแรกที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ และทำให้หญิงชาวไอร์แลนด์วัย 44 ปีที่ชื่อ "บริดเจต ดริสคอลล์ (Bridget Driscoll)" เสียชีวิต โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ
หลังจากนั้น ผู้ผลิตรถยนต์ก็เริ่มตระหนักว่ารถยนต์อาจจะเป็นอันตรายกว่าที่คิด
รถยนต์นั้นวิ่งได้เร็วกว่ารถม้า ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่า ทำให้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายได้เริ่มการทดสอบการชนของรถยนต์ เพื่อให้ทราบถึงความรุนแรงและหาทางป้องกัน
และเมื่อเวลาผ่านไป รถบนท้องถนนเริ่มเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ทำให้อุบัติเหตุก็เกิดมากขึ้นตามมา บริษัทรถยนต์จึงเริ่มคิดว่าคงต้องทำการทดสอบการชนด้วยตนเอง
1
บริดเจต ดริสคอลล์ (Bridget Driscoll) (คนในวงกลม)
สิ่งที่นำมาเป็นหุ่นทดสอบการชนในช่วงแรกก็คือ "ศพ"
ในยุค 30 (พ.ศ.2473-2482) บริษัทรถยนต์ได้นำศพมาใช้ในการทดสอบการชนของรถ หาวิธีการป้องกันไม่ให้คนบนรถได้รับอันตราย หากแต่การจะหาศพจำนวนมากมาทดลองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
เมื่อเป็นเช่นนี้ บริษัทรถยนต์จึงหันไปหา "สัตว์" แทน โดยในยุค 50 (พ.ศ.2493-2502) สัตว์ที่นิยมนำมาใช้เป็นหุ่นทดสอบการชนก็คือ "หมู"
1
หมูนั้นหาง่าย ราคาถูก และมีอวัยวะภายในคล้ายกับมนุษย์ ทำให้หมูเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตรถยนต์นิยมนำมาเป็นหุ่นทดสอบการชน หากแต่เมื่อเวลาผ่านไป เรื่องนี้ก็ถูกนำมาเป็นประเด็นเรื่องการทารุณสัตว์ ทำให้การนำสัตว์มาใช้เป็นหุ่นทดสอบการชนค่อยๆ หายไปในยุค 80 (พ.ศ.2523-2532)
ในยุค 50 (พ.ศ.2493-2502) ในขณะที่บริษัทรถยนต์ต่างหาหมูมาทำการทดสอบ กองทัพอากาศอเมริกันก็ได้รับอาสาสมัครมาทำการทดสอบเครื่องบินรบ และส่งต่อให้มาเป็นหุ่นทดสอบการชนกับผู้ผลิตรถยนต์อีกด้วย
มีอาสาสมัครจำนวนมากได้เข้ามาทำการทดสอบ หากแต่ในเวลาต่อมา ทั้งกองทัพและผู้ผลิตรถยนต์ก็ต้องหาวิธีการอื่น เนื่องจากการนำมนุษย์มาเป็นหุ่นทดสอบการชนทำให้เกิดประเด็นเรื่องของศีลธรรม และเกิดกระแสไม่เห็นด้วยมากมาย
เมื่อเป็นเช่นนี้ กองทัพอากาศจึงเริ่มหันมาใช้หุ่นแทนมนุษย์จริงๆ ซึ่งบริษัทรถยนต์ก็นำมาใช้ตาม ทำให้การใช้มนุษย์หรือสัตว์ค่อยๆ หายไป
ปัจจุบัน หุ่นทดสอบการชนก็คือหุ่นที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะ ไม่ใช้สัตว์หรือมนุษย์จริงๆ อีกต่อไป หากแต่เมื่อมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ กว่าจะมีการใช้หุ่นได้ ก็ต้องมีการใช้มนุษย์จริงและสัตว์มากมาย
1
โฆษณา