#MainStand : ทำไม “รถ” กลายเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายโปรโมทชุดแข่งฟุตบอลฤดูกาลใหม่
สิ่งที่น่าสนใจและได้รับการติดตามจากแฟนบอลทั่วโลกก่อนที่การแข่งขันฟุตบอลระดับอาชีพจะกลับมาเปิดลีกอีกครั้งนั่นก็คือการเปิดตัวเสื้อแข่งสำหรับใส่ลุยในฤดูกาลใหม่ ที่ได้รับการออกแบบจากแบรนด์กีฬาชั้นนำให้มีความทันสมัยและสวยงามมากขึ้น
การเปิดตัวชุดแข่งใหม่แต่ละครั้ง นักเตะของสโมสรจะพลิกบทบาทสู่นายแบบประจำทีม พร้อมกับสวมชุดแข่งใหม่เพื่อถ่ายภาพโปรโมท ซึ่งสถานที่การถ่ายรูปในแต่ละครั้งจะมีความแตกต่างออกไปเพื่อให้ตรงกับคอนเซ็ปต์ของดีไซน์เสื้อแต่ละปี
ทว่าจุดสนใจของการถ่ายภาพโปรโมทชุดแข่งประจำฤดูกาล 2023/24 คือการนำรถยนต์เข้ามาเป็นส่วนประกอบของฉากด้วยเช่นกัน ซึ่งมีหลายสโมสรทั้งในไทยและต่างประเทศได้นำยานพาหนะเข้ามามีส่วมร่วมไม่ว่าจะเป็น บาเยิร์น มิวนิค ที่เปิดตัวชุดเยือนสีดำ , แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เปิดตัวชุดเยือนสีเขียว รวมถึงทีมปราจีนบุรีซิตี้ และ โรงสีแม่ใจธนะโชติวัฒน์จากศึกไทยลีก 3 ของไทย
แต่จะมีเหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้ยานยนต์ 4 ล้อ ที่ใช้โดยสารและพบเห็นได้ในชีวิตประจำวันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโลกกีฬา สามารถรับชมไปพร้อมกัน
[ความคลาสสิกที่หวนสู่ปัจจุบัน]
ปัจจุบันเทคโนโลยีและความทันสมัยเข้ามามีบทบาทรวมถึงส่วนช่วยในหลายแง่มุม ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน การติดต่อสื่อสาร กระบวนการผลิต แต่กลับปฏิเสธไม่ได้ว่าความคลาสสิกหรือวินเทจยังคงแอบแฝงและมีอิทธิพลอยู่เช่นกันทั้งวงการกีฬาและรถยนต์
หากเอ่ยถึงสิ่งของคลาสสิกหรือวินเทจคำเหล่านี้ล้วนเป็นคำจำกัดความของสิ่งของที่ผ่านระยะเวลานานตั้งแต่ 20 ปี เป็นต้นไป และอัดแน่นอนไปด้วยเรื่องราวตามกาลเวลาจนกระทั่งปัจจุบันจนทำให้กลายเป็นสมบัติลำค่าที่มีมูลค่า
หากถามว่าความวินเทจเกี่ยวข้องกับวงการกีฬา ? คำตอบก็คงชัดเจนอยู่แล้วในเรื่องของ “ชุดแข่ง” ที่มีกระแสความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในยุคปัจจุบัน
แบรนด์กีฬาระดับโลกทั้ง อาดิดาส และ ไนกี้ พยายามผลิตชุดแข่งขันที่มีความสวยงามและทันสมัยมากขึ้นด้วยคอนเซปต์ใหม่ๆ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ชุดแข่งของทีมระดับท็อป กลับถูกผลิตขึ้นมาด้วยต้นแบบจากเสื้อฟุตบอลยุคคลาสสิกที่ล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวในประวัติศาตร์มาผสานในดีไซน์ที่มีความทันสมัยมากขึ้นรวมถึงเทคโนโลยีขั้นสูง
ในกรณีของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาดิดาส ได้นำโลกของความวินเทจไม่ว่าจะเป็นทั้งรถยนต์หรือเสื้อแข่งมาหลอมรวมกันพร้อมกับเปิดตัวเสื้อเยือนในธีมสีเขียวลายขาวที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากปี 1902 ซึ่งเป็นชุดเยือนสีเขียวลายขาวตัวที่สองของทีม
แต่ถึงอย่างนั้นอีกหนึ่งสิ่งที่จะสื่อถือความคลาสสิกของเสื้อฟุตบอลได้เป็นอย่างดีก็คงหนีไม่พ้นรถยนต์ และในการเปิดตัวครั้งนี้ทีมปีศาสจแดงได้นำรถยนต์รุ่น Buick Super Riviera Series 50 รุ่นสองประตูปี 1950 ซึ่งตัวถังของรถคันดังกล่าวกลับเป็นสีเขียวเหมือนกันเสื้อเยือนของทีมปีศาจแดง เพื่อเข้ามาร่วมเป็นองค์ประกอบเพื่อหลอมรวมโลกสุดคลาสสิกเอาไว้ด้วยกัน
และเมื่อทั้งสองอย่างนี้มาหลอมรวมกันทั้งเสื้อแข่งและรถยนต์ยุคคลาสสิก กลับส่งผลให้การชูโรงของความวินเทจและคลาสสิกโดดเด่นเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
[เชื่อมกับวัฒนธรรมท้องถิ่น]
“รถ” สามารถบ่งบอกถึงตัวตนของผู้ขับได้เป็นอย่างดีและ “รถ” ก็สามารถบ่งบอกถึงตัวตนถึงทีมฟุตบอลได้เป็นอย่างดี
การถ่ายแบบเพื่อเปิดตัวชุดแข่งไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์คลาสสิกหรือรถสปอร์ตสุดหรูเสมอไป ซึ่งทีมในศึกฟุตบอลที 3 ของประเทศไทยอย่างสโมสรฟุตบอลโรงสีแม่ใจธนะโชติวัฒน์ ในจังหวัดพะเยา ได้แสดงให้เห็นว่า รถที่พวกเขาได้นำเป็นส่วนประกอบนั้นในการโปรโมทเสื้อแข่งมีความเท่ไม่ซ้ำใคร
ในพื้นที่จังหัดพะเยาขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในจังหวัดเศรษฐกิจของประเทศไทย โดดเด่นในเรื่องของการเกษตร และสโมสรโรงสีแม่ใจธนะโชติวัฒน์ มีจุดกำเนิดมาจากการทำธุรกิจโรงสีข้าวก่อนขึ้นมาเล่นในไทยลีก 3 เมื่อปี 2022 จนถึงปัจจุบัน
ซึ่งการเปิดตัวเสื้อแข่งทางทางได้ให้เหล่านักเตะอินทรีแห่งขุนเขามาร่วมถ่ายรูปคู่กับ “รถบรรทุก” ที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงรถโฟลค์ลิฟต์สำหรับยกของ แสดงตัวตนของทีมได้อย่างชัดเจน
[พาร์ทเนอร์ของสโมสร]
ในปัจจุบันวงการกีฬาเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีการหมุนเวียนของเม็ดเงินจำนวนมหาศาล อีกทั้งยังมีฐานแฟนบอลทั่วโลก ทำให้แบรนด์ยานยนต์ระดับโลกได้หันมาร่วมงานกับสโมสรฟุตบอลด้วยการเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ให้กับทีมพร้อมถือหุ้นของสโมสรและสนับสนุนรถยนต์ให้กับนักเตะ
หนึ่งในนั้นคือ Audi (อาวดี้) แบรนด์รถยนต์สัญชาติเยอรมันในเครือของ Volkswagen ที่ได้เข้ามาเซ็นสัญญาเป็นพาร์ทเนอร์ให้กับสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่แห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี ตั้งแต่ปี 2002
การเซ็นสัญญาในครั้งนั้นส่งผลให้ค่ายรถสี่ห่วงได้เข้ามาร่วมสนับสนุนรถยนต์ของบริษัทให้กับนักเตะรวมถึงทีมงานสตาฟฟ์ให้ได้ใช้ และสนับสนุนรถยนต์ในทุกๆกิจกรรมของสโมสร นอกจากนี้ยังมีส่วนในการร่วมถือหุ้นของทีมเสื้อใต้ร้อยละ 8.33 ก่อนจะได้รับการยกระดับขึ้นในปี 2009 ถึงร้อยละ 9.09 หรือ 2.5 ล้านหุ้น คิดเป็นเงิน 90 ล้านยูโร (3,469 ล้านบาท)
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในทุกๆปีรถยนต์รุ่นต่างๆ ของบริษัทมักจะมีการปรับโฉมให้มีความสปอร์ตและทันสมัยก่อนเปิดตัวออกมา ซึ่งการร่วมงานกับ บาเยิร์น มิวนิค นับเป็นอีกหนึ่งช่องทางของการโปรโมทรถยนต์รุ่นใหม่ๆอีกด้วย
ในช่วงไม่มีกี่ปีที่ผ่านมา ค่ายรถยนต์ทั่วโลกต่างเบนเข็มหันมาให้ความสำคัญกับปัญหาเรื่องการปล่อยมลพิษมากขึ้น พร้อมเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง อาวดี้ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญเรื่องนี้เช้นกัน ก่อนที่จะพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า และเปิดตัว Audi e-tron GT ซึ่งเป็นรถพลังงานไฟฟ้าทรงสปอร์ตซีดานที่เป็นตัวชูโรงของค่ายในเวลานี้
Audi e-tron GT ถูกส่งมาให้เหล่านักเตะของสโมสรร่วมทำกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นการร่วมขับทดสอบเพื่อสัมผัสถึงสมรรถนะหรือแม้กระทั่งใช้ในการเปิดตัวชุดเยือนตัวใหม่ของทีมประจำฤดูกาล 2023/24 อีกด้วย
ก่อนหน้านี้ในช่วงระหว่างที่ทัพนักเตะเสือใต้เดินทางไปเตะพรีซีซั่นที่ประเทศญี่ปุ่น ในรายการ “Audi Summer Tour 2023” ทางทีมยังไม่มีการเปิดตัวชุดเยือนที่จะใช้ในการแข่งขันฤดูกาลใหม่ออกมาอย่างเป็นทางการ
แต่ทางเฟซบุ๊กหลักของทีมเสือใต้ ได้โพสต์ภาพรถยนต์ Audi e-tron สีดำที่มีการคัสตอมลวดลายสีชมพู-เขียว จอดอยู่ในสถานที่คล้ายกับประเทศญี่ปุ่น เพื่อสื่อเป็นนัยๆถึงชุดแข่งตัวใหม่ของทีมจนท้ายที่สุดแล้วทาง อาดิดาส ได้เปิดตัวชุดเยือนของทีม บาเยิร์น มิวนิค ออกมาอย่างเป็นทางการก่อนเกมอุ่นเครื่องกับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่
ชุดเยือนของทีมเสือใต้มาพร้อมกับโทนสีดำและลวดลายกราฟิกที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแผนที่โลก พร้อมเพชรสีชมพูและเขียวซึ่งเป็นตัวแทนของแฟนบอลทั่วโลก
และในการถ่ายภาพโปรโมท รถยนต์ไฟฟ้าคันดังกล่าวยังเข้ามาจอดร่วมเฟรมกับนักเตะอีกด้วย ถือเป็นการนำเสนอภาพลักษณ์ของทีมในรูปแบบใหม่ที่นำความสปอร์ตและโฉบเฉี่ยวของรถยนต์เข้ามาเป็นส่วนเสริมเพิ่มเติมในโลกกีฬา
ซึ่งไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจะได้เห็นหลายๆทีมนำรูปแบบการเปิดตัวชุดแข่งที่มีรถยนต์เข้ามาเป็นส่วนประกอบเพิ่มขึ้นก็เป็นได้
แหล่งอ้างอิง :
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
