5 ก.ย. 2023 เวลา 19:18

ประสบการณ์ สอบ TOEIC แบบไม่เตรียมตัวเลย

สวัสดีครับ ผมชื่อวิท และนี่เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่อยากแชร์ให้หลายๆคนได้อ่านครับ
เรื่องมันเริ่มจากว่าผมได้ไปบ้านญาติที่ต่างจังหวัดในรอบปีเศษๆ ด้วยความที่มาครั้งนี้ผมก็ใกล้จบมหาลัยอยู่รอมร่อ
มีอยู่วันนึงลุงถามผมขึ้นมาว่า "จบไปจะทำอะไรล่ะ"
ใช่ครับ นี่เป็นคำถามคลาสสิคที่วัยรุ่นหลายคนน่าจะถูกถามบ่อยๆ ซึ่งเรื่องนี้ผมคิดอยู่บ่อยๆจึงพอมีคำตอบในใจ เลยตอบไปว่า
"อ๋อ อาจจะไปลองทำ Receptionist (AKA ฟร้อนโรงแรม) ดูคับ"
ลุงตอบกลับมาว่า "อ้าว ลองไปสอบโทอิคดูมั้ยล่ะ"
"ครับ เดี๋ยวจบว่าจะไปลองดู" เราตอบแบบเนิบๆ
"ลุงว่าสอบไว้เลยดีกว่าจะได้วัดผลตัวเอง ไปลองขอตังแม่...เอางี้ ลุงให้ตังไปสอบ"
ขอเสริมนิดนึงครับว่าเท่าที่รู้ ลุงผมเขาเคยทำงานอยู่บริษัทใหญ่ เคยไปต่างประเทศ แน่นอนว่าจึงมีความรู้ด้านนี้ จึงเป็นที่มาให้ผมได้ไปสอบ
โดยขอเกริ่นก่อนว่าตัวผมเองสมัยมัธยมเรียนจบหลักสูตร IEP และถึงไม่ได้ใช้บ่อยนักเมื่อขึ้นมหาลัย ผมก็เสพสื่อภาษาอังกฤษและพูดบ่อยๆอยู่แล้ว จึงพอมีพื้นฐานอยู่บ้าง และเป็นอย่างหัวเรื่อง การสอบครั้งนี้เป็นเพื่อทดสอบ"สกิลดิบๆ"ของผมเท่านั้น ผมจึงไม่ซีเรียสเรื่องการเตรียมสอบหรือเทคนิคพิเศษใดๆเลยแม้แต่น้อย ถ้าหากมาหาคำแนะนำใดๆขออภัยด้วยครับ แต่เท่าที่ทำได้คือพอไกด์ไลน์ให้ได้ มาดูกันครับ
มาถึงขั้นตอนเตรียมตัวครับ แน่นอนอย่างแรกคือเราสมัคร โดยการสมัครนั้นสามารถโทรไปนัดศูนย์สอบได้เลย แต่ผมสมัครด้วยสิทธิ์มหา'ลัย วิธีของผมจึงต่างออกไป (หากกำลังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่แนะนำให้ใช้สิทธิ์ครับ ค้นหาด้วยการพิมพ์ชื่อม.ของท่านพร้อมคำว่า TOEIC เลย) หลังจากนั้นศึกษาการเตรียมตัว สอบที่ไหน เตรียมอะไร จากนั้นจึงเตรียมตัวรอเวลาวางแผนให้ดี และแล้ว วันลงสนามก็มาถึง....
การลงสมัครผมลงเป็นรอบบ่าย จึงมีเวลาพอสมควร โดยศูนย์สอบกรุงเทพจะอยู่ที่ตึก BB อโศกครับ ผมเริ่มการเดินทางด้วยการขึ้นรถเมล์และลงแถว BTS อโศก และต่อวิน บอกได้เลยครับว่าไปตึก BB ค่าวินแค่ 20 บาท (หรือมาจาก MRT สุขุมวิท, สถานีรถไฟอโศก, ARL มักกะสัน ก็ได้ครับ) ไปถึงประมาณเกือบเที่ยง ผมเข้าไปกินที่ Texas Chicken ซึ่งอยู่ด้านหน้าตึกเลย จากนั้นประมาณเที่ยงครึ่ง กินเสร็จแล้วแต่นั่งต่อหน่อย เห็นคนเริ่มเดินเข้าไปเรื่อยๆเราจึงเกิดอาการ"ล่ก" ซึ่งล่กทำไมไม่รู้(ฮา) จากนั้นจึงทำใจเย็นๆและเดินเข้าไป
เมื่อเข้าไปแล้วจะเห็นคนต่อแถวประมาณ 4-5 แถว และมีเสียงประกาศ"ใครมาสอบมาทางนี้เลยครับ" จึงเข้าไปต่อๆแถว คนนั้นคือพี่ทีมงานจัดแถวครับ เนื่องจากมีคนมาสอบรอบนึงไม่ใช่น้อย และมีพนักงานต่างๆในตึกนี้ ผู้สอบจึงต้องขึ้นลิฟต์ตัวเดียวให้เป็นระบบระเบียบ โดยคนที่เข้ามาใหม่พี่เขาจะจัดให้อยู่แถวในสุด และปล่อยไปทีละแถวๆ ระหว่างนั้นจะมีแถวใหม่เข้ามาและแจ้งมาตรการต่างๆวนไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นระบบที่ดีครับ เพราะไม่ได้ช้าเลย เข้ามาไม่เกิน 5 นาทีได้ขึ้น จากนั้นจึงมาที่ชั้น 19....
ลิฟต์ได้พาขึ้นมาถึงชั้น 19 และถึงขั้นตอนการลงทะเบียนครับ โดยขั้นตอนนี้ใช้เวลาพอสมควร แต่เป็นระบบดีครับ ขั้นแรกจะเป็นการตรวจรายชื่อและถามว่าต้องการรับผลสอบทางไหน (มีรับเองกับส่งEMS) จากนั้นจึงไปที่แผนกลงทะเบียนฝากกระเป๋าใดๆ จากนั้นก็พร้อมสอบ โดยอุปกรณ์จริงๆแล้วเราไม่ต้องเตรียมอะไรเลยครับ เพราะเขามีให้หมดแล้ว ทั้งปากกา ดินสอ ซึ่งขอเปลี่ยนระหว่างสอบได้ตลอด แค่เตรียมเอกสาร (บัตรประจำตัว) ไปยืนยันหน้าห้องสอบได้เลย เมื่อเข้ามาแล้วจะให้นั่งรอเวลาสอบก่อน
ห้องสอบที่ผมเข้าไปเป็นห้องกว้างทีเดียวครับ ระดับแสงสว่างดีมากไม่แสบตา เพราะมีแสดงจากภายนอกมาเสริมด้วย แอร์ก็เย็นในระดับหนึ่ง ถ้าเป็นคนขี้หนาวแนะนำว่าหาเสื้อนอกมาด้วยก็ดีครับ (แต่เข้ามาห้องสอบค่อยใส่จะสะดวกกว่า เพราะมีมาตรการตรวจเช็คหน้าห้องสอบ) ระหว่างนั้นจะเปิดเพลงแจ๊ซอ่อนๆ (ซึ่งถูกใจคนเขียนเป็นอย่างยิ่ง)
และเมื่อเวลาสอบมาถึง ก็มีเจ้าหน้าที่แจกข้อสอบและอธิบายเกี่ยวกับข้อสอบ ขั้นแรกจะเป็นการฝนข้อมูล "ทุกอย่าง" ใช่ครับ เก็บทุกเม็ด ซึ่งนับว่าเป็นฝันร้ายของผมเลยครับ เพราะคนฝนช้ามาตั้งแต่เด็กๆ จึงเกลียดมาก ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะเยอะเท่านี้ แต่ทำไงได้ ก็ฝนๆๆไป ตรงไหนไม่ทันก็ติ๊กไว้ก่อน โดยข้อมูลที่ใช้ฝนจะมากับกระดาษที่ได้เมื่อลงทะเบียนครับ (แนวๆบัตรประจำตัวผู้สอบ) โดยเขียนตามนั้นได้เลยถ้ามี แต่มีข้อมูลอื่นๆอีก ต้องตั้งใจฟังให้ดีหรือถามจนท.ใกล้ตัวก็ได้ครับ
หลังจากจบเรื่องข้อมูลผู้สอบแล้ว ก็มาถึงข้อสอบช่วงแรก คือ การฟัง โดยจะเป็นการเปิดไฟล์เสียงทีละข้อๆ แต่ว่าเปิดแค่รอบเดียวนะครับ ถ้าใครสมาธิหายข้อไหนก็แทบจะหายไปเลย ซึ่งระดับพี่....ก็หลายข้อเหมือนกัน หลังจากนั้นจะเป็นข้ออ่านครับ โดยจากนี้จะตัวใครตัวมัน ไม่สอบพร้อมกันแล้ว ซึ่งแต่ละข้ออ่านยาว และ เยอะมากๆ แต่เข้าใจได้เนื่องจากข้อมูลต่างๆก็เปรียบเสมือนตอนทำงานจริงๆ ซึ่งผมทำไม่ทันไปน่าจะ 10 ข้อ (เศร้ามาก) ได้แต่ภาวนาให้มั่วถูกซักข้อ
หลังจากหมดเวลาสอบแล้ว จนท.จะเก็บข้อสอบ และให้คนที่ยังฝนข้อมูลไม่ครบฝนจนครบ หนึ่งในนั้นคือ...เอ่อ...ผมเอง (ตอนฝนจะมีจนท.ยืนคุมครับ เผื่อลักไก่) สรุปได้ว่าเทคนิคที่ควรฝึกก่อนสอบ TOEIC เป็นอย่างยิ่งเลยคือฝึกฝนครับ หมายถึง ฝนข้อสอบนี่แหละ ฝึกให้ฝนไวๆ ฝนดีๆ ให้มันชินมือ แต่ทั้งนี้ก็อย่างลืมเตรียมตัวเนื้อหาให้ดีนะครับ
สรุปว่าทั้งหมดนี้คือจบการสอบ TOEIC ของผมแล้วครับ หลังจากเก็บข้าวของที่ฝากไว้เรียบร้อยก็กลับ โดยรวมเรื่องการสอบส่วนตัวรู้สึกว่าไม่ได้ง่ายแบบปิดตาทำก็ได้ แต่ก็ไม่ได้ยากถึงขนาดที่จะกัดฟันสอบ แต่ถ้าเตรียมพร้อมมาดีและทำใจให้มั่นผมเชื่อว่าไม่มีอะไรต้องห่วงครับ ในส่วนคะแนนของผมขออนุญาตเป็นความลับ แต่ถือว่าใช้ได้และเป็นที่น่าพอใจครับ แล้วก็ทำให้เห็นจุดอ่อนของตัวเองด้วย ไว้ไปลับคมให้มากกว่านี้แล้วจะมาแก้มือใหม่ครับ
1
สุดท้ายนี้ ถ้าหากใครที่กำลังจะสอบ หรือสนใจจะสอบ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้นะครับ หวังว่าความพยายามและความสามารถของท่านจะทำให้ออกมาดี ขอให้ได้คะแนนและอนาคตที่ดีทุกคนครับ ทั้งนี้ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่อุตส่าห์อ่านมาจนถึงตรงนี้ เพราะเขียนยาวมาก ขอบคุณจริงๆครับ ไว้เจอกันใหม่โพสต์หน้าครับ
4
-ViT
โฆษณา