19 ส.ค. 2023 เวลา 12:01 • สิ่งแวดล้อม

จับขบวนการลอบค้า “เกล็ดลิ่นข้ามชาติ” มูลค่าของกลางกว่า 50 ล้านบาท

วันนี้ (17 ส.ค. 66) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา กรมอุทยานแห่งชาติฯ แถลงผลจับกุม นายธนากร อายุ 34 ปี และนายรุ่ง อายุ 50 ปี พร้อมของกลาง เกล็ดลิ่นหรือนิ่ม จำนวน 42 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 1,400 กิโลกรัม มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 50 ล้านบาท (เกล็ดตัวลิ่น หากสามารถส่งออกไปยังประเทศที่ 3 ราคาจะสูงถึง กก.ละ 40,000 บาท)
 
“ตัวนิ่ม” หรือ “ตัวลิ่น” เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จุดเด่นคือ มีเกล็ดแข็งขึ้นคลุมอยู่ทั่วตัว (ยกเว้นบริเวณท้อง) เพื่อป้องกันตัวจากสัตว์ผู้ล่าขนาดใหญ่ อย่างเสือ หรือสิงโต
ตำรับยาแผนโบราณของจีน เชื่อว่า เกล็ดของมันสามารถรักษาได้หลายโรค ตั้งแต่บรรเทาอาการปวดเมื่อย สลายก้อนในร่างกาย ช่วยหมุนเวียนเลือด ห้ามเลือด ขับประจำเดือน แต่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ พบว่า เกล็ดของพวกมัน เป็นสสารแบบเดียวกับเล็บและผมของคน ไม่มีคุณสมบัติใดที่นำไปใช้รักษาโรคได้
นอกจากนี้ วัฒนธรรมการกินเนื้อตัวนิ่ม ยังถูกยกระดับให้เป็นเมนูสุดหรู เสิร์ฟในภัตตาคาร ผู้มีรสนิยมสรรหาอาหารแปลกได้ลิ้มลอง ทำให้พวกมัน กลายเป็นสัตว์ที่ถูกล่ามากที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง
ช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ทางการจีนสั่งแบนการใช้ชิ้นส่วนสัตว์หลายชนิ ในตำรับแพทย์แผนโบราณ เช่น ประกาศห้ามใช้กระดูกเสือและนอแรด ปี 2536 และในปี 2363 ประกาศห้ามใช้เกล็ดตัวลิ่นในยาแพทย์แผนจีน หลังจากงานวิจัยของ Wu Shibao อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย South China Normal ประเทศจีน ระบุว่า จำนวนตัวลิ่นในธรรมชาติของจีน ลดลง 90% ตั้งแต่ปี 2513
ด้านสำนักงานป่าไม้และทุ่งหญ้าแห่งจีน (National Forestry and Grasslands Administration: NFGA) ประกาศยกระดับตัวลิ่นทุกชนิด เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองระดับแรกของประเทศ โดยจะได้รับความคุ้มครองในระดับสูงสุดตามกฎหมายสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า หากต้องการใช้เพื่อการวิจัยต้องขออนุมัติจากหน่วยงานสัตว์ป่าแห่งชาติเท่านั้น นับว่าอยู่ในระดับสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ เช่นเดียวกับแพนด้า แต่การยกระดับครั้งนี้ มีเพียงแค่ตัวลิ่นสายพันธุ์จีน (Manis pentadactyla) ขณะที่ปัจจุบัน มีเหลือเพียง 8 ชนิดทั่วโลก
แม้ตัวลิ่นจะเป็นสัตว์ห้ามซื้อขาย ที่ได้รับการคุ้มครองจากอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) แต่ตัวลิ่น กลับเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ถูกค้าชิ้นส่วนผิดกฎหมายมากที่สุดในโลก มีประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศทางผ่าน
ปี 2560 กรมอุทยานแห่งชาติฯ และศุลากากร จับกุมคดีการลักลอบนำเข้าเกล็ดตัวนิ่ม สูงที่สุดปีหนึ่ง พบว่า ส่งจากประเทศคองโก ผ่านมายังตุรกี เข้าสู่ไทย เพื่อนำส่งไปสปป.ลาวแล้วเข้าจีน
รายงานของ TRAFFIC พบว่า 10 ปีที่ผ่านมา มีตัวลิ่นถูกตรวจและจับกุมยึดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กว่า 895,000 ตัว เกล็ดลิ่นส่วนมาก หรือประมาณ 96,000 กก. มาจากแอฟริกา ถูกขายในตลาดเอเชีย มีจีนและเวียดนามเป็นลูกค้าปลายทางรายใหญ่
โฆษณา