Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
BallFessor
•
ติดตาม
20 ส.ค. 2023 เวลา 13:30 • กีฬา
สิงหาคม 2023 กับ แชมป์แรกนอกยุโรปของ 2 นักเตะที่ดีที่สุดแห่งยุค
หลังจากเมื่อเช้าที่ผ่านมา ในนัดชิง คอนคาเคฟ ลีก คัพ อินเตอร์ ไมอามี่ เอาชนะการจุดโทษ แนชวิลล์ เอสซี ไปด้วยสกอร์ 10-9 หลังจากที่เสมอกันในเวลา 1-1 ทำให้ ลิโอเนล เมสซี่ สามารถคว้าแชมป์แรกนอกยุโรปในการแข่งขั้นฟุตบอลสโมสรได้สำเร็จ
และถ้าหากย้อนไปในวันเสาร์ที่แล้ว ในนัดชิง อาหรับ คลับ แชมเปี้ยนส์ คัพ อัล นาสเซอร์ ชนะ อัล ฮิลาล ในช่วงต่อเวลาพิเศษไปด้วยสกอร์ 2-1 หลังจากที่เสมอกันในเวลา 1-1 ทำให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สามารถคว้าแชมป์แรกนอกยุโรปได้สำเร็จเช่นกัน
ลิโอเนล เมสซี่ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เรียกได้ว่าทั้งคู่กวาดความสำเร็จมาได้เกือบทุกรายการในทวีปยุโรป เมสซี่ คว้าแชมป์ได้ทุกรายการของลีกสเปนกับบาร์เซโลน่า และยังคว้าแชมป์ลีกเอิงกับเปแอสเช ได้อีก 2 สมัย โรนัลโด้คว้าแชมป์ได้ทุกรายการของลีกอังกฤษ, ลีกฝรั่งเศส และลีกอิตาลี
จนเมื่อในเดือนมกราคม 2023 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ย้ายมาร่วมทัพอัล นาสเซอร์ พร้อมกับทำสถิติเป็นนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยมากที่สุดในโลก และในเดือน กรกฎาคม 2023 ลิโอเนล เมสซี่ ได้ย้ายมาร่วมทัพอินเตอร์ ไมอามี่ ทีมของเดวิด เบ็คแฮม
และหลังจากนั้นในเดือนสิงหาคม 2023 เขาทั้งคู่ก็สามารถคว้าแชมป์ได้ทั้งคู่ เรามาติดตามเรื่องราวของพวกเขากันครับ
หลังจากที่อัล นาสเซอร์ เซ็นสัญญา โรนัลโด้เข้ามาในฤดูกาล 2022/23 ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง โดยโรนัลโด้ ลงเล่นในซาอุดิ โปร ลีก ไป 16 นัด ทำไป 14 ประตู แต่ไม่เพียงพอที่จะพาอัลนาสเซอร์คว้าแชมป์ลีกซาอุ มาครองได้ โดยแชมป์ตกเป็นของอัล อิตติฮัด ที่มีแต้มมากกว่าอัล นาสเซอร์ 5 แต้ม
อัล นาสเซอร์ เป็นทีมใหญ่ทีมหนึ่งของลีกซาอุ พวกเขาคว้าแชมป์ลีกซาอุได้ถึง 9 สมัย เป็นรองเพียงแค่อัล ฮิลาล ที่คว้าไปครองรวมได้ 18 สมัย และยังคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยซาอุได้อีก 6 สมัย แต่ทว่านับตั้งแต่ปี 2020 อัล นาสเซอร์ ไม่ได้แชมป์อย่างเป็นทางการแม้แต่รายการเดียว
จนกระทั่งในการแข่งขัน อาหรับ คลับ แชมเปี้ยนส์ คัพ คือ การแข่งขันฟุตบอลสโมสรของชาวอาหรับ ที่ได้รวมทีมหัวตารางจากลีกต่างๆของประเทศอาหรับมาแข่งขันกัน เช่น ลีกซาอุ ยูเออี อัลจีเรีย อียิปต์ โอมาน โมร็อคโก กาตาร์ ตูนิเซีย และกลุ่มประเทศอาหรับ
ในรอบแบ่งกลุ่ม
แมตช์แรก อัล นาสเซอร์ เสมอกับอัล ซาบับ เพื่อนร่วมทีมลีกซาอุไปแบบไร้สกอร์ 0-0
แมตช์ที่สอง อัล นาสเซอร์ เอาชนะยูเนี่ยน โมนาสตีร์ จากลีกตูนิเซียไปขาดลอย 4-1 โดยโรนัลโด้เป็นผู้ทำประตูออกนำ 2-1 ให้กับทีม
แมตช์ที่สาม อัล นาสเซอร์ เสมอกับ ซามาเล็ค จากลีกอียิปต์ ไปด้วยสกอร์ 1-1 โรนัลโด้เป็นผู้โหม่งทำประตูตีเสมอให้กับทีม รวม 3 นัดอัล นาสเซอร์ เก็บได้ 5 แต้ม เข้ารอบด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่ม ต้องเข้าไปเจองานหนัก ราจา คาซาบลังก้า แชมป์เก่าของรายการนี้
รอบก่อนรอบชนะเลิศ อัล นาสเซอร์ เอาชนะ ราจา คาซาบลังก้า แชมป์เก่าของรายการ จากลีกโมร็อคโก ไปด้วยสกอร์ 3-1 โรนัลโด้เป็นผู้ทำประตูออกนำ 1-0 ให้กับทีม
รอบรองชนะเลิศ อัล นาสเซอร์ เอาชนะ อัล ซอร์ต้า แชมป์ลีกอิรักไปด้วยสกอร์ 1-0 โดยมาจากจุดโทษประตูชัยของโรนัลโด้
ซาดิโอ มาเน่ ผู้เรียกจุดโทษให้กับทีม และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ผู้ซัดจุดโทษพาทีมเข้าชิง
นัดชิงชนะเลิศจัดขึ้นที่ซาอุดิอาระเบีย สนามคิง ฟาฮัด สเตเดี้ยม ในวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเป็นการพบกันของ 2 ทีมจากซาอุดิ โปร ลีก คือ อัล นาสเซอร์ โคจรมาเจอกับอัล ฮิลาล แชมป์เก่ารายการนี้ 2 สมัย แชมป์ลีกซาอุ 18 สมัย และยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์การใช้สนามแห่งนี้ด้วย
1
อัล ฮิลาล ออกนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 56 ก่อนที่ในนาทีที่ 71 สถานการณ์ยิ่งย่ำแย่เพราะ มีผู้เล่นของอัล นาสเซอร์ โดนใบแดงทำให้อัล นาสเซอร์ต้องเล่น 10 คน แต่ว่าในนาทีที่ 74 อัล นาสเซอร์ จะมาได้ประตูตีเสมอจากโรนัลโด้ และในนาทีที่ 78 อัล นาสเซอร์ มีนักเตะโดนใบแดงอีก ทำให้เหลือผู้เล่น 9 คน สกอร์จบในเวลาปกติเสมอกันไป 1-1
ก่อนที่ในช่วงต่อเวลาพิเศษ คริสเตรียโน่ โรนัลโด้ จะมาโหม่งประตูชัย ให้อัล นาสเซอร์ เฉือนชนะ อัล ฮิลาล ไป 2-1 คว้าแชมป์ อาหรับ คลับ แชมเปี้ยนส์ คัพ มาครองได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร และถ้วยใบนี้ยังเป็นแชมป์อย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 4 ปีของอัล นาสเซอร์
อัล นาสเซอร์ กับแชมป์อาหรับ คลับ แชมเปี้ยนส์ คัพ สมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
ในขณะที่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ทำผลงานลงเล่นไป 6 นัด ทำไป 6 ประตู เป็นดาวซัลโวของรายการ โดยรองดาวซัลโวคือคาริม เบนเซม่า อดีตคู่หูของเขาเมื่อตอนค้าแข้งที่เรอัล มาดริด ที่ทำไปได้ 3 ประตู
คริสเตรียโน่ โรนัลโด้ คว้ารางวัลรองเท้าทองคำ
เราจะพามาดูแชมป์แรกของเมสซี่ กับ อินเตอร์ ไมอามี่ กันครับ หลังจากที่ในเดือนกรกฎาคม 2023 ที่ผ่านมา อินเตอร์ ไมอามี่ ทีมที่มีหนึ่งในตำนานลูกหนัง เดวิด เบ็คแฮม เป็นเจ้าของร่วม ได้ทำการเซ็นสัญญาคว้าตัวลิโอเนล เมสซี่ มาจากเปแอสเช
สถานะของทีมอินเตอร์ ไมอามี่ นั้นถือว่าต่างจากอัล นาสเซอร์พอสมควร เพราะพวกเขาพึ่งก่อตั้งทีมมาในปี 2018 ซึ่งในขณะนี้ในการแข่งขัน MLS ฤดูกาล 2023 ในการแข่งขันเก็บแต้มฤดูกาลปกติ พวกเขาเป็นทีมบ๊วยของการแข่งขันในโซนตะวันออก และยังเป็นบ๊วยในตารางคะแนนรวม แต่เนื่องจากใน MLS ฤดูกาล 2022 พวกเขาจบอันดับที่ 6 ของโซนตะวันออก และเป็นอันดับ 12 ในตารางคะแนนรวม จึงได้สิทธิเข้าร่วมแข่งขัน คอนคาเคฟ ลีก คัพ
1
คอนคาเคฟ ลีก คัพ เป็นการแข่งขันฟุตบอลถ้วยระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก มีทีมเข้าร่วม 32 ทีมที่เข้าร่วมจะมาจาก MLS (ลีกสหรัฐอเมริกาและแคนาดา) และ Liga MX (ลีกเม็กซิโก) ลีกละ 16 ทีม
1
ในรอบแบ่งกลุ่ม
แมตช์แรก อินเตอร์ ไมอามี่ เอาชนะครูซ อาซูล จากลีกเม็กซิโก ไป 2-1 แมตช์นี้เป็นแมตช์แรกของเมสซี่ กับอินเตอร์ ไมอามี่ โดยลงมาเป็นตัวสำรองและซัดฟรีคิกประตูชัยในช่วงท้ายเกม
แมตช์ที่สอง อินเตอร์ ไมอามี่ ไถ่ถล่ม แอตแลนต้า ยูไนเต็ด ไป 4-0 โดยแมตช์นี้เมสซี่ ทำไป 2 ประตู กับ 1 แอสซิสต์
ในรอบแบ่งกลุ่มอินเตอร์ ไมอามี่ เก็บได้ 6 แต้มเต็มเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่ม
รอบ 32 ทีมสุดท้าย อินเตอร์ ไมอามี่ เอาชนะออร์แลนโด้ ซิตี้ ไป 3-1 เมสซี่ทำไป 2 ประตู
รอบ 16 ทีมสุดท้าย อินเตอร์ ไมอามี่ เอาชนะการดวลจุดโทษเอฟซี ดัลลัส โดยแมตช์นี้เป็นอีกแมตช์สุดมันส์ เมสซี่ยิงให้อินเตอร์ ไมอามี่นำไป 1-0 ก่อนที่จะโดนเอฟซี ดัลลัสรัวยิงแซง ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายเอฟซี ดัลลัส นำ อินเตอร์ ไมอามี่ 4-2 ก่อนที่อินเตอร์ ไมอามี่จะไล่มาเป็น 4-3 และลิโอเนล เมสซี่มาซัดฟรีคิกประตูตีเสมอ 4-4 ให้กับทีม เกมจบในเวลา 4-4 ก่อนที่อินเตอร์ ไมอามี่ จะเอาชนะการดวลจุดโทษไป 5-3
รอบก่อนรองชนะเลิศ อินเตอร์ ไมอามี่ ไล่ถล่ม ชาร์ล็อตต์ เอฟซีไป 4-0 เมสซี่เป็นผู้ซัดประตูปิดท้ายให้กับทีม
รอบรองชนะเลิศ อินเตอร์ ไมอามี่ ต้องมาเจอกับ ฟิลาเดเฟีย ยูเนี่ยน แชมป์โซนตะวันออก MLS 2022 และรองแชมป์ MLS Cup 2022 ก่อนที่อินเตอร์ ไมอามี่ จะเอาชนะไปขาดลอย 4-1 โดยเมสซี่เป็นผู้ทำประตูนำ 2-0ให้กับทีม
ลิโอเนล เมสซี่ กับเพื่อนร่วมทีมอินเตอร์ ไมอามี่
นัดชิงชนะเลิศจัดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา ณ สนาม จีโอดิส พาร์ค โดยเป็นการเจอกันของ 2 ทีมจากสหรัฐอเมริกา ระหว่างทีมอินเตอร์ ไมอามี่ และ แนชวิลล์ เอฟซี ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์สนามแห่งนี้เช่นกัน
อินเตอร์ ไมอามี่ ออกนำไปก่อน 1-0 จากลิโอเนล เมสซี่ในนาทีที่ 23 ก่อนที่แนชวิลล์ เอฟซี จะไล่ตีเสมอ 1-1 ก่อนที่เกมจบจะในเวลาด้วยสกอร์ 1-1
ช่วงต่อเวลาพิเศษทั้ง 2 ทีมทำอะไรกันไม่ได้ ก่อนจะยืดเยื้อมาถึงการดวลจุดโทษ 5 คนแรกของทั้ง 2 ทีมยิงเข้ากันทั้งคู่ ก่อนที่จะต้องมายิงจุดโทษแบบ Sudden Death และเป็นอินเตอร์ ไมอามี่ เอาชนะไปด้วยสกอร์ 10-9 คว้าแชมป์อย่างเป็นทางการครั้งแรกของสโมสร
อินเตอร์ ไมอามี่ กับแชมป์คอนคาเคฟ ลีก คัพ สมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
ในขณะที่ลิโอเนล เมสซี่ ที่ทำผลงานลงเล่นไป 7 นัด ทำไป 10 ประตู 1 แอสซิสต์ คว้ารางวัลดาวซัลโวของรายการ โดยทิ้งห่างอันดับ 2 ที่ทำไป 7 ประตู นอกจากนี้ เมสซี่ก็ยังคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของรายการไปครองได้อีกด้วย
ลิโอเนส เมสซี่ คว้าทั้งรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม และดาวซัลโวของรายการ
คนหนึ่งเข้ามาเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของทีมใหญ่ที่ร้างความสำเร็จมาหลายปี และอีกคนหนึ่งเข้ามาแบกทีมกลางตารางให้คว้าแชมป์แรกในประวัติศาสตร์สโมสร ทั้ง 2 คนคว้าแชมป์แรกนอกทวีปยุโรปได้ในเวลาห่างกันไม่ถึง 1 สัปดาห์ ในเดือนสิงหาคม 2023 และยังบุกไปคว้าแชมป์ได้ถึงสนามของคู่แข่งในนัดชิงทั้งคู่
เป็นเวลาเกือบ 2 ทศวรรษที่แฟนบอลทั้งหลายเถียงกันว่าใครคือนักเตะอันดับ 1 แห่งยุคสมัย จนในตอนนี้เวลาในสนามของพวกเขาทั้ง 2 คนนั้น เหลือน้อยลงไปทุกที
แฟนบอลอย่างพวกเรานั้นควรมาดื่มด่ำการวาดลวดลายบนพื้นหญ้าในช่วงโค้งสุดท้ายอาชีพของ Top 2 นักเตะที่ดีที่สุดของยุคกันให้มีความสุขครับกันดีกว่าครับ
Photo Credit ขอบคุณรูปภาพ
Instagram Official Page cristiano
Instagram Official Page leomessi
Instagram Official Page alnassr
Instagram Official Page intermiamicf
Instagram Official Page mls
ฟุตบอล
ข่าวฟุตบอล
ข่าวรอบโลก
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย