22 ส.ค. 2023 เวลา 02:56 • กีฬา

#MainStand : นักเตะดังที่รีเทิร์นกลับสโมสรเก่า

อาชีพนักฟุตบอลก็ไม่ต่างอะไรกับอาชีพอื่น ๆ ที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนย้ายที่ทำงานและมีช่วงเวลาที่ต้องอำลาสโมสรตามวิถีของฟุตบอล การย้ายทีมจึงเป็นเรื่องปกติสำหรับวงการฟุตบอล แต่มีไม่มากที่นักฟุตบอลจะได้ย้ายกลับสู่อดีตต้นสังกัดเดิมเป็นครั้งที่ 2
วันนี้ Main Stand ขอนำเสนอนักฟุตบอลที่ได้กลับมาเล่นให้สโมสรเดิมอีกครั้ง จะมีใครกันบ้าง ไปติดตามรับชมกันได้เลย
[คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด]
ย้ายออกปี 2009 ย้ายกลับปี 2021
ปี 2009 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขาย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ให้กับ เรอัล มาดริด ด้วยราคา 80 ล้านปอนด์ เป็นสถิตินักฟุตบอลค่าตัวมากที่สุดในโลกในเวลานั้น และโรนัลโด้ก็โชว์ฟอร์มการเล่นจนกลายเป็น 1 ในนักเตะที่ดีที่สุดในโลกและประสบความสำเร็จมากมาย ทั้งในนามสโมสร ทีมชาติ และรางวัลส่วนตัวที่เขาคว้ารางวัลบัลลงดอร์ได้ถึง 5 สมัย
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย้ายกลับมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้งในปี 2021 เป็นการกลับบ้านหลังเก่าของเขาในรอบ 12 ปี แม้ว่าการกลับมาในครั้งนี้จะไม่สวยงามเหมือนกับตอนที่ลงเล่นให้สโมสรครั้งแรก แต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ยังถูกจดจำในฐานะตำนานของสโมสรตลอดไป
[ดิดิเยร์ ดร็อกบา กับ เชลซี]
ย้ายออกปี 2012 ย้ายกลับปี 2014
เชลซี ดึงตัว ดิดิเยร์ ดร็อกบา มาร่วมทีมเมื่อปี 2004 และเขาก็อยู่กับทีมยาวนานถึง 8 ปี ดร็อกบายังคงอยู่ในอันดับที่ 4 ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลประจำสโมสร นัดสุดท้ายของเขากับเชลซีคือนัดที่เอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก ในปี 2011/12 ซึ่งในวันนั้นดร็อกบามีชื่อเป็นผู้ทำประตูตีเสมอ 1-1
ดิดิเยร์ ดร็อกบา ย้ายกลับมาเชลซีอีกครั้งเมื่อปี 2014 ในวัย 36 ปี ภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูริญโญ่ อดีตเจ้านายเก่าของเขา ฟอร์มการเล่นของดร็อกบาไม่ได้ดีเหมือนกับตอนที่เล่นให้เชลซีครั้งแรก แต่เขาก็สามารถช่วยทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2014/15 มาครองได้อีกสมัย
[เธียร์รี่ อองรี กับ อาร์เซนอล]
ย้ายออกปี 2007 ย้ายกลับปี 2012
อาร์เซนอล ซื้อ เธียร์รี่ อองรี มาจาก ยูเวนตุส ในปี 1999 อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซนอลในเวลานั้น เปลี่ยนตำแหน่งของอองรี จากเดิมที่เล่นในตำแหน่งริมเส้นให้มายืนเป็นศูนย์หน้า และเขาก็กลายเป็นสุดยอดกองหน้าระดับตำนานของทีมที่ยิงประตูถล่มทลาย พาอาร์เซนอลคว้าแชมป์ลีก 2 สมัย และอองรียังเป็นดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรมาจนถึงปัจจุบัน
หลังจากใช้เวลา 8 ปีกับอาร์เซนอล ปี 2007 เธียร์รี่ อองรี ย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า และเป็นนักเตะในชุดประวัติศาสตร์ของทีม “เจ้าบุญทุ่ม” ที่คว้าแชมป์ได้ถึง 6 รายการในปี 2009 ก่อนที่เขาจะย้ายไปเล่นกับ นิวยอร์ก เรดบูลส์ ทีมในเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ สหรัฐอเมริกา และย้ายกลับมาอาร์เซนอลอีกครั้งในปี 2012 ด้วยสัญญายืมตัว 2 เดือน
[เวย์น รูนีย์ กับ เอฟเวอร์ตัน]
ย้ายออกปี 2004 ย้ายกลับปี 2017
เวยน์ รูนีย์ เข้าร่วมทีมเยาวชนของเอฟเวอร์ตันตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ตอนอายุ 16 ปี ตอนนั้นเขาถูกมองว่าเป็นดาวรุ่งที่ดีที่สุดในรอบ 20 ปี และในปี 2004 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทุ่มเงินสูงถึง 30 ล้านปอนด์คว้าตัวรูนีย์ที่อายุเพียงแค่ 18 ปีในเวลานั้นไปร่วมทีม
เวย์น รูนีย์ สร้างตำนานด้วยการเป็นดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และคว้าแชมป์กับทัพ “ปีศาจแดง” ได้มากถึง 17 ถ้วยจากทุกรายการ เวยน์ รูนีย์ ย้ายกลับมาเอฟเวอร์ตันอีกครั้งในปี 2017 เขายิงได้ 10 ประตูและเป็นดาวซัลโวของทีมในฤดูกาล 2017/18
[กาก้า กับ เอซี มิลาน]
ย้ายออกปี 2009 ย้ายกลับปี 2013
เพลย์เมกเกอร์ชาวบราซิลย้ายจาก เซา เปาโล มาอยู่ เอซี มิลาน เมื่อปี 2003 ทักษะฝีเท้าการเล่นที่สวยงามและมีประสิทธิภาพของเขามีส่วนช่วยพา “ปีศาจแดง-ดำ” คว้าแชมป์มากมาย ด้วยผลงานส่วนตัวที่โดดเด่นทำให้กาก้าได้รับรางวัลบัลลงดอร์ในปี 2007
ฤดูกาล 2008/09 กาก้าจำเป็นต้องย้ายออกจาก เอซี มิลาน เนื่องจากสโมสรประสบปัญหาทางด้านการเงินจึงต้องขายเขาให้ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 68.5 ล้านยูโร แต่การย้ายไป เรอัล มาดริด กาก้าไม่ค่อยประสบความสำเร็จเนื่องจากปรับตัวไม่ได้กับแผนการเล่นของทีม และยังโชคร้ายเจออาการบาดเจ็บเล่นงาน
หลังจากหมดสัญญากับ เรอัล มาดริด ในปี 2013 กาก้าก็กลับมาลงเล่นให้กับ เอซี มิลาน อีก 1 ปี แม้ว่าสภาพร่างกายและฟอร์มการเล่นของเขาจะไม่ดีเหมือนกับครั้งแรก แต่แฟนบอลก็ยังรักเขาในฐานะตำนานสโมสรคนหนึ่ง
[ดานี่ อัลเวส กับ บาร์เซโลน่า]
ย้ายออกปี 2016 ย้ายกลับปี 2021
ดานี่ อัลเวส ย้ายมาอยู่กับ บาร์เซโลน่า ในปี 2008 และอยู่กับสโมสรนานถึง 8 ปี เขาคว้าแชมป์กับบาร์เซโลน่าได้มากถึง 23 ถ้วย หลังจากหมดสัญญาอัลเวสย้ายไปเล่นให้กับ ยูเวนตุส, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และ เซา เปาโล
ฤดูกาล 2021/22 บาร์เซโลน่าประสบปัญหาการเงินอย่างหนัก ดานี่ อัลเวส ในวัย 39 ปี ตัดสินใจกลับมาช่วยอดีตต้นสังกัดอีกครั้ง เขาตกลงที่จะรับค่าเหนื่อยเพียงแค่ 10,000 ยูโรต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นค่าเหนื่อยที่ต่ำที่สุดในสัญญานักเตะอาชีพ เพื่อที่จะให้บาร์เซโลน่านำเงินไปใช้จ่ายกับเรื่องอื่น ๆ
[ปอล ป็อกบา กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ยูเวนตุส]
แมนฯ ยูไนเต็ด ย้ายออกปี 2012 ย้ายกลับปี 2016
ยูเวนตุส ย้ายออกปี 2016 ย้ายกลับปี 2023
ปอล ป็อกบา เติบโตจากการเป็นเด็กในอคาเดมีของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่เขาก็ไม่สามารถแทรกขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้ ก่อนที่จะหมดสัญญาในปี 2012 ป็อกบาก็ย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส และโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นจน แมนฯ ยูไนเต็ด อดีตต้นสังกัดตัดสินใจทุ่มเงิน 89 ล้านปอนด์ดึงตัวกลับมาในปี 2016
ปอล ป็อกบา อยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเวลา 6 ปี แต่เขาก็ไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นเท่ากับสมัยเล่นให้กับยูเวนตุส และถูกอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอด ด้วยฟอร์มการเล่นที่ไม่คุ้มกับค่าตัวและค่าเหนื่อยที่ทัพ “ปีศาจแดง” ลงทุนไป แมนฯ ยูไนเต็ด จึงเลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับเขา และหลังจากหมดสัญญาในปี 2022 ป็อกบา ก็ย้ายกลับมายูเวนตุสอีกครั้ง แต่การกลับมารอบนี้ดูจะไม่ดีสักเท่าไร ทั้งฤดูกาล 2023 ป็อกบาลงสนามให้กับยูเวนตุสไปเพียงแค่ 10 นัดจากทั้งฤดูกาล เนื่องจากเขามีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่เสมอ
[โรเมลู ลูกากู กับ เชลซี และ อินเตอร์ มิลาน]
เชลซี ย้ายออกปี 2014 ย้ายกลับปี 2021
อินเตอร์ มิลาน ย้ายออกปี 2021 ย้ายกลับปี 2022
โรเมลู ลูกากู ย้ายมาร่วมทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม” ตั้งแต่อายุ 18 ปี แต่ไม่สามารถขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ เขาจึงถูกส่งไปยืมตัวกับ เอฟเวอร์ตัน และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจนถูกซื้อขาดในปี 2013 ในระยะเวลา 4 ปี ลูกากูยกระดับการเล่นจนกลายเป็นศูนย์หน้าจอมถล่มประตูให้กับทีม
ในปี 2017 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจทุ่มเงิน 75 ล้านปอนด์คว้าตัว โรเมลู ลูกากู ไปร่วมทีม แต่ฟอร์มการเล่นของเขากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่เป็นอย่างที่คาดหวังไว้
ในปี 2019 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปล่อยตัวลูกากูให้ อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัว 74 ล้านปอนด์ และเขาก็กลับมาเป็นศูนย์หน้าจอมถล่มประตูอีกครั้ง ลูกากูพาทัพ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน คว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี
และเมื่อจบฤดูกาล เชลซี อดีตต้นสังกัดในวัยเด็กของเขาก็ทุ่มเงินสูงถึง 97.5 ล้านปอนด์คว้าตัว โรเมลู ลูกากู ไปร่วมทีม แต่ฤดูกาลแรกของลูกากูกับเชลซี เขาทำประตูไปได้เพียง 8 ประตู ปีต่อมาเชลซีจึงปล่อยลูกากูกลับไปที่ อินเตอร์ มิลาน อีกครั้งในรูปแบบการยืมตัว แต่การกลับมาครั้งนี้เขากลายเป็นตัวเลือกบนม้านั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่ หลังจบฤดูกาล อินเตอร์ มิลาน ก็เลือกที่จะไม่ซื้อขาดและส่งตัวเขากลับมาที่เชลซี
[ธีราทร บุญมาทัน กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด]
ย้ายออกปี 2016 ย้ายกลับปี 2022
“โก๋อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน อยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ยังเป็นเยาวชน และคว้าแชมป์มากมายกับทัพ “ปราสาทสายฟ้า” เขายกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นมาเป็นแบ็กซ้ายอันดับหนึ่งของทีมชาติไทย และในปี 2016 ธีราทรก็ย้ายไปอยู่กับคู่ปรับร่วมลีกอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 30 ล้านบาท และพา “กิเลนผยอง” คว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก และแชมป์ลีก คัพ ได้สำเร็จ
ในปี 2018 วิสเซล โกเบ ทีมในเจลีก ประเทศญี่ปุ่น ดึงตัว ธีราทร บุญมาทัน ไปร่วมทีมด้วยรูปแบบการยืมตัว
ต่อด้วย โยโกฮาม่า เอฟมารินอส ที่ยืมตัวไปใช้งานปี 2019 และซื้อขาดด้วยค่าตัว 35 ล้านบาท และเขาสามารถยึดตำแหน่งแบ็กซ้ายตัวหลักของทีม และเป็นคนไทยคนแรกที่คว้าแชมป์เจลีก ญี่ปุ่น ต่อมาในปี 2022 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็ทุ่มเงิน 6.8 ล้านบาทดึงตัว ธีราทร บุญมาทัน กลับมาร่วมทีมเป็นครั้งที่ 2
โฆษณา