27 ส.ค. 2023 เวลา 06:00 • ไลฟ์สไตล์

‘DISC’ ลักษณะคน 4 ประเภทในที่ทำงาน ทำความเข้าใจ ช่วยลดความขัดแย้งในองค์กร

ทำความรู้จักแบบทดสอบบุคลิกภาพการทำงาน ‘DISC Model’ ที่ช่วยทำให้รู้เข้าใจตัวตนของเพื่อนร่วมงาน นำไปสู่การปฏิบัติต่อกันอย่างถูกต้อง และลดความขัดแย้งภายในองค์
โมเดล DISC เป็นแบบทดสอบบุคลิกภาพอีกอย่างหนึ่ง ที่มีมาตั้งแต่ปี 1928 คิดค้นโดย ดร. วิลเลียม มาร์สตัน ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา ซึ่งแบ่งพฤติกรรมและนิสัยของมนุษย์ออกเป็น 4 ประเภท คือ Dominance (มีอำนาจ), Influence (มีอิทธิพล), Steadiness (มีความมั่นคง) และ Compliance (มีความเห็นพ้อง) เพื่อแสวงหาวิธีการทำงานร่วมกับคนแต่ละแบบ การอยู่กับเพื่อนร่วมงาน จุดเด่นและจุดด้อยของคนแต่ละประเภทในการงาน
อริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ และผู้ก่อตั้ง SEAC (ซีแอค) เปิดเผยว่า “DISC (ดีไอเอสซี) คือโมเดลที่สะท้อนลักษณะพฤติกรรมของมนุษย์ ดังนั้นการเข้าใจ DISC ก็เหมือนได้เปิดประตูสู่อีกขั้นของการเข้าใจผู้คน สามารถนำไปต่อยอดเพื่อพัฒนาตนเอง รวมถึงการทำงานแบบทีมเวิร์ค ซึ่งเป็น Soft Skill ที่ทุกองค์กรควรให้พนักงานของตนเรียนรู้ไว้”
สำหรับมนุษย์แต่ละประเภทตามโมเดล DISC สามารถจำแนกได้ดังนี้
📌 D หรือ Dominance
เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับงานเป้าหมาย ผลลัพธ์ ความสำเร็จ และความคิดของตัวเอง ตัดสินใจเร็วและเด็ดขาด มองหาความท้าทาย รักการพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง พร้อมที่จะเสี่ยง สนุกกับการแก้ปัญหา มุ่งมั่นชิงชัยให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์และความสำเร็จ
7
คนสไตล์ D กล้าเรียกร้องสิ่งต่าง ๆ มักทำตัวเป็นหัวหน้า จอมบงการ ชอบออกคำสั่ง แสดงอำนาจ คิดว่าตนเองถูกเสมอ เข้มงวด แต่ก็ตรงไปตรงมา พูดตรงประเด็น ยอมหักไม่ยอมงอ แน่วแน่ หนักแน่น ชอบทำอะไรเป็นทางการ ไว้ตัว ไม่สุงสิงกับคนที่ไม่รู้จัก และสนุกกับการแข่งขัน เพราะชอบความท้าทาย
📌 I หรือ Influence
เป็นคนสนุกสนาน เฮฮา มีไอเดียสร้างสรรค์ เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน รักอิสระ ไม่ขังตัวเองอยู่ในกรอบ จึงไม่ชอบวางแผน มองโลกในแง่ดี เป็นคนเปิดเผย มีมนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ และสร้างบรรยากาศรื่นเริงให้ผู้อื่น หลงใหลในรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
ดังนั้นคนสไตล์ I จึงเข้าชอบเข้าสังคม ช่างพูดช่างคุย อยากเล่าอยากเจรจา มีความกระตือรือร้น บ้าพลัง ชอบแสดงออก พูดชักจูงโน้มน้าวใจเก่ง เป็นที่โดดเด่นและสะดุดตาเมื่ออยู่ในกลุ่มคน อยากทำอะไรก็ทำ ใช้อารมณ์เหนือเหตุผล และกลัวคนอื่นไม่รักจึงทำให้ชอบตามใจคนอื่น
📌 S หรือ Steadiness
เป็นมิตรกับทุกคน จริงใจ มั่นคง และภักดี เป็นคนรักสงบ รอบคอบ นิ่งเงียบ อบอุ่น ห่วงใย ใส่ใจคนรอบข้าง ทั้งยังชอบช่วยเหลือผู้อื่น คอยอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ เป็นผู้ฟังที่ดี ยืดหยุ่น และมีไหวพริบดี ชอบทำงานเป็นทีม ชอบอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย และทำงานตามระดับความเร็วของตนเอง
ทำให้คนสไตล์ S เป็นสายซัพพอร์ต ตามใจผู้อื่น สุภาพ ไวต่อความรู้สึก ขี้เกรงใจ ไม่ชอบพูดอะไรที่ทำร้ายน้ำใจคนอื่น แม้จะเป็นคนที่ใจเย็น เอาใจใส่ เก็บรายละเอียด แต่ก็ดื้อเงียบ ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง อยู่ในเซฟโซน ระมัดระวังตัวเสมอ เชื่อในข้อมูลที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว
📌 C หรือ Compliance
เป็นคนเงียบขรึม ขี้อาย เก็บตัว รักความสมบูรณ์แบบ ลงรายละเอียด ให้ความสำคัญเรื่องสถิติและข้อมูล คิดเป็นเหตุเป็นผล ทำงานด้วยข้อเท็จจริง เที่ยงตรง แม่นยำ มีตรรกะ คิดเป็นระบบ วางแผนล่วงหน้าเสมอ และต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่คิดไว้
คนสไตล์ C จึงเป็นคนที่คิดก่อนจะลงมือปฏิบัติ ละเอียดถี่ถ้วน ยึดมั่นในความคิดตัวเอง ไม่ยอมคนอื่น หากไม่มีข้อมูลเพียงพอ มีเหตุผล ใฝ่รู้ ชอบหาความรู้ใส่ตัว แต่เมื่อไม่ข้อมูลที่เพียงพอ จะกลายเป็นคนโลเล ไม่กล้าตัดสินใจ นอกจากนี้ยังเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ชอบเข้าสังคมอีกด้วย
📌 ทำงานร่วมกับคนแต่ละประเภท
คุณลักษณะทั้ง 4 กลุ่มนี้ ไม่มีกลุ่มไหนที่ดีกว่า หรือเด่นกว่ากัน แต่ละประเภทล้วนมีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน ทำให้พวกเขามีการแสดงออกที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งแตกต่างกันดังนี้
การมอบหมายงานให้คนสไตล์ D ควรจะต้องให้อิสระในการทำงานแก่พวกเขา เพราะคนประเภทนี้ชอบเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ แต่ควรจะต้องบอกจุดมุ่งหมายของงานให้ชัดเจน ทรัพยากรที่พวกเขาสามารถใช้ได้ รวมถึงระยะเวลาการทำงานให้ชัดเจน เพื่อที่จะได้ส่งงานได้ทันเวลา พร้อมต้องช่วยตรวจสอบความถูกต้องในตอนท้าย
คนประเภท I มีจินตนาการสูง ดังนั้นจำเป็นจะต้องอธิบายผลลัพธ์ของงานให้ชัดเจนและเข้าใจตรงกัน รวมถึงกำหนดขั้นตอนการทำงานให้พวกเขา พร้อมบอกกำหนดส่งงาน เพราะจินตนาการของคนสไตล์ I อาจทำให้พวกเขาทำงานได้ไม่ตอบโจทย์และมองข้ามรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไป
ขณะที่การมอบงานใหม่ ๆ ที่คนกลุ่ม D ไม่เคยทำมาก่อน คุณจำเป็นต้องอธิบายงานทีละขั้นตอนให้ละเอียด พร้อมข้อมูลที่เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้พวกเขาสามารถกลับไปตรวจเช็กได้ เวลาที่ไม่มั่นใจ นอกจากนี้ พวกเขาเป็นคนขี้เกรงใจ ดังนั้นคุณจำเป็นต้องบอกว่าพวกเขามีทรัพยากรใดสำหรับการทำงานบ้าง และควรช่วยพวกเขาในการขอความร่วมมือจากผู้อื่นในกรณีที่จําเป็น
ส่วนคนสไตล์ C ก็ต้องอธิบายอย่างเป็นขั้นเป็นตอน คำนึงถึงความถูกต้องแม่นยำ พร้อมอธิบายว่างานเหล่านี้ส่งผลต่อองค์กรอย่างไร ที่สำคัญต้องเน้นย้ำเรื่องกำหนดเวลา เพราะเขาอาจใช้เวลาตรวจสอบความสมบูรณ์มากเกินไป
ทั้งนี้ มีคนเพียง 10% ในโลกเท่านั้น ที่มีบุคลิกภาพแบบอักษรตัวเดียว คนส่วนใหญ่ในโลกล้วนมีบุคลิกภาพ 2-3 กลุ่มผสมกันทั้งสิ้น ซึ่งสามารถแตกออกมาได้ถึง 40 แบบด้วยกัน ดังนั้นแต่ละคนจึงมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันไป และจำเป็นต้องเรียนรู้ศึกษานิสัยใจคอกันไป DISC Model เป็นเพียงตัวช่วยให้เราได้เรียนรู้ตัวตนของคนที่อยู่ร่วมกันมากขึ้น เมื่อคนในองค์กรเข้าใจกันมากขึ้นจะทำให้ความขัดแย้งลดลง และองค์กรจะประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
โฆษณา