Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
HappyJourneyJournal
•
ติดตาม
22 ส.ค. 2023 เวลา 08:46 • ท่องเที่ยว
นิกโก
Trip # 36 Day 4 Nikko - Asakusa
1. วันนี้ไปเที่ยว Nikko ค่ะ เราซื้อ World Heritage Pass มาจากไทยซึ่งเขาจะส่ง Voucher มาให้ทาง e-mail แล้วเราต้องมาแลกเป็น Pass ที่ Ticket Office ในสถานี Tobu Asakusa ค่ะ
Sensoji Temple ตอนเช้า
ตึก Asahi ตอนเช้าเช่นกันค่ะ
2. Pass นี้จะรวมรถไฟไปกลับระหว่าง Asakusa กับ Nikko รวมรถเมล์บริเวณ Nikko แต่ไม่รวมค่าเข้าชมศาลเจ้าหรือพิพิธพัณฑ์ที่ Nikko ค่ะ
3. รถไฟไปกลับฟรี 1 รอบนี่เป็นรถไฟปกติค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.นั่งรถไฟ 2 ต่อ จาก Asakusa ต้องไปต่อรถที่สถานี Shimo-Imachi เพื่อไปสถานี Nikko ค่ะ
4. ส่วนรถเมล์ที่ Nikko ค่ารถเมล์คิดตามระยะทางแต่ราคาก็ไม่ได้แพงค่ะ เท่าๆ กับที่ Tokyo ค่ะ
สถานี Tobu Asakusa
ทางขึ้นชานชลา
5. เอาจริงเราว่าถ้าไม่ได้ใช้รถไฟฟรีที่เขาให้มาก็จะใช้ Pass ทื่เราซื้อมาไม่คุ้มค่ะ
6. เราก็ไม่ได้ใช้รถไฟค่ะ เสียเวลาเดินทางตั้ง 3 ชม.ค่ะ ใช้รถไฟด่วนพิเศษดีกว่าค่ะ เดินทางแค่ชม.เดียวไม่เสียเวลาเที่ยว แถมไม่ต้องเปลี่ยนขบวนด้วยค่ะ
7. รถไฟไป Nikko มีทั้งตู้ที่ต้องจองที่นั่งกับตู้ที่ไม่ต้องจองค่ะ จองที่นั่งล่วงหน้าดีกว่าค่ะจะได้ไม่ต้องเสี่ยงยืนขาแข็งไปตลอดทางค่ะ
รถไฟมาแล้นนนนน....
ภายในรถไฟค่ะ
8. ภายในรถไฟค่ะ มื้อเช้าวันนี้เป็นข้าวจาก 7-11 ค่ะ ซื้อมากินบนรถไฟ
9. กินเสร็จก็หลับค่ะ เก็บแรงไว้เที่ยวค่ะ
ถึงสถานี Nikko แล้วค่ะ
ต่อรถเมล์ไป World Heritage Site ค่ะ
Time Table ของรถเมล์ค่ะ
10. จากสถานี Nikko ต้องนั่งรถเมล์ต่อไปอีกค่ะ นั่งสายสีเหลือง ดูที่ป้ายได้ค่ะ ถ้าเขียนว่าไป Toshogu Shrine, Rinnoji Temple หรือ Futarason Shrine ก็โดดขึ้นได้เลยค่ะ
11. 3 ป้ายนี้ลงป้ายไหนก็ได้ค่ะ แต่เราแนะนำให้ลงป้าย Rinnoji หรือ Futarasan ก็ได้ค่ะ จะเป็นป้ายหัวท้ายค่ะ
12. ลงป้ายใดป้ายนึง เดินๆๆๆๆๆๆๆๆ เที่ยวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วขึ้นรถกลับจากอีกป้ายนึงค่ะ
13. วันที่เราไปเขาจะไปจอดที่ Futarasan Shrine ที่เดียวค่ะ ตอนกลับเลยต้องเดินย้อนกลับมาที่ป้ายเดิมค่ะ
Futarasan Shrine Bus Stop
15. จากป้ายรถเราเดินขึ้นไปดูบน Futarason Shrine ก่อนนึดนึงค่ะเพราะได้ยินเสียงตีกลอง นึกว่าเขามีโชว์
ดูแผนที่ที่เที่ยวกันนิดนึงก่อน
ขึ้นไปดูข้างบนกันค่ะ
ร่มรื่นมาก
16. ทางขึ้นศาลเจ้าร่มรื่นมากค่ะ ต้นไม้ใหญ่ๆ เต็ม 2 ข้างทาง
ซ้อมตีกลองกันอยู่นี่เอง
17. ที่แท้เขาซ้อมกลองกันอยู่ค่ะ นทท.ยืนดูเพียบเลยค่ะ
ไปเที่ยวฝั่งโน้นกันก่อนดีกว่าค่ะ
นี่ก็ศาลเจ้า....
เดินไปๆๆ
18. เนื่องจากต้องขึ้นรถกลับสถานี Nikko จากตรงนี้เราเลยเดินไปเที่ยวอีกฝั่งนึงก่อนค่ะ
19. ต้นไม้ใหญ่ๆ เยอะมากกกกกกกกกกกกก เต็ม 2 ข้างทางไปหมดค่ะ
ต้นเล็กต้นน้อยก็เพียบ
20. นอกจากต้นใหญ่ๆ แล้ว ต้นเล็กต้นน้อยก็มีเพียบค่ะ
21. ที่ Nikko World Heritage มีที่เที่ยวอยู่ 3 โซนค่ะ โซนแรกคือโซนที่เราลงรถเมล์เมื่อกี๊
22. โซนที่ 2 คือแถว Rinnoji Temple ส่วน โซนสุดท้ายคือ Toshoku Shrine ที่เรากำลังไปค่ะ
ทางเข้า Toshoku Shrine
23. ก่อนเข้าไปอย่าลืมซื้อตั๋วก่อนนะคะ เป็นเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติค่ะ ราคาประมาณ 2,100 เยนสำหรับเข้าทุกที่สำหรับ Toshoku Shrine ยกเว้นเจดีย์แดง 5 ชั้นที่ต้องเสียค่าเข้าแยกตะหากอีก 300 เยนค่ะ
ภาพช้าง
24. ด้านในจะเริ่มจากภาพแกะสลักช้างค่ะ ซูมเข้าไปชัดๆ หน้าตาไม่ค่อยเหมือนช้างเท่าไหร่ค่ะ ช่างที่แกะเขาอ่านจากบันทึกคนที่ไปเห็นข้างตัวจริงแล้วแกะจากจินตนาการเอาค่ะ
ลิง 3 ตัว
25. ตรงข้ามกับช้างเป็นลิง 3 ตัวค่ะ
คิกะซะรุ อิวะซะรุ มิซะรุ
26. ลิงปิดหู ปิดปาก และปิดตา ไม่ฟัง ไม่พูด และไม่ฟังสิ่งที่ไม่ดี
27. แต่ละตัวมีชื่อด้วยนะคะ ลิงปิดหูชื่อคิกะซะรุ ปิดปากชื่ออิวะซะรุ ปิดตาชื่อมิซะรุ
28. รอบๆ ศาลยังมีภาพอื่นๆ อีกค่ะ ตั้งแต่ลิงเกิดจนตายค่ะ แต่ภาพนี้ดังสุดค่ะ เห็นบอกว่ามาจากคัมภีร์ของขงจื๊อค่ะ
29. ข้างๆ ศาลลิงมีร้านเช่าเครื่องรางค่ะ ข้ามร้านนี้ไปก่อนได้เลยค่ะ น่ารัก กะจุ๊กกะจิ๊ก กุ๊งกิ๊งๆ โอ้ยยยยยยยยย...... เป็นอันตรายต่อตังกระเป๋าจริงๆ
30. ไม่ต้องห่วงค่ะ ไม่ได้มีร้านเดียว มีอีกหลายร้านทั้งด้านในและด้านนอก แถมแต่ละร้านก็ไม่เหมือนกันอีกกกกกกกกกกกก......... กะจะไม่ให้เหลือตังกลับบ้านมั่งเลยเหร๊อะ
31. เราเองก็โดนไปหลายชิ้นอยู่ ใครมาเที่ยวแล้วไม่โดนร้านเช่าเครื่องรางพวกนี้ตกถือว่าใจแข็งมากๆ ค่ะ
ทางขึ้น Grand Shrine
ศาลเล็กๆ ข้างๆ ทางขึ้น Grand Shrine ค่ะ
คนมาเที่ยวที่นี่เยอะมากค่ะ
32. ก่อนขึ้นบันไดด้านซ้ามมือมีศาลเจ้าเล็กๆ แต่ปิดอยู่ค่ะ
ไปกันต่อค่ะ
ทางเข้า Grand Shrine
อันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าใช้ทำอะไร
โชกุน Ieyatsu เจ้าของศาลเจ้าแห่งนี้ค่ะ
33. พอขึ้นบันไดไปจะเจอรูปปั้นของโชกุนอิเอยะสึอยู่ด้านซ้ายและขวาของประตูค่ะ
34. ปกติตามประตูทางเข้าศาลเจ้าจะมีเทพเจ้าลม (ฟุจิน) และเทพเจ้าสายฟ้า (ไรจิน) เฝ้าประตูค่ะ แต่ที่ศาลนี้เป็นรูปท่านโชกุนอิเอยะสี
35. ศาล Toshogu เป็นศาลที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้ท่านค่ะ ศาล Toshogu จะแบ่งออกเป็น Grand Shrine กับ Inner Shrine ค่ะ
36. เดินเข้าประตูไปปุ๊บจะเจอ Grand Shrine ค่ะ แต่ๆ ให้เลี้ยวขวาก่อนค่ะไป Inner Shrine กันก่อน
ละครให้ดูฟรี แต่ฟังไม่รู้เรื่อง ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ
37. ตรงทางเข้า Inner Shrine เขามีแสดงละครให้ชมฟรีด้วยค่ะ เป็นละครรำ + ร้องประกอบจังหวะกลอง ยืนดูได้พักใหญ่เลย ตอนจบมีคุณลุงมาแจกขนมให้นักท่องเที่ยวด้วยค่ะ
38. ไม่แน่ใจเหมือนกันแต่เดาว่าเป็นละครโนนะคะ ส่วนเนื้อหานั้นฟังไม่ออก ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ
39. ก่อนเข้า Inner Shrine อย่าลืมแสดงตั๋วที่เราซื้อมาเมื่อกี๊นี้ให้จนท.ดูด้วยนะคะ
"Look Up"
40. ตรงประตูก็อย่าลืม “Look Up” เพื่อดู “Sleeping Cat” ด้วยค่ะ
Sleeping Cat
41. Sleeping Cat สื่อถึงความสงบ ร่มเย็น จนแมวหลับได้อย่างสบายใจค่ะ
มีรูปสัตว์อื่นอีกเยอะแยะค่ะ
42. นอกจาก Sleeping Cat แล้วยังมีรูปสัตว์อื่นๆ อีกเยอะค่ะ เช่น รูปนก
43. ถัดจากประตูนี้ก้ต้องเดินขึ้นบันไดแบบเบาะๆ ค่ะ
ทางราบๆ แต่อย่าเพิ่งดีใจไป
44. แล้วก็มีทางราบให้ตายใจ
ของจริงคืออันนี้
ปีนไป!!! อย่าบ่น!!!
45. จากนั้นถึงเป็นของจริงค่ะ บันไดล้วนๆ ขึ้นแบบยาวๆ
ที่ฝังร่างของท่านค่ะ
สงบ + สงัด ไม่ควรมาตอนมืดๆ เป็นอย่างยิ่ง
46. ขึ้นไปแล้วจะเจอท่าโชกุนนอนหลับอยู่ใต้ Pagoda ที่คล้ายๆ ระฆังหลังนี้ค่ะ
47. เห็นป้ายบอกว่าเจดีย์นี้ได้รับการบูรณะมา 3 ครั้งแล้วค่ะ ของดั้งเดิมทำมาจากไม้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1617 จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นหิน จนเป็นแบบที่เห็นนี้ซึ่งทำจาก Alloy (ทอง + เงิน + ทองแดง)
48. ตอนบูรณะเขาบูรณะแต่เจดีย์ด้านนอกนะคะ ส่วนด้านในที่ใช้ผังศพไม่เคยถูกเปิดตั้งแต่สุสานนี้เริ่มใช้งานค่ะ
49. จะมีทางเดินรอบๆ กำแพงสุสานไว้ให้เราเดินชมค่ะ
ด้านหน้าค่ะ เข้าไปไม่ได้นะคะ เดินดูรอบๆ ได้อย่างเดียว
50. ด้านหน้าสุสานค่ะ ร่องรอยตะไคร่น้ำนี่บอกเลยว่าไม่มีใครแตะต้องแน่ๆ
51. ขากลับเดินลงบันได......... ไม่เหนื่อยมากค่ะ เข่าลั่นกรอบแกรบๆ เล็กน้อย
ดอกไม้เล็กๆ ข้างทาง
52. ดอกไม้ข้างทางค่ะ เป็นต้นเล็กๆ ที่ขึ้นอยู่บนสันกำแพงค่ะ
ถึงด้านล่างซะที
ละครเรื่องใหม่.. ภาษาญี่ปุ่นเพียวๆ
53. ออกมาด้านนอก ถึงเห็นว่าเขากำลังแสดงละครอีกเรื่องค่ะ ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ ฟังไม่รู้เรื่อง
งานละเอียด
สวยๆ
54. จากนั้นก็เข้าไปดู Toshogu Grand Shrine และศาลเจ้าอีกแห่งนึงค่ะ แต่ข้างในเขาไม่ให้ถ่ายรูปเลยไม่มีรูปมาฝากค่ะ
55. เท่าที่ดูลายสลัก รูปปั้น ที่ประดับตกแต่งตามซุ้มประตูหรือกำแพงลายไม่ซ้ำกันเลยค่ะ
56. ไม่อยากจะคิดถึงตอนปิดปรับปรุงเลยค่ะ ปิดทำครั้งนึงนี่คงใช้เวลาหลายปีทีเดียว
เห็นแล้วเหนื่อยแทนช่างเลย
57, ลวดลายต่างๆ ตามซุ้มประตูค่ะ งานละเอียดมากค่ะ ไม่อยากจะคิดถึงตอน renovate เลย งานช้างแน่ๆ
โคมไฟหินรอบๆ ศาลเจ้าค่ะ
58. นอกจากพวกลายตามกำแพง ซุ้มประตู แล้วที่นี่ยังมีโคมไฟหินจำนวนมากด้วยค่ะ
59. นอกจากโคมไฟหินของญี่ปุ่นแล้ว แบบฝรั่งก็มีค่ะ
โคมแบบฝรั่งค่ะ
60. เป็นโคมทำจากโลหะ รัฐบาล Dutch มอบให้ญี่ปุ่นตั้งแต่ ค.ศ. 1636 ค่ะ ความพิเศษของโคมไฟนี้คือโคมไฟนี้หมุนได้ค่ะ ไม่ได้หมุนได้เพราะเสียบปลั๊กนะคะ สมัยนั้นยังไม่มีไฟฟ้า แต่หมุนได้เพราะความร้อนจากเทียนข้างในโคมค่ะ
มอสขึ้นเพียบ.....
61. ไม่มีใครไปยุ่งกับโคมจนมอสขึ้นบนโคมเต็มเลยค่ะ
น้องเต่า
62. มีเต่าด้วยค่ะ จนท.น่าจะเอาหินที่โรยไว้มาวางเรียงกันให้เป็นเต่าค่ะ
ไดฟูกุ....
63. เติมพลังก่อนเที่ยวต่อค่ะ ไดฟูกุหน้าศาลเจ้าค่ะ
64. มีทั้งหมด 5 แบบค่ะ ไส้เป็นไส้ถั่วแดงหรืองาดำค่ะ แต่ถั่วแดงบางอันเป็นแบบบดละเอียด บางอันเป็นแบบลดไม่ละเอียด ส่วนงาดำจะเป็นแบบบดละเอียดค่ะ
65. แป้งด้านนอกมีทั้งแบบธรรมดา แบบผสมชาเขียว และแบบที่ใส่ถั่วแดงเป็นเม็ดๆ ลงไปค่ะ
66. ขายเป็นชิ้น ชอบแบบไหนเลือกได้ค่ะ
67. กินเสร็จก็ไปต่อกันที่เจดีย์แดง 5 ชั้นค่ะ อย่าลืมเสียค่าเข้าชอม 300 เยนต่อคนให้เรียบร้อยก่อนเข้าไปนะคะ
เจดีย์แดง 5 ชั้น
ภาพนักษัตรด้านละ 3 ค่ะ
68. เดินชมได้แค่รอบๆ เจดีย์ค่ะ เหนือซุ้มประตูจะประดับด้วยไม้แกะสลักเป็นรูปนักษัตรทั้ง 12 ตัวค่ะ ซุ้มละ 3 ตัว
มะโรง
มะแม
มะเมีย
ด้านในค่ะ เขาห้ามถ่ายของจริง
69. จนท.เขาจะเป็นประตูด้านหลังไว้ให้เราดูว่าข้างในเจดีย์ค่ะ ด้านในมีเสาไม้ปิดทองต้นใหญ่มากกกกกกกอยู่ตรงกลางค่ะ
70. แต่เขาไม่ได้ให้เข้าไปนะคะ ดูได้จากด้านนอกและไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปด้านในด้วยค่ะ
71. ถ้าซูมเข้าไปดูรูปนักษัตรตามซุ้มประตูจะเห็นว่าสีเริ่มลอกแล้วค่ะ คาดว่าอีกไม่นานนี้เจดีย์อาจจะปิดเพื่อ removate แน่ๆ ซึ่งก็คงให้เวลาทำหลายปีมากๆ
ค่ะ
72. จาก Toshoku Shrine ไปต่อกันที่วัด Nikkosan Rinnnoji ค่ะ ด้านในไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปเช่นเคยค่ะ
Nikkosan Rinnnoji
73. บัตรเข้าชมขายแยกตะหากกับ Toshoku Shrine นะคะ มีที่ให้เดินชม 2 จุดคือด้านในวัดกับพิพิธภัณฑ์และสวนญี่ปุ่นที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดค่ะ
74. พิพิธภัณฑ์ไม่ใหญ่มาก ส่วนใหญ่จัดแสดงพระพุทธรูปและข้าวของเครื่องใช้ต่างของวัดและศาลค่ะ ถ้าใครเวลาน้อยข้ามพิพิธภัณฑ์และสวนญี่ปุ่นได้ค่ะ
75. ส่วนในวัดเขาจะให้เข้าชมเป็นกลุ่มๆ จนท.เขาจะจัดกลุ่มให้ มีไกด์ประจำกลุ่มพาเดินชมพร้อมอธิบายโน่น นั่น นี่ ให้ฟังค่ะ
76. ถ้าเป็นนทท.ต่างชาติเขาจะมีกลุ่มพิเศษที่ไกด์พูดภาษาอังกฤษได้พาชมค่ะ
77. เราก็ถูกจนท.พาเดินลัดกลุ่มก่อนหน้าเพื่อจับยัดเข้ากลุ่มพิเศษนี้ค่ะ
78. ซึ่งก็ไม่ต่างกับกลุ่มอื่นค่ะ ไกด์อธิบายเป็นภาษญี่ปุ่นเหมือนเดิม ยกเว้นว่าเราจะถามซึ่งก็ไม่รู้จะถามอะไรเพราะฟังไม่เข้าใจมาตั้งแต่ต้น
หลวงพ่อเขียนยันต์ให้กลับไปบูชา
79. เดาว่าไกด์อธิบายที่มาที่ไปของพวกรูปปั้น ภาพวาด ซุ้มประตู..... แต่ละจุดๆ ให้นทท.ฟังซึ่งเราไม่เข้าใจ มีเข้าใจอยู่จุดเดียวคือด้านในวัดถูกออกแบบให้ทุกคนๆ ด้านในได้ยินเสียงพระสวดค่ะ
80. จะอธิบายยังไงดี???? คือวัดญี่ปุ่นจะใช้พระรูปเดียวในการประกอบทำพิธีกรรมต่างๆ ไม่เหมือนของไทยที่จะนิมนต์ทีนึงหลายๆ รูปค่ะ
81. เสียงสวดจากพระรูปเดียวคงไม่ดังพอให้คนทั้งศาลาฟังถ้าศาลานั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีค่ะ (สมัยก่อนไม่มีเครื่องขยายเสียง)
82. ด้านในจึงถูกออกแบบให้จุดที่พระนั่งสวดเป็นจุดที่สามารถถ่ายทอดเสียงออกไปได้ทุกซอกทุกมุมของศาลาค่ะ เป็นจุดที่เสียงกังวานที่สุด ไกด์เขาสาธิตให้ดูโดยเคาะไม้จุดที่นั่งสวดกับเคาะที่จุดอื่น แค่เคาะเบาๆ ตรงที่พระนั่งสวด เสียงเคาะก็กังวานไปทั่วศาลาค่ะ
83. จากนั้นก็เดินกลับไปเที่ยวอีกฝั่งนึงค่ะ เดินไปดูดอกไม้ข้างทางที่ขึ้นตามเนินดินไปค่ะ
ดอกอะไรก็ไม่รู้...
นี่ก็ไม่รู้จัก แต่ดอกแปลกตาดีค่ะ
84. ถึงจะต้นเล็ก ดอกเล็กๆ แต่บางต้นก็ดอกสวยเหมือนกันนะคะ โดยเฉพาะดอกสีเหลืองนี่สีเด่นมากค่ะ
เจดีย์แดงด้านข้างๆ
85. ได้วิวด้านข้างเจดีย์มาเป็นของแถมด้วยค่ะ
เดินกันทั้งวัน
86. ฝั่งที่เรากำลังเดินไปเป็นฝั่งที่เราลงรถเมื่อเข้านี้ค่ะ มีที่เที่ยวหลักๆ 2 ที่คือวัด Nikko Futarasan และสุสานโชกุน Iemitsu ค่ะ
ทางเข้าสุสานโชกุน Iemitsu
87. โชกุน Iemitsu เป็นลูกหรือเป็นหลานของโชกุน Ieyatsu ที่ฝังอยู่ใต้เจดีย์ที่คล้ายๆ ระฆังในข้อ 46 - 49 ค่ะ
88. เสียค่าเข้าชมทางซ้ายมือแล้วเข้าไปกันเลยค่ะ ที่เที่ยวตรงนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องเข่านะคะ ขึ้นบันไดเยอะพอประมาณค่ะ
89. บันไดที่เห็นลิบๆ ในรูปนี้แค่น้ำจิ้มค่ะ
บ่อน้ำไว้ล้างมือ บ้วนปาก ก่อนเข้าวัด
90. เข้าประตู้นี้ไปจะเป็นลานกว้างๆ มีบ่อน้ำไว้ให้ล้างมือบ้วนปากเพื่อเตรียมตัวเข้าวัดตามความเชื่อของญี่ปุ่นค่ะ
ประตูชั้นที่ 2 ค่ะ
91. จากบ่อน้ำเดินไปอีกนิดก็จะเจอบันไดช่วงที่ 2 อยู่ทางซ้ายมือค่ะ อันนี้ก็ไม่เท่าไหร่ค่ะ
92. บันไดช่วงที่ 2 จะสูงและชันกว่าช่วงแรกค่ะ กว่าจะถึงด้านบนนี่ก็มีหอบอยู่ค่ะ
ก็แค่เหงื่อซึมๆ
ประตูชั้นสุดท้ายค่ะ
ถึงแล้วค่ะ
เน้นลวดลายมังกร
93. ด้านในวัดค่ะ สามารถเข้าไปไหว้ด้านในได้ค่ะ แต่ห้ามถ่ายรูปเช่นเคย
94. ซุ้มประตูทางเข้าวัดจะเป็นรูปมังกรค่ะ โชกุน Iemitsu เกิดปีมังกรค่ะ
รอบๆ วัดค่ะ
95. มีทางเดินให้เดินชมได้รอบๆ วัด สามารถเข้าไปไหว้พระด้านในวัดได้ แต่อย่าลืมถอดรองเท้าก่อนเข้าไปนะคะ
Kokamon Gate
96. Kokamon Gate ค่ะ โชกุน Iemotsu นอนหลับอยุ่หลังประตูนี้ค่ะ เดาว่าสุสานที่นี่ก็คงไม่เคยถูกเปิดเหมือนฝั่งโน้นค่ะ
97. สุสานลูกจะเล็กกว่าสุสานพ่อค่ะ มีศาลหลักแค่ใช้เวลาไม่นานก็ชมด้านนอกและด้านในได้ครบค่ะ
เดินชมรอบๆ วัด
กลับละค่ะ
98. จากนั้นก็เดินลงไปด้านล่างเพื่อขึ้นรถกลับสถานี Nikko ค่ะ
ใบไม้เปลี่ยนสี
รูปสุดท้ายก่อนกลับ
99. ที่ Nikko ยังพอมีใบไม่เปลี่ยนสีให้เห็นบ้างแบบจางๆๆๆๆๆๆ ค่ะ
100. พอถึงป้ายรถเมล์อย่าลืมเข้าคิวนะคะ ตอนที่เราไปมีคนแซงคิวขึ้นรถเมล์ คนญี่ปุ่นที่ต่อคิวอยู่นี่ค้อนซะหัวแทบโน
สะพานแดง
101. ขากลับมีผ่านสะพานแดงแต่เราข้ามไปเลยค่ะ ครั้งที่แล้วเราเก็บสะพานนี้ไปเรียบร้อยแล้วค่ะ
102. ทำใจนิดนึงนะคะ สะพานไม่ได้ใหญ่อลังการอย่างที่คิดค่ะ ซึ่งเราเองก็เคยคิดว่าสะพานมันต้องทั้งสวยทั้งอลัง แต่ความจริงไม่ใช่ค่ะ
103. เหมือนจะเดินข้ามได้นะคะ แต่อาจจะต้องไปซื้อตั๋วก่อนค่ะ
ถึงสถานีแล้ว หิวมากกกกกกกก.....
104. ถึงสถานีปุ๊บก็หาข้าวกินทันทีค่ะ หิวมากกกกกกกก
105. เจอราเมงร้านนี้ค่ะ
ราเมง ฟองเต้าหู้ทอด และไก่คาราอาเกะ
106. ราเมงคนละชาม ฟองเต้าหู้ทอด และไก่คาราอาเกะค่ะ
107. ที่ Nikko น่าจะดังเรื่องเต้าหู้นะคะ ร้านทุกร้านแถวสถานีจะต้องเมนูเต้าหู้ อย่างร้านที่ที่เรากินนี่มีเต้าหู้หรือฟองเต้าหู้ใส่อยู่เกือบทุกเมนูเลยค่ะ
ร้านซาลาเปาทอดที่คิวยาวมาก
ได้แล้วๆ ร้อนๆ ก็อร่อยใช้ได้นะคะ
108. ขนาดขนมที่หน้าตาคล้ายๆ ซาลาเปาทอดที่เขาแนะนำกันว่าให้ลองๆ แถมหน้าร้านก็มีคนต่อคิวกันเยอะๆ เรายังคิดว่าน่าจะมีฟองเต้าหู้หรือเต้าหู้เป็นส่วนประกอบเลยค่ะ
109. จากนั้นก็นั่งรอรถไฟกลับ Tokyo ค่ะ เกิดวิกฤตนิดหน่อยค่ะ ตังหมด!!!!! มาญี่ปุ่นทีไรตังหมดก่อนกลับทุกที
110. ดีที่เดี๋ยวนี้สามารถกดเงินสด แต่กดได้ไม่ทุกตู้นะคะ เราลองกดตู้ที่สถานี Nikko แต่กดไม่ได้ ]องกดไปจนบัตรล๊อค
111. ถึง Tokyo เลยต้องโทรกลับไปปลดล๊อคค่ะ กดตู้ Aeon ได้ชัวร์ค่ะ
Asakusa ยามค่ำคืน
112. กลับมาถึง Tokyo ก็หัวค่ำแล้วค่ะ กลับรร.พัก???? ม่ายๆๆๆๆๆ เที่ยวต่อค่ะ
113. บรรยากาศแถวสถานี Tobu Asakusa ช่วงหัวค่ำค่ะ
Burger King
114. ครึกครื้นมากกกกกกกกก...... อยากลองกิน Kyukutsu แถวๆ รร.ร้านนึงแต่ก็ไม่ได้ลองสักทีค่ะ คิวยาวทุกวัน
115. ไม่ใช่ร้าน Kyukutsu ร้านเดียวทีคิวยาวนะคะ หลายร้านก็คิวยาวเหมือนกันค่ะ
116. ตึกอาซาฮี
117. ตรอกซอกซอยแถวๆ นั้น
Tokyo Sky Tree
118. Tokyo Sky Tree
119. และวัด Sensoji ค่ะ วัดที่ทุกคนต้องมา
Sensoji ยามค่ำคืนค่ะ
120. ขอจบวันนี้ด้วยวัด Sensoji ยามค่ำคืนค่ะ ถ่ายรูปออกมาสวยมาก
ท่องเที่ยว
เที่ยวต่างประเทศ
เที่ยวญี่ปุ่น
1 บันทึก
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย