Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Bliss Academy
•
ติดตาม
22 ส.ค. 2023 เวลา 09:07 • ความคิดเห็น
>> กรณีลูกน้องขอลากลับไปดูใจแม่ แต่หัวหน้าไม่ให้ลา <<
และต่อมาคุณแม่เสียชีวิต แต่หัวหน้าให้กลับมาเขียนใบลาออก
จนเป็นข่าวในวงกว้างและเกิดเหตุการณ์ทัวร์ลง
กับเพจของสถานที่ทำงาน
:
👉ผมคนหนึ่งครับ ที่ติดตามข่าวบ้าง แต่ไม่มากนัก
และผมเองเป็น
ที่ปรึกษาการพัฒนาบุคลากร (HRD)
ที่ปรึกษากฎหมายคุ้มครองแรงงาน
ที่ปรึกษากฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)
และโค้ช ฟา เมนทอร์ เพื่อการสร้างองค์กรแห่งความสุข
ขออนุญาตแสดงความเห็นเผื่อจะเป็นประโยชน์
กับผู้ที่ติดตามข่าวนี้ในมุมของที่ปรึกษาครับ
👉ขอออกตัวก่อนนะครับว่า ผมไม่ได้เสพข่าวครบทุกสื่อนะ
ดังนั้น ข้อมูลที่ได้รับอาจไม่ครบถ้วนสมบูรณ์
และแม้เสพทุกสื่อจริง เราก็ยังไม่ทราบข้อมูลทั้งหมดอยู่ดี
จึงขอแบ่งปันในมุมคนเสพข่าว
โดย ผมขอแบ่งความเห็นเป็น 4 ประเด็นครับ
📌ประเด็นที่ 1 : กรณีของหัวหน้าที่ไม่ให้ลูกน้องลา
.
1. เป็นไปได้ว่า หัวหน้าอาจมีข้อจำกัดในเรื่องอัตรากำลัง
ไม่ว่าจะเป็นไม่เพียงพอ คนแทนก็ติดภาระกันหมด
ไม่สามารถมาแทนได้ แม้จะเป็นหน่วยงานอื่นก็ตาม
2. สำหรับกรณีปกติ หัวหน้ามักไม่ใจร้ายกับลูกน้อง
ยิ่งกรณีคุณแม่ใกล้จากไป ยิ่งเห็นใจกันได้ไม่ยาก
จะผิดปกติมี 2 กรณีคือ หัวหน้า หรือลูกน้อง ไม่น่ารัก
3. เป็นไปได้ว่า หัวหน้าอาจถูกกดดันมาอีกทีก็ได้
4. ปกติข้อความในแชท ที่แคปมาเป็นรูปภาพ
ปกติผมจะแถบไม่ให้น้ำหนักนัก เพราะข้อความมันลบ
กันได้ แค่ลบบางข้อความไป แล้วค่อยแคปหน้าจอ
ความหมายก็เปลี่ยนแล้ว ไม่ได้จะบอกว่า
กรณีนี้มีการลบข้อความนะครับ แค่ไม่ให้น้ำหนักมาก
เพราะเวลาเสพข่าวแบบนี้ ความหมายเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ
5. ในบริบทของกิจการ อาจกำลังอยู่ในสถานการณ์
ที่เพิ่งกลับมาจากโควิด อัตรากำลังอาจน้อยกว่าปริมาณงาน
ก็เป็นไปได้ จนอาจส่งผลต่อคุณภาพในงานได้
📌ประเด็นที่ 2 : กรณีของลูกน้องที่ขอลา
.
1. สิทธิการลาต่างๆ แม้จะมีกฎหมายแรงงานกำหนด
มาตรฐานขั้นต่ำไว้ แต่ในแต่ละองค์กรจะมีระเบียบ
เงื่อนไขการลาที่แตกต่างกันไป ซึ่งเราเป็นคนเสพข่าว
เราทราบไม่หมดครับ เพราะอาจเป็นเหตุให้ส่งผล
ต่อการลาในข่าวได้ เช่น พนักงานอาจใช้สิทธิการลาต่างๆ
อย่างการลาพักร้อน ลากิจ ไปหมดแล้วก็เป็นได้
2. เมื่อการลามีระเบียบปฏิบัติอยู่ การลาที่ไม่เป็นไปตามระเบียบ
อาจทำให้หัวหน้าลำบากใจ แต่แน่นอนว่า ในกรณีพิเศษ
ในกรณีฉุกเฉิน กรณีมีความจำเป็นจริงๆ ย่อมเข้าใจได้
ที่จะมีข้อยกเว้น
3. การที่เราเป็นผู้เสพข่าว แล้วเสพข่าวจากเพียงฝ่ายเดียว
ไม่ได้ฟังอีกฝ่ายหนึ่ง อย่างไรเสียก็ไม่ยุติธรรมอยู่ดี
ผมเป็นที่ปรึกษาในองค์กร มีกรณีพอสมควรที่ลูกน้องเชื่อว่าตัวเอง
ถูกกระทำจากผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างว่าเอาเปรียบ
แล้วมาระบายสื่อสังคมออนไลน์ แต่หากได้ฟังข้อเท็จจริง
จากนายจ้างด้วย กลับเป็นคนละเรื่องกันเลย
📌ประเด็นที่ 3 : กรณีบริษัท
.
1. ในมุมของบริษัทคงต้องรักษาใจของพนักงานโดยรวม
ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้า ลูกน้อง ที่เป็นคู่กรณี บุคลากรคนอื่นๆ
ผู้ที่จะสมัครงานในอนาคต และสังคมโดยรวม และแน่นอนว่า
การจัดการเรื่องภายในบ้าน กับการสื่อสารไปยังคนนอกองค์กร
ย่อมมีความแตกต่างกัน ดังนั้น ในมุมของผู้ติดตามข่าว
ข้อเท็จจริงกับข่าวสารที่ได้รับ อาจเป็นคนละเรื่องกันเลย
เช่น เราเห็นนักธุรกิจจดทะเบียนอย่ากับภรรยา
ทั้งๆที่เราก็ทราบจากข่าวว่าเขายังมีความสัมพันธ์กันเป็นปกติ
แต่เราไม่รู้ว่าเขาทำเพื่ออะไร ตกลงอะไรกันไว้
2. ปกติพนักงานที่ Performance ดี เขาติดธุระทางบ้านแบบนานๆ
จนอยากลาออก บริษัทมักจะยินดีให้ลูกน้องลาไปทำธุระให้เสร็จ
แล้วสามารถลาโดยไม่รับค่าจ้าง (Leave without pay) และ
เก็บอัตรากำลัง เก็บตำแหน่งไว้ให้ด้วย
ในทางกลับกัน
หากลูกน้อง Performance ไม่ดี หัวหน้ามักใช้โอกาสนี้
ในการให้ลูกน้องได้ไปเติบโตที่อื่นที่เหมาะกับเขา
ผมสมมติว่าบริษัทเรามีแต่คนดี แต่พอดีมีโจรมาเป็นลูกน้อง
แน่นอนว่าลูกน้องที่เป็นโจรย่อมอึดอัดท่ามกลางคนดี
แต่หากลูกน้องคนนั้นได้ไปเติบโตในท่ามกลางหมู่โจรด้วยกัน
ไม่แน่ เขาอาจได้เติบโตจนเป็นหัวหน้าโจรก็เป็นได้
3. จะว่าไปการที่หัวหน้าในข่าว อยากให้ลูกน้องมาทำงาน
มองในแง่บริษัท คือ ความตั้งใจในการทำงานเพื่อให้หน่วยงาน
หรือภารกิจที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี
แต่กับพนักงานเราย่อมต้องยึดครอบครัว ผู้มีพระคุณเป็นสำคัญ
(ไม่ได้หมายความหัวหน้าไม่ต้องยึดครอบครัวนะครับ)
มันเป็นเพียงแค่ว่าต่างฝ่ายต่างมองความสำคัญที่แตกต่างกัน
ดังนั้น การเข้าใจในมุมดีดีของทั้งคู่ ย่อมเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน
📌ประเด็นที่ 4 : บทสรุป
.
1. ผมเขียนความเห็นเหล่านี้บนข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน
ไม่ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด ดังนั้น จึงไม่อาจหาข้อสรุป
ใดๆ หรือตัดสิน หรือพิพากษาในทางใดๆ ได้เลย
2. จุดมุ่งหมายของบทความนี้ เพื่อต้องการนำเสนอให้
ผู้ที่ติดตามข่าว และข่าวใดๆก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นข่าว
การเมืองระหว่างประเทศ การเมืองในประเทศ
ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวสังคม ข่าวอาชญากรรม ข่าวชาวบ้าน
อย่าได้ด่วนสรุป ด่วนพิพากษา เพราะเราไม่มีทางเลย
ที่จะทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด มีอะไรเกิดขึ้นก่อนจะเกิดเหตุการณ์
ที่มาเป็นข่าว เรื่องราวเหล่านั้นมีเงื่อนไข มีข้อจำกัดใดๆ
หรือมีใครตั้งใจสร้างข่าวลวง มันเป็นไปได้หมด
เราจึงได้แต่ติดตามข่าว และกองไว้ตรงนั้น
โดยไม่ตัดสินว่าใครถูก ใครผิด หรือเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
3. เขียน “อาจ” ไว้เยอะเลยในทุกประเด็น เพราะมัน “อาจ” จริงๆครับ
4. เปลี่ยนจากทัวร์ลง มาเป็นส่งความรัก ความเมตตา
ความปรารถนาดี ให้กับทุกฝ่ายกันดีกว่าครับ
ไม่ปล่อยพลังงานลบ ไปตัดสิน ไปเพ่งโทษ ไปสาปแช่งใคร
ใจเราก็เป็นสุขครับ❤️❤️❤️
:
#ขอให้มีความสุขทุกลมหายใจ
.
Tanakrit Jarusroongchawalit
Naphichaya Phacharapiyangkul
:::::
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย