Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
aomMONEY
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
23 ส.ค. 2023 เวลา 13:30 • ไลฟ์สไตล์
“เงินเดือน 25,000 บาท” จัดการยังไงให้มีเงินเก็บ
ด้วยสูตรแบ่งเงินเป็น 3 ส่วน -The 50/30/20 Rule-
เงินเดือน 25,000 บาท ในปัจจุบันถือว่าไม่เยอะแต่ก็ไม่น้อย ถ้าบริหารจัดการดีๆ ก็สามารถมีเงินเก็บได้ ดังนั้น aomMONEY ขอแนะนำเป็นสูตรบริหารเงินที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกอย่าง 50-20-30 Budget Rule ให้ทุกคนลองนำไปปรับใช้กัน
สูตรแบ่งเงินเป็น 3 ส่วน คือ 50% / 30% / 20% เป็นแนวคิดของเอลิซาเบธ วอร์เรน นักวิชาการและสมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเธอเขียนไว้ในหนังสือ All Your Worth: The Ultimate Lifetime Money Plan เพื่อเป็นแนวทางให้คนทั่วไปจัดสรรงบประมาณส่วนตัว แบบเข้าใจง่าย ลงมือทำได้เลยทันที และนำไปประยุกต์ใช้ได้ไม่ว่าจะเจอวิกฤตเศรษฐกิจแบบไหน
เราลองมาดูกันดีกว่าว่า เงินเดือน 25,000 บาท ถ้าแบ่งออกเป็น 3 ส่วนต้องบริหารจัดการอย่างไรบ้าง?
✅(1) 50% หรือ 12,500 บาท
➡️สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น (Needs)
เมื่อเรามีรายรับเข้ามาแล้ว 25,000 บาท ให้แบ่งก้อนแรก 50% หรือคิดเป็นเงิน 12,500 บาท (=25,000x0.5) เพื่อใช้จ่ายสำหรับสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าน้ำ-ไฟ รวมถึงค่างวดต่างๆ ที่เราต้องจ่ายทุกเดือนด้วย เช่น ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนบ้าน ค่าประกันชีวิต ถ้าเกิดว่าเงินก้อนนี้ไม่เพียงพอ นั่นแปลว่าเรามีภาระมากเกินไป ควรลดหนี้หรือหารายได้เพิ่มเติม
✅(2) 30% หรือ 7,500 บาท
➡️สำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อความสุข (Wants)
ต่อมาให้แบ่งเงินอีก 30% หรือ 7,500 บาท (=25,000x0.3) เพื่อใช้จ่ายสำหรับซื้อความสุข ทำงานเหนื่อยมาทั้งที ก็ต้องให้รางวัลตัวเองบ้าง อาจจะไม่จำเป็น แต่ “ดีต่อใจ” เช่น มื้อค่ำพิเศษนอกบ้าน ซื้อตั๋วภาพยนตร์ ดูคอนเสิร์ต ช้อปปิ้งเสื้อผ้า รวมถึง “ค่าใช้จ่ายในการอัพเกรด” ด้วยครับ เช่น การเลือกซื้อรถยนต์ราคาสูง แทนอีโค่คาร์ราคาประหยัด การเพิ่มสปีดอินเทอร์เน็ต แทนแพ็กเกจธรรมดา เป็นต้น
✅(3) 20% หรือ 5,000 บาท
➡️สำหรับเงินออมและการลงทุน (Savings)
และรายได้อีก 20% หรือ 5,000 บาท (=25,000x0.2) ก็คือการเก็บออม ตามหลักถ้าอยากมีเงินเก็บ ควรมีแบ่งเงินก้อนนี้จากรายรับก่อนเป็นลำดับแรก ซึ่ง “เงินสำรองฉุกเฉิน” คือเงินออมก้อนแรกที่ทุกคนต้องมี เผื่อว่าเราตกงาน หรือเจ็บป่วยจนขาดรายได้ อย่างน้อยก็ควรมีเงินสำรองเพียงพอกับค่าใช้จ่าย 6 เดือน ต่อมาจึงค่อยเริ่มออมเพื่อเป้าหมายต่างๆ เช่น ออมเพื่อดาวน์บ้าน ออมเพื่อค่าเทอมลูก ออมเพื่อเกษียณอายุ นอกจากนี้เราสามารถแบ่งเงินไปลงทุนตามความรู้/ความสนใจ เพื่อให้เงินงอกเงยได้อีกด้วย
1
อย่างไรก็ตาม เงินที่แบ่งไว้ในส่วน Needs และ Wants เราไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมด ถ้ามีเหลือไปสมทบกับเงินส่วน Savings ก็จะยอดเยี่ยมมากเลยครับ ซึ่งกฎ “50-20-30 Budget Rule” นี้จะช่วยให้เราจัดสรรรายได้ และวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้น หากทำได้ตามนี้ไม่ว่าจะเจอวิกฤตเศรษฐกิจแบบไหนก็ผ่านไปได้แน่นอน
#aomMONEY #วางแผนการเงิน #การบริหารเงิน #BudgetRule #เงินเดือน #เด็กจบใหม่
14 บันทึก
31
17
14
31
17
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย