24 ส.ค. 2023 เวลา 07:34 • กีฬา

“โม ซาลาห์” กับข้อเสนอประวัติศาสตร์จาก อัล อิตติฮัด

By: Colly
ตอนแรก นึกว่าจะมีแต่ “ขาเข้า” อย่างเดยว สำหรับ หงส์แดง ลิเวอร์พูล เวลานี้ แต่ล่าสุดทำท่าว่าจะมีนักเตะ “ขาออก” เพิ่มมาอีกราย เมื่อ อัล อิตติฮัด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งซาอุดิอาระเบีย ยื่นข้อเสนอเป็นสถิติใหม่ถึง 100 ล้านยูโร เพื่อหวังคว้าตัว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แนวรุกตัวเก่งของ ลิเวอร์พูล แถมยังพร้อมยื่นข้อเสนอค่าเหนื่อยมหาศาลถึง 150 ล้านยูโรภายใต้สัญญา 2 ปี ให้ “บังโม” พิจารณาอีกด้วย
แหม่ มันเป็นข้อเสนอที่ยั่วยวนใจเหลือเกินพ่อคุณเอ๋ย
ยอมรับอย่างตรงไปตรงมา แม้ โม ซาลาห์ จะถือเป็นนักเตะที่ขึ้นชั้น “ตำนาน” ของลิเวอร์พูลไปแล้ว หลังทะลวงตาข่ายทุบสถิติสโมสรเป็นว่าเล่น และเป็นกำลังสำคัญของทีมในยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
แต่ก็ต้องยอมรับว่า อายุอานามของเจ้าตัวตอนนี้ อยู่ในวัย 31 ปี ซึ่งก็นับว่าเข้าสู่ช่วงปลายของอาชีพค้าแข้งแล้ว
ความเร็วเริ่มลดลง สัญชาตญาณและปฏิกิริยาต่างๆก็เริ่มลดน้อยถอยลงไป ไหนจะเรื่องสไตล์การเล่นที่รู้สึกว่าบรรดาคู่แข่งทุกทีมจะจับทางได้กันหมดแล้ว
เอาง่ายๆ ก็ลูกเก่งที่เป็นเครื่องหมายการค้าของเขา จับบอลทางขวา-ตัดเข้าใน-ปั่นด้วยซ้ายเสียบเสาสอง เราเห็นครั้งล่าสุดนี่มันเมื่อไหร่? ยอมรับตรงๆผมเองก็นึกไม่ออก
ซึ่งทั้งเจ้าตัวรวมถึง คล็อปป์ ก็รู้ตัวแหละ จึงทำให้นับตั้งแต่ปลายฤดูกาลก่อน ยาวมาจนถึงซีซั่นนี้ ซาลาห์ เริ่มลดบทบาทของตัวเองลงไป จากการเป็น ตัวทำประตู สู่การเป็นตัวพักบอลและเปิดป้อนให้เพื่อนร่วมทีมมากขึ้น
หรือสรุปง่ายๆก็คือ ซาลาห์ กำลังอยู่ในช่วง “ขาลง” และทุกฝ่ายก็พยายามหาทางแลนดิ้งให้เขาแบบสวยๆเพื่อให้ทีมได้ประโยชน์สูงสุดจากประสบการณ์ของเขานั่นล่ะ
อีกประเด็นก็คือ สัญญาของ ซาลาห์ กับ ลิเวอร์พูล จะหมดลงในช่วงซัมเมอร์ปี 2025 นี้แล้ว ดังนั้นจึงมีความหมายว่า ลิเวอร์พูลควรจะต้องขายในช่วงเวลาไม่เกิน 12 เดือนนับจากวันนี้ เพราะหากเนิ่นนานไปกว่านั้นจะไม่มีวันขายได้ราคาขนาดนี้อีกแล้ว
หรืออาจจะพูดได้ว่า now or never ก็ว่าได้
ส่วนประเด็นการขาดหายไปของ ซาลาห์ จะทำให้ทีมไม่มีตัวทดแทนนั้น เอาจริงๆทุกวันนี้บรรดาแนวรุกก็แทบจะต้องต่อยกันเพื่อแย่งกันลงสนามอยู่แล้ว
ไอ้แนวรุกฝั่งขวาเนี่ย ตัวเลือกมีอีกเพียบ
- ดิโอโก้ โชต้าก็เคยเล่น
- ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ นี่ก็คือตำแหน่งสร้างชื่อของเขาตั้งแต่ยังเล่นให้ฟูแล่ม รวมถึงชุดเด็กของลิเวอร์พูล (เพราะติดด่าน ซาลาห์ นี่แหละ ไอ้จุกเลยต้องขยับไปเป็นมิดฟิลด์)
- หรือแข้งใหม่อย่าง โซโบซไล ก็เล่นตำแหน่งนี้ได้
ดังนั้นผมจึงมองว่าหากพูดถึงเฉพาะแง่แท็กติก การไม่มี ซาลาห์ ก็อาจจะกระทบแค่ช่วงแรก แต่ก็อยู่ในวิสัยที่สามารถปรับระบบให้ลงตัวได้ไม่ยากนัก
ในมุมของ ลิเวอร์พูล ผมว่าการขาย ซาลาห์ เป็นเรื่องเหมาะสม (ทั้งช่วงเวลาและมูลค่า)
แล้วในมุมของตัวนักเตะเองล่ะ?
ในแง่การพิสูจน์ตัวเอง อย่างที่บอกไปแล้วว่า บังโมไม่มีอะไรต้องพิสูจน์อีกแล้ว ขึ้นหิ้งไปแล้วว่างั้นเหอะ แชมป์ก็ได้มาแทบจะครบทุกถ้วยแล้วมั๊ง
การได้ย้ายไปเล่นในลีกของประเทศที่นับถือศาสนาเดียวกับตัวเอง ก็น่าจะเป็นเรื่องดีต่อทั้งเขาและครอบครัว แถมยังได้เงินมหาศาลแบบที่ไม่มีโอกาสได้ขนาดนี้อีกแล้วในชั่วชีวิตนี้อีกต่างหาก ทำไมจะไม่เอาล่ะ
อุปสรรคจะทำให้ ซาลาห์ ไม่ยอมย้ายออก ผมว่ามีแค่ 2 อย่างเท่านั้น คือ
1. ซาลาห์ค่อนข้างเป็นคนยึดติดกับการทำสถิติ คือที่ผ่านมา ช่วงเวลาไหนที่เขาขยับเข้าใกล้กับการทำลายสถิติอะไรซักอย่าง เจ้าตัวก็จะตะบี้ตะบันยิงแบบไม่ส่งใคร จนกระทั่งทำลายสถิติได้นั่นแหละถึงจะเริ่มปล่อยวาง เงยหน้ามองเพื่อนฝูงบ้าง
ยกตัวอย่างเช่นซีซั่น 2017/18 ที่ยิงไป 30-40 ลูกนั่นน่ะ ช่วงท้ายๆก้มหน้ายิงอย่างเดียว 555 ยังดีที่ยิงเข้า
และตอนนี้ แม้เจ้าตัวจะขึ้นท็อป 5 ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของ ลิเวอร์พูลไปแล้ว แต่มันเหลืออีกแค่ราว 40 ลูกก็จะแซงหน้า บิลลี่ ลิดเดลล์ ขึ้นเป็นที่ 4 ได้ ซึ่งหากรักษามาตรฐานตัวเองไว้ได้ (ยิงปีละ 20 ลูก) ก็มีลุ้นทำลายสถิติในอีก 2 ซีซั่นนี้ นั่นคือสิ้นสุดฤดูกาล 2024/25 ที่เจ้าตัวจะหมดสัญญาพอดี
2. การเป็นที่รักของชาว เดอะ ค็อปนี่แหละครับที่สำคัญที่สุด เราก็เคยได้ยินมามากมายเกี่ยวกับนักเตะที่เกือบย้ายๆสุดท้ายก็ไม่ย้ายเพราะแฟนบอลอ้อนวอนขอร้องสารพัด (สตีเว่น เจอร์ราร์ด ก็น่าจะเป็นหนึ่งในนั้นด้วย)แล้วคุณจะหาสโมสรไหนอีกที่แฟนบอลให้ใจกับนักเตะขนาดนี้
ก็ต้องจับตามองกันต่อไปว่าสุดท้ายแล้วดีลนี้จะจบลงเช่นไร แต่ไม่ว่าจะอยู่หรือจะย้าย ผมว่าทุกฝ่ายก็ยินดีทั้งสิ้นล่ะครับ
โฆษณา