น้ำเสียนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ถูกปล่อยลงสู่ทะเล และสีของน้ำทะเลก็เริ่มเปลี่ยนไป!
ตามรายงานของ CCTV และแหล่งสื่ออื่นๆ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม เวลา13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 24
ญี่ปุ่นประกาศว่าการปล่อยลงสู่ทะเลได้เริ่มขึ้นแล้ว และน้ำเสียนิวเคลียร์ฟุกุชิมะได้ "เปิดเพื่อระบายน้ำ" อย่างเป็นทางการ
เมื่อพิจารณาจากภาพและข้อมูลที่เผยแพร่โดยสื่อญี่ปุ่นได้จัดตั้งท่าเรือระบายทางทะเลใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในท้องถิ่น
และระบบท่อส่งน้ำเสียนิวเคลียร์ถูกปล่อยลงสู่พื้นที่ทะเลใกล้ฟุกุชิมะผ่านท่อส่งใต้น้ำความยาว 1 กิโลเมตร ภาพถ่ายในสถานที่แสดงให้เห็นว่าสีของน้ำทะเลเปลี่ยนไป และมีสองสีที่แตกต่างกัน
บริษัท Tepco อ้างว่าในวันที่ 24 ได้ปล่อยสิ่งปฏิกูลนิวเคลียร์ประมาณ 200 ตัน และจะ "ระบายต่อไปจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์"
การปล่อยน้ำทะเลครั้งแรกกินเวลานาน 17 วัน โดยมีการปล่อยเฉลี่ยต่อวันประมาณ 460 ตัน และปริมาตรรวมอาจสูงถึง 7,800 ลูกบาศก์เมตร
ตามข้อมูลของสื่อ ปัจจุบัน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะได้สะสมสิ่งปฏิกูลนิวเคลียร์ไว้ 1.34 ล้านตัน
ในทางตรงกันข้าม การระบายออกหลายร้อยตันต่อวันดูเหมือนจะไม่อนุญาตให้ญี่ปุ่น "แก้ปัญหา" ได้ในระยะเวลาอันสั้น
แผนการปล่อยน้ำทะเลของญี่ปุ่น
จึงมีความเป็นไปได้ว่าในอีก 30 ปีข้างหน้า ญี่ปุ่นอาจจะกำลังระบายน้ำทะเลหรือจะเป็นทางระบายน้ำทะเลก็ได้ ปีแล้วปีเล่า วันแล้ววันเล่า
มุกเก่าๆในการปล่อยน้ำทะเล จะทำให้ชาวญี่ปุ่นอีก 2 รุ่นต่อจากนี้ต้องดำเนินชีวิตตามผลที่ตามมาของการปล่อยน้ำทะเล
ยิ่งไปกว่านั้น ญี่ปุ่นกำลังดึงโลกทั้งใบลงน้ำในครั้งนี้ เนื่องจากมีกระแสน้ำในมหาสมุทรทั้ง 4 มหาสมุทรของโลกไหลเวียนอยู่
ดังนั้นตราบใดที่น้ำเสียนิวเคลียร์ของญี่ปุ่นเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิก มันก็จะยังคงแพร่กระจายไปทั่วโลกต่อไปเป็นเวลานาน
จากการศึกษาพบว่า หลังจากเริ่มปล่อยน้ำทะเลประมาณ 240 วัน หรือประมาณ 8 เดือน
พื้นที่ชายฝั่งรอบๆจะได้รับผลกระทบจากสิ่งปฏิกูลนิวเคลียร์
และแน่นอนหากพูดถึงสหรัฐอเมริกาๆ ก็ไม่มีภูมิคุ้มกัน หรือสามารถป้องกันได้ ภายในเวลาประมาณ 3 ปี
น้ำเสียนิวเคลียร์จะค่อยๆเคลื่อนคลาน ไปจนถึงชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกาตามกระแสน้ำในมหาสมุทร
นอกจากนี้ เนื่องจากอิทธิพลของกระแสน้ำ และอุณหภูมิในมหาสมุทร
ความเข้มข้นของรังสีในน้ำทะเลบนแนวชายฝั่งสหรัฐอเมริกาอาจสูงขึ้นอีกในอนาคต
ภาพการแผ่รังสี
และญี่ปุ่นยังคงพยายามปกปิดแนวคิดเรื่องน้ำเสียจากนิวเคลียร์
แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าน้ำเสียจากนิวเคลียร์และน้ำเสีย เป็นสิ่งที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง น้ำเสียจากนิวเคลียร์ของญี่ปุ่นเป็นอันตรายมาก เนื่องจากมีสารกัมมันตภาพรังสี
เช่นไอโซโทปและมีจำนวนสูงถึง 64 หน่วย เบคเคอเรล (becquerel) หรือ Bq.( 1 Bq = การให้รังสีออกมา 1 ครั้งต่อวินาที )การปล่อยให้สิ่งปฏิกูลนิวเคลียร์ชนิดนี้ลงสู่ทะเลจะนำมาซึ่งอันตรายที่ซ่อนเร้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
หากห่วงโซ่อาหารทางทะเลมีมลพิษจากน้ำเสียจากนิวเคลียร์
อาหารทะเลอาจกลายเป็นพาหะของสารกัมมันตรังสีนิวเคลียร์ และในที่สุดก็เข้าสู่อาหารของมนุษย์และถูกดูดซึมโดยร่างกายมนุษย์
วัตถุดิบจากฟุกุชิมะ
มาซามิจิ นิชิโอะ ผู้อำนวยการกิตติมศักดิ์ของศูนย์มะเร็งฮอกไกโดในญี่ปุ่น เตือนถึงผลที่ตามมาจากการกินอาหารที่มีการปนเปื้อนนิวเคลียร์
เขาเชื่อว่าไอโซโทปจะถูกปลาดูดซึม และผู้ที่กินปลาก็อาจกินไอโซโทปเข้าไปในร่างกายด้วย
หลังจากการสะสมเป็นเวลานาน ไอโซโทปอาจทำให้การทำงานของร่างกายมนุษย์ลดลง อาการง่วงนอน เหนื่อยล้า และอื่นๆ
หากรุนแรงอาจนำไปสู่โรคเรื้อรังและแม้กระทั่งมะเร็งได้
นอกจากนี้ เทคโนโลยีที่มีอยู่ของญี่ปุ่นไม่สามารถจัดการกับธาตุกัมมันตภาพรังสีได้ทั้งหมด
ญี่ปุ่นจึงเลือกที่จะซ่อนธาตุบางอย่าง เช่น คาร์บอน-14 ,สตรอนเซียม-90 เป็นต้น
ญี่ปุ่นไม่(สามารถ)เอ่ยถึงธาตุเหล่านั้นได้แม้หากทำได้ แต่เน้นเฉพาะไอโซโทปที่สามารถบอกได้เท่านั้น ฮาาาา
อย่างไรก็ตาม น้ำเสียนิวเคลียร์ของญี่ปุ่นประกอบด้วยธาตุกัมมันตภาพรังสีหลายสิบชนิด และธาตุกัมมันตภาพรังสีเหล่านี้จะก่อให้เกิดมลพิษในมหาสมุทร
และก่อให้เกิดอันตรายในระหว่างการปล่อยลงสู่ทะเลในระยะยาวในอนาคต
แน่นอน...จีนที่อยู่ติดกันได้ต่อต้านและประณามพฤติกรรมที่ไม่ดีของญี่ปุ่นอีกครั้ง
เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสาธารณชน ญี่ปุ่นจึงได้เปลี่ยนไอโซโทปเป็น "มาสคอต"
และขอให้ญี่ปุ่นหยุดพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องนี้
อย่างไรก็ตาม ความหมายของญี่ปุ่นก็เห็นได้ชัดว่าไม่มีความกลัว เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาและรับรองโดยสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ
ยิ่งไปกว่านั้น ญี่ปุ่นยังรู้สึกว่าแม้ว่าการปล่อยสิ่งปฏิกูลนิวเคลียร์ลงสู่ทะเลจะเป็นอันตรายต่อมนุษย์ก็เป็นเรื่องยากสำหรับผู้ได้รับอันตรายที่จะรับผิดชอบต่อพวกเขา
ดังนั้น ญี่ปุ่นจึงไร้ศีลธรรมมากยิ่งขึ้น
โลกทั้งใบควรต่อต้านการปล่อยน้ำเสียนิวเคลียร์ของญี่ปุ่นลงสู่ทะเล เพราะว่าเรามีโลกเพียงใบเดียว
เรามีโลกเพียงใบเดียว
และโลกคือบ้านที่เราพึ่งพาเพื่อความอยู่รอด
ไม่ว่าในกรณีใด สิ่งปฏิกูลนิวเคลียร์เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ดังนั้นเราคงไม่ต้องการให้วันที่ 24 สิงหาคม ของทุกปี
เป็นวันภัยพิบัติทางระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม ในปฏิทินวันหยุดในอนาคต...
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
