Safe Zone อาจไม่ใช่คำในแง่ลบเสมอไป
ซึ่งจริง ๆ แล้ว หากมองในมุมที่ดี Safe Zone เป็นเสมือนที่ที่ตัวเราได้เจอความสบายใจ ความลงตัวในหลาย ๆ ปัจจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำงานที่อาจหมายถึงว่าเราได้เจอสังคม และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับตัวเราเอง
แต่พอนาน ๆ เข้า Safe Zone นี่แหละที่อาจจะเป็นคำที่ทำให้เรากลัวจนไม่กล้าทำอะไรใหม่ ๆ และทำร้ายเราในทางอ้อม
[ #ติดกับดักความสำเร็จเดิมๆ ]
ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ติดอยู่กับกับดัก Safe Zone และเกิดความรู้สึกว่าควรเดินหน้าเพื่อเติบโตก้าวหน้า หรืออยู่กับที่เพื่อใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองสบายใจ บางคนตั้งคำถามกับงานที่ทำว่า ออกไปแล้วจะดีกว่าเดิมหรือเปล่า? ถ้าออกไปแล้ว เราจะได้เจอเพื่อนร่วมงานที่ดี หัวหน้าที่ดี หรือเปล่า?
ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเราสามารถเก่งกว่านี้ได้ เราสามารถก้าวออกจาก Safe Zone โดยไม่ต้องยึดติดความสบายใจหรือความสำเร็จแบบเดิม ๆ ที่ทำให้เรากลัวการเดินไปข้างหน้า และวนอยู่ในสนามการแข่งขันแบบเดิมที่ตัวเองคุ้นชินสิ่งที่ทำแล้วประสบความสำเร็จโดยไม่พยายามท้าทายตัวเอง อาจส่งผลร้ายเมื่อสายไปหากความสำเร็จต่างๆ นั้น ไม่เพียงพอต่อการเผชิญโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วขึ้นทุกวัน
และขณะเดียวกัน คนอื่นที่มีความกล้าหรือพร้อมที่ลงแข่งขันทุกสนามจะแซงไปก่อน เพระพวกเขาจะเลือกสนามที่ท้าทายและช่วยพัฒนาทักษะ รวมถึงความสำเร็จที่ไม่ย่ำอยู่กับที่ ๆ เดิม และนั่นอาจหมายถึงว่าเราก้าวช้าเกินไปแล้วก็ได้
[ #อยู่ในกรอบจนเคยชิน ถึงเวลาปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ ]
ใครยังรู้สึกว่าตัวเองยังอยู่ในกรอบจนชิน Safe Zone ขอบของเขตของความสะดวกสบายของตัวเรา แม้ว่าจะมีความคุ้นเคยที่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัย แต่ก็อยู่ในพื้นที่ที่ไม่ตอบรับกับการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงของชีวิต
บางครั้งอาจถึงเวลาที่จะรับฟังเสียงเรียกร้องของความกล้าหาญ ความอยากรู้อยากเห็น ความทะเยอทะยาน และการค้นพบตัวเอง ความกล้าที่จะกล้าและกล้าที่จะก้าวข้าม Safe Zone ของเราสักที
ต่อไปนี้ Cariber จะมาแบ่งปัน 10 มุมคิดและคำแนะนำในการปลดโซ่แห่ง Safe Zone และโอบรับการเดินทางอันน่าตื่นเต้นของการพัฒนาตนเอง
1. #นิยามความสบายของเราใหม่
เริ่มที่ข้อแรก Safe Zone ของเรามักถูกกำหนดโดยความกลัวและข้อจำกัด เราควรเริ่มต้นด้วยการนิยามความสบายใหม่ว่าเป็นสถานะที่การเติบโตเกิดขึ้น รับรู้ว่าความไม่สบายใจจากการเปลี่ยนแปลงเป็นสัญญาณของความก้าวหน้า ไม่ใช่การถดถอยหรือย่ำอยู่กับที่ ชวนตัวเองให้เปิดรับแนวคิดที่ว่าทุกความท้าทายที่เราเผชิญนอก Safe Zone คือก้าวไปสู่การเติบโตและประสบความสำเร็จในเส้นทางอาชีพ
2. #ยอมรับความกลัวเป็นเพื่อน
หลายครั้งที่ความกลัวมักจะรั้งเราไว้ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่กล้าหาญเช่นกัน แทนที่จะมองว่าความกลัวเป็นอุปสรรค ให้ยอมรับความกลัวเป็น ‘เพื่อน’ ในการแสวงหาการเติบโตของเรา และลองทำความเข้าใจว่าความกลัวเป็นตัวชี้วัดถึงสิ่งที่ควรค่าแก่การค้นพบ ยิ่งเราเผชิญหน้าและเอาชนะความกลัวได้มากเท่าไร เราก็จะยิ่งมีความเข้มแข็งและมีพลังมากขึ้นเท่านั้น
3. #ตั้งเป้าหมายย่อย
การออกจาก Safe Zone ไม่จำเป็นต้องกระโดดสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่เสมอไป เราสามารถเริ่มต้นด้วยเป้าหมายย่อย ๆ ก้าวเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ ขยายขอบเขตของเรา ความท้าทายที่จัดการสิ่งต่าง ๆ ได้ จะสร้างความมั่นใจและแรงผลักดันของเราให้มากขึ้น ซึ่งชัยชนะเล็ก ๆ แต่ละครั้งจะกระตุ้นให้เราก้าวข้ามขีดจำกัดและยอมรับความรู้สึกไม่สบายออกไป
4. #ยอมรับความล้มเหลวเป็นคำติชม
ความกลัวความล้มเหลวมักทำให้เราฝังรากอยู่ในที่หลบภัย เปลี่ยนมุมมองของเราเกี่ยวกับความล้มเหลวให้มองว่าเป็นข้อเสนอแนะ ไม่ใช่ทางตัน มองว่าความล้มเหลวเป็นครูที่ล้ำค่า นำทางเราไปสู่กลยุทธ์ที่ดีขึ้นและการรับรู้ความต้องการของตนเองอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทุกอุปสรรคเป็นโอกาสในการปรับปรุงแนวทางของเราและพาเราเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น
5. #ปลูกฝัง Growth Mindset
ปรับแนวคิดและพัฒนา Growth Mindset เสมอ โดยเชื่อว่าความสามารถและความฉลาดของเราสามารถพัฒนาได้ผ่านความพยายามและการเรียนรู้ ความคิดนี้ผลักดันให้เราเห็นความท้าทายเป็นโอกาสมากกว่าอุปสรรค มันช่วยกระตุ้นให้ตัวเรามีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง มีความยืดหยุ่น และมีความกระหายใคร่รู้สำหรับประสบการณ์ใหม่ ๆ ในอนาคต
6. #กล้าที่จะยืดหยุ่น
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการก้าวข้าม Safe Zone ของเรานั้นไม่ได้ราบรื่นเสมอไป และความท้าทายและความพ่ายแพ้ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ในอีกมุมก็สร้างความยืดหยุ่นได้เช่นกัน ฝึกฝนความสามารถในการฟื้นตัวจากความทุกข์และความเสียใจ โดยใช้ทุกการสะดุดเป็นหินก้อนใหญ่ที่รองเพื่อก้าวไปสู่แรงบันดาลใจของเรา
7. #ฉลองกับความก้าวหน้า
อย่าเก็บงำความรู้สึกดีใจไว้ แต่ควรเฉลิมฉลองกับเหตุการณ์สำคัญและความสำเร็จแต่ละครั้งไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใด ตระหนักว่าทุกย่างก้าวที่ออกนอก Safe Zone คือชัยชนะ ที่ทำให้เรารับรู้ถึงความกล้าหาญและความก้าวหน้าของตัวเอง และใช้การเฉลิมฉลองเหล่านี้เพื่อกระตุ้นตัวเองให้ก้าวต่อไปอย่างกล้าหาญ
8. #หาแรงบันดาลใจจากผู้อื่น
ล้อมรอบตัวเราด้วยบุคคลที่กล้าออกจากเขตปลอดภัยของตนเอง เพราะเรื่องราวแห่งชัยชนะ ความสำเร็จ การเปลี่ยนแปลง และการค้นพบตนเองของพวกเขาสามารถเป็นแรงบันดาลใจและแรงผลักดันได้ การเรียนรู้จากการเดินทางของผู้อื่นสามารถเสริมและปลุกความเชื่อของเราในการคำนวณความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากประสบการณ์ของผู้ที่กล้าหาญมาก่อน
9. #เริ่มวันนี้
การเดินทางข้าม Safe Zone ของเราเริ่มต้นด้วยขั้นตอนเดียว คือการ “เริ่มต้นวันนี้ตรงจุดที่เราอยู่” ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นการสนทนา การทำงานอดิเรก หรือการค้นหาเส้นทางอาชีพใหม่ ทุกการกระทำที่ท้าทายความสบายในเขต Safe Zone ของเราคือก้าวไปสู่ชีวิตที่สดใสและเติมเต็มความต้องการที่ดียิ่งขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม การกล้าที่จะกล้าออกจาก Safe Zone คือการตัดสินใจที่เปลี่ยนแปลงชีวิต และยังเป็นคำเชิญให้ค้นพบศักยภาพที่ลึกล้ำของตัวเราเช่นกัน เป็นการไล่ตามความฝัน และเขียนเรื่องราวของเราใหม่ พร้อมกับโอบรับการผจญภัย เพราะอีกด้านหนึ่งของ Safe Zone ที่เรายืนอยู่อาจกำลังรอคอยโลกที่เต็มไปด้วยการเติบโต ความยืดหยุ่น และโอกาสที่ไร้ขอบเขตและความสำเร็จที่รอให้เราเรียนรู้
พาตัวเองให้กล้าเรียนรู้ กล้าเผชิญความผิดพลาด เปิดรับทักษะใหม่ ๆ ในชีวิต มาเรียนรู้ทุกทักษะเพื่อตอบรับกับทุกการเปลี่ยนแปลงไปกับเราได้ที่ www.cariber.co
#Cariber
#คอร์สออนไลน์ #พัฒนาตัวเอง #สมัครงาน #หางาน
………………
Cariber ความสำเร็จที่เรียนรู้ได้
ติดตามเราได้ที่ https://opl.to/cariber
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
