ตะลุยซัมเมอร์เดนมาร์ก ส่องงานอาร์ต ปล่อยจอยไปกับ wild flowers
เดนมาร์กเป็นประเทศที่ติดอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกมาโดยตลอด ช่วงที่เราไปเที่ยวเดนมาร์กเป็นช่วงฤดูร้อนซึ่งจะอยู่ที่ประมาณเดือนมิ.ย.ไปจนถึงเดือนส.ค. อากาศกำลังดีไม่เย็นจนเกินไป อุณหภูมิเฉลี่ย 15-25 องศาเซลเซียส กลางคืนยาวนาน สองทุ่มฟ้ายังสว่างสวย ๆ อยู่เลย ฟีลประมาณ Golden hour ซอฟท์ละมุนใจ
ป่าแถวที่พัก จะเดิน วิ่ง ขี่จักรยาน ตั้งแคมป์ จูงน้องหมาเดินเล่นได้หมด
ทริปล่าสุดเราเที่ยวเมืองโฮลเทอ (Holte) ซึ่งอยู่ทางเหนือของโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของเดนมาร์ก การเดินเข้าออกพิพิธภัณฑ์ ดูงานศิลปะและเดินเล่นชมธรรมชาติแบบ into the green and blue ของซัมเมอร์ที่นั่นเป็นอะไรที่จอยมาก ๆ
ดอกไม้ข้างทาง
EP แรกของทริปนี้ ขอเริ่มที่พิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในโฮลเทอที่เราไปพักก่อน โฮลเทอเป็นเมืองที่อยู่ห่างจากโคเปนเฮเกนประมาณ 20 – 30 นาที ขึ้นอยู่กับการจราจร และตั้งอยู่ทางตอนเหนือของโคเปนเฮเกน เมืองนี้มีอะไรให้จอยบ้าง ตามมาอ่านกันได้เลย
มัดรวมดอกไม้ป่า
Gammel Holtegaard เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์และอาร์ตเซ็นเตอร์ที่เราได้ไปเยือน ด้วยความที่พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่พักเท่าไรนัก จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์นี้ คือ การแสดงผลงานศิลปะของศิลปินทั้งภายในอาคารและภายนอกอาคาร ด้านนอกของ Gammel Holtegaard เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าที่บานช่วงฤดูร้อน ไม่แน่ใจว่า ทางพิพิธภัณฑ์ตั้งใจปลูกดอกไม้ป่าเหล่านี้มั้ย เพราะสวนด้านหน้าทางเข้าอาคาร มัดรวมดอกไม้ป่าที่เราเห็นขึ้นตามข้างทางมากระจุกรวมตัวกัน ชูช่อสวยงามฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้ว สีตัดกัน แดง ม่วง ชมพู ขาว น่ารักมาก ๆ
ดอกไม้ป่าด้านหน้าพิพิธภัณฑ์
ผลงานศิลปะที่จัดแสดงในช่วงที่เราไปเป็นการแสดงผลงานของ Isaac Grunewald ศิลปินชาวสวีเดนที่สามารถไต่เต้าขึ้นมาเป็นศิลปินระดับประเทศได้ด้วยผลงานแนว Expressionism ครอบครัวของ Isaac มีสมาชิกด้วยกันประมาณ 30 คน การที่ Isaac สามารถมีชื่อเสียงจนถูกเรียกตัวไปสร้างผลงานศิลปะให้กับเศรษฐีและขุนนางได้ทำให้ Isaac มีผลงานที่มีความหลากหลาย
ผลงานของ Isaac ภายในพิพิธภัณฑ์
ภาพนี้เป็นภาพของตัว Isaac เอง เราถามเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพิพิธภัณฑ์ว่า ทำไมถึงเลือกภาพใบหน้าของ Isaac มาเป็นภาพโปรโมทเอ็กซิบิชั่นนี้ เธอบอกว่า ถ้าสังเกตดูจะเห็นได้ถึง “ความภาคภูมิใจ” ในตัวเองของ Isaac ในภาพนี้
จากศิลปินที่มาจากครอบครัวที่ยากจนจนสามารถขึ้นมาอยู่ในอีกชนชั้นหนึ่งของสังคมได้ด้วยความสามารถทางศิลปะ จะว่าไปแล้วผลงานของ Isaac สำหรับเรา มีสีสันที่เป็นจุดเด่น รวมทั้งบรรยากาศที่สะท้อนให้เห็นถึงสังคมและธรรมชาติผ่านสายตาของศิลปินผู้นี้ และด้วยความที่ Gammel Holtegaard ตั้งใจทาสีวอลเปเปอร์เป็นสีเขียวสดและปูพรมสีชมพูตัดกัน ยิ่งทำให้ผลงานของ Isaac ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
พรมชมพูตัดกับวอลเปเปอร์สีเขียวสด
นอกจากจะมีภาพผลงานให้ได้ชมกันแล้วทาง Gammel Holtegaard ยังได้นำวิดีโอที่จับภาพของ Isaac กำลังเต้นรำไว้มาเปิดให้ผู้ชมงานได้เห็นเสี้ยวหนึ่งของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ในช่วงที่ยังมีชีวิต และทำให้เราได้เห็นที่มาของภาพภรรยาของ Isaac กับชุดเดรสระบายเป็นชั้น ๆ
ภาพภรรยาของ Isaac
ที่ชอบมาก ๆ สำหรับพิพิธภัณฑ์และอาร์ทเซ็นเตอร์ที่เดนมาร์กก็คือ ห้องเวิร์คช็อปที่เปิดให้ผู้เข้าชมงาน เด็ก ๆ ได้มีโอกาสลงมือระบายสี วาดภาพ และเนื่องจากช่วงที่เราไปเป็นงานแสดงผลงานของ Isaac ภายในห้องเวิร์คช็อปจึงมีกระดาษรูปใบหน้าของ Isaac ไว้ให้ เราเลยได้ระบายสีภาพหน้าศิลปินแนว Expressionism กับลูกสาวกันเพลิน
ลูกสาวบอกว่า ปากกาสี ๆ ที่ทาง Gammel Holtegaard ใส่กระปุกไว้ให้ระบายนั้น เป็นปากกาอย่างดี ราคาที่ไทยก็แท่งละร้อยกว่าบาท ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมบนบอร์ดในห้องเวิร์คช็อปถึงมีภาพระบายสีติดบอร์ดเต็มไปหมด ผู้ชมงานไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่พอได้ซึมซับผลงานจากศิลปินผู้มากความสามารถแล้ว เราก็จะอยากจะสร้างผลงานตามรอยบ้าง
ภาพระบายสีของผู้เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์
ดูผลงานของ Isaac เรียบร้อยแล้ว เราก็ออกมาชมสวนบาร็อคด้านนอกอาคารพิพิธภัณฑ์กัน แค่เถากุหลาบตรงทางเข้าก็เอาใจเราไปหมดแล้ว น้องออกดอกทีช่อนึงสิบกว่าดอก สวีทมาก เมื่อเดินเข้าไปในสวนเราก็จะพบกับผลงานศิลปะที่มีช่อว่า Looping the Hoop, 2023 ของศิลปินอีกราย คือ Lilibeth Cuenca Rasmussen ที่ตั้งอยู่กลางแจ้งในสวนที่สวยงาม
ผลงาน Looping the Hoop, 2023 ของ Lilibeth Cuenca Rasmussen
ก่อนหน้าที่จะเป็นพิพิธภัณฑ์ Gammel Holtegaard เคยเป็นบ้านที่พักของ Lauritz du Thurah สถาปนิกที่มีชื่อเสียงชาวเดนมาร์กในยุคบาร็อคเมื่อศตวรรษที่ 18 ทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราและชาวเดนมาร์กเองได้มีโอกาสชื่นชมผลงานศิลปะ เดินเล่นชมสวน และทานอาหารอร่อย ๆ
ด้านหลังของอาคารพิพิธภัณฑ์ที่เชื่อมกับสวน
ท่ามกลางบรรยากาศในช่วงฤดูร้อนที่ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า ต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวขจี และที่ประทับใจอีกอย่างก็คือ ก่อนที่เราจะมาที่พิพิธภัณฑ์ Gammel Holtegaard เราก็ได้ไปเยือน The Hermitage Hunting Lodge หรือที่พักของกษัตริย์หลังจากที่ได้ออกล่ากวาง ซึ่งผลงานการออกแบบที่พักของกษัตริย์ในช่วงล่ากวางที่ว่านี้ก็เป็นผลงานของ Lauritz du Thurah ด้วยเช่นกัน
สวนสไตล์บาร็อคด้านหลังพิพิธภัณฑ์
สวนบาร็อคที่ว่านี้ มีการรีโนเวตเมื่อปี 2546 นอกจากต้นโอ๊ค แอ็ปเปิ้ลแล้ว ที่จึ้งคือ ต้นเชอรี่ที่กำลังออกลูกเต็มต้น สีเหลือง ส้ม แดง สวยมาก และอีกต้นที่จึ้งไม่แพ้กันน่าจะเป็นต้นมัลแบร์รี่ ออกลูกเต็มทุกช่อ ชวนให้นึกถึงแยมผลไม้ ทาร์ต หรือไม่ก็พาย หรือเค้ก
เชอรี่ทยอยกันสุก
ด้วยความที่เราไปพิพิธภัณฑ์ช่วงบ่ายเลยไม่ได้มีโอกาสชมพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ แต่อัดแน่นไปด้วยความประทับใจเกี่ยวกับมนุษย์ยุคหิน เราจึงกลับมาที่พิพิธภัณฑ์นี้อีกครั้งในวันรุ่งขึ้น อย่าลืมตามอ่านกันนะ
- 22
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
