เจาะโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 ก่อนสนามบินนานาชาติผุดแห่งที่ 2
วันที่ 24 สิงหาคม 2566 ณ โรงแรมวินทรี ซิตี้ รีสอร์ท เชียงใหม่ นายสรายุทธ จำปา รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการสัมมนาประชาสัมพันธ์โครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 จัดโดยกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ที.ซี.เอ็ม.เอ เพื่อชี้แจงความเป็นมาของโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตามแผนแม่บทที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2561 ให้กับหน่วยงานผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของโครงการ
ปัจจุบันปริมาณผู้โดยสารมาใช้บริการ 8.4 ล้านคน และเพิ่มเป็น 10.2 ล้านคน ในปี พ.ศ. 2560 จากอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องขอผู้โดยสารนั้น ทำให้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ไม่สามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาท่าอากาศยาน ขยายทางวิ่ง ทางขับ ลานจอดเครื่องบิน และองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เหมาะสมตามมาตรฐาน เพื่อให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของประเทศในด้านต่าง ๆ ยุทธศาสตร์ของท่าอากาศยาน รวมไปถึงนโยบายของรัฐ และแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่
สำหรับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มงาน ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 การพัฒนาเขตการบิน
กลุ่มที่ 2 การพัฒนาอาคารผู้โดยสารและอาคารสนับสนุน
กลุ่มที่ 3 การพัฒนางานสนับสนุนท่าอากาศยาน
ทั้งนี้ การสำรวจและออกแบบคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี โดยกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาจะมีการขอความอนุเคราะห์ข้อมูล สำรวจความต้องการของผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน และรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มทั้งภายในและภายนอกท่าอากาศยาน เพื่อให้การออกแบบในครั้งนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเกิดประโยชน์สูงสุด
เพื่อให้ท่าอากาศยานเชียงใหม่สามารถรองรับปริมาณจราจรทางอากาศ และผู้โดยสารไม่น้อยกว่า 16.5 ล้านคนต่อปีในระดับมาตรฐานสากล
นายสรายุทธ จำปา รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัจจุบัน ท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีขีดความสามารถในการรองรับปริมาณผู้โดยสาร 8 ล้านคนต่อปี และมีอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โดยสารก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประมาณร้อยละ 10 ต่อปี
ซึ่ง ทอท.ตระหนักถึงการเจริญเติบโตของปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้น จึงได้พิจารณาดำเนินการจัดทำแผนแม่บทพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่เป็น 2 ระยะ เพื่อให้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีแผนการพัฒนาท่าอากาศยาน ที่สามารถรองรับปริมาณจราจรทางอากาศได้อีก 20 ปีอย่างยั่งยืน โดยในแผนพัฒนาฯ ดังกล่าวจะพิจารณาโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 16.5 ล้านคนต่อปี
สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของประเทศในด้านต่างๆ นโยบายของรัฐบาล รวมไปถึงยุทธศาสตร์ของ ทอท.ซึ่งในห้วงที่ผ่านมา ทอท.ได้ดำเนินการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และจัดหาผู้รับจ้างสำรวจและออกแบบโครงการ โดยได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัท ที.ซี.เอ็ม.เอ.(TCMA) ดำเนินการเป็นที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1
ซึ่งหลังจากนี้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา จะสำรวจข้อมูลความต้องการของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ทั้งภายในและภายนอกท่าอากาศยาน เพื่อนำไปสู่การออกแบบโครงการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้โดยสารผู้ใช้บริการ
ตลอดจนขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป ทั้งนี้การขยายขีดความสามารถตามแผนพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ทั้ง 2 ระยะ จะดำเนินการภายในพื้นที่ของท่าอากาศยานเดิมทั้งหมด ไม่มีการก่อสร้างทางวิ่ง (Runway) เพิ่มเติม หรือขยายพื้นที่เพิ่มเติมแต่อย่างใด
ด้านผู้แทนกลุ่มบริษัท ที.ซี.เอ็ม.เอ.(TCMA) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า โครงการแผนพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มงาน ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 การพัฒนาเขตการบิน
- ทางขับขนานเส้นใหม่พร้อมทางขับออกด่วน
- ปรับปรุงลานจอดอากาศยานพร้อมระบบเติมน้ำมันอากาศยานทางท่อ ให้มีหลุมจอดอากาศยานรวม 31 หลุมจอด จากเดิมปัจจุบันที่มีเพียง 19 หลุมจอด
กลุ่มที่ 2 การพัฒนาอาคารผู้โดยสารและอาคารสนับสนุน
- อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ โดยจะก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ บริเวณด้านทิศใต้ของอาคารผู้โดยสารเดิม
- อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ โดยปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิมเป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศทั้งหมด
- อาคารสำนักงาน ทชม.และสายการบินพร้อมที่จอดรถยนต์
กลุ่มที่ 3 การพัฒนางานสนับสนุนท่าอากาศยาน
- ปรับปรุงระบบถนนภายในท่าอากาศยาน โดยออกแบบถนนเป็น 6 ช่องทางจราจร (เข้า 3 ช่องทาง ออก 3 ช่องทาง) พร้อมทางยกระดับแยกผู้โดยสารระหว่างขาเข้าและขาออก
- สถานีไฟฟ้าย่อย
- โรงผลิตน้ำประปา
-ปรับปรุงขยายขีดความสามารถของระบบบำบัดน้ำเสีย
ทั้งนี้การสำรวจและออกแบบ จะดำเนินการควบคู่ไปกับการศึกษาและจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งหากได้รับการอนุมัติตามแผน คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการก่อสร้างประมาณ 3 ปี และเปิดใช้งานได้ภายในปี 2572
ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นสนามบินร่วมระหว่างกิจการพลเรือนและการทหาร ตั้งอยู่ที่ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันตกประมาณ 3 กิโลเมตร มีเนื้อที่รวมประมาณ 1,605 ไร่
ในปี 2562 ทชม. มีจำนวนผู้โดยสารสนามบินสูงสุดอันดับ 4 ของท่าอากาศยานภายใต้ความรับผิดชอบของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ต่อไปจะเรียกว่า ทอท. ในปี 2558 จำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการมีจำนวน 8.4 ล้านคน และเพิ่มขึ้นเป็น 10.2 ล้านคนในปี 2560
โดยมีผู้โดยสารเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เนื่องจากการแข่งขันด้านราคาค่าโดยสารของธุรกิจสายการบินราคาประหยัดและความต้องการเดินทางสู่ จังหวัดเชียงใหม่ของชาวจีนในอดีต ปัจจุบัน ทอท. มีศักยภาพรองรับผู้โดยสารได้ 8 ล้านคนต่อปี (8 MAP) ซึ่ง ทอท. ตระหนักดีถึงการเติบโตของปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว จึงถือว่า ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมของจังหวัดเชียงใหม่
แผนแม่บทท่าอากาศยานใหม่ แบ่งเป็น 2 ระยะ เพื่อให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีแผนพัฒนา
ท่าอากาศยานที่สามารถรองรับการจราจรทางอากาศได้อีก 20 ปี อย่างยั่งยืนในแผนพัฒนาดังกล่าว โครงการพัฒนา ทชม. ระยะที่1 เพื่อให้สามารถรองรับการเติบโตของของ ทชม. ให้รองรับผู้โดยสาร
ที่เพิ่มขึ้นเป็น 16.5 ล้านคนต่อปี (16.5 MAP) แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 5.30 ล้านคนต่อปี (5.30 MAP) ผู้โดยสารภายในประเทศ 11.20 ล้านคนต่อปี (11.20 MAP) โดยจะใช้รองรับการเจริญเติบโตของ ทชม. ในอนาคตเพื่อให้การพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของประเทศในด้านต่างๆ , นโยบายของรัฐบาล รวมทั้งยุทธศาสตร์ของ ทอท. และแผนแม่บท
การพัฒนา ทชม. ดังนั้น ทอท.จึงเห็นควรให้มีการจัดจ้างงานสำรวจและออกแบบโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
