26 ส.ค. 2023 เวลา 03:53 • ประวัติศาสตร์
turkeyi

ตอน ศตวรรษแห่งการข่มเหง 70 – 312 AD การไล่ล่าที่เข้มข้น

ค่ำคืนที่โบสถ์แห่งหนึ่งใน Bithynia , Asia Minor*(1) เฮเลน่า Helena *(2) ยืนอยู่แถวหลังกับพวกผู้หญิง เธอเงี่ยฟังบิชอปอ่านบันทึกหนึ่งอย่างตั้งใจ
“ต่อไปนี้ เป็นบันทึกของ ท่านผู้หญิงเปร์เปตัวแห่งคาร์เธจ พวกเราทราบกันดีว่า ท่านได้พลีชีพเยี่ยงวีรสตรี เมื่อ ประมาณ 40 ปี ที่แล้ว ท่านถูกสังหารพร้อมกับทาสสาว เฟลิซิตาส์ และ เพื่อนผู้เชื่อ รวม 5 คน นี่คือนิมิตที่ท่านบันทึกไว้ –
‘และฝูงชนต่างตะโกน ขณะที่ผู้ช่วยของข้าขับร้องเพลง ข้าเดินไปหานักต่อสู้ gladiator *(3) เพื่อรับกิ่งไม้ เขาจุบข้าและพูดว่า “ลูกเอ๋ย ขอสันติสุขอยู่กับเจ้า” และข้าเปี่ยมล้นด้วยพระสิริในขณะที่ย่างเท้าสู่ ประตูแห่งชีวิต Gate of Life เมื่อข้าตื่นขึ้น ข้าจึงเข้าใจว่า ที่ข้าต้องสู้ ไม่ใช่กับสัตว์ร้าย แต่กับมารซาตาน แต่ข้ารู้ชัดว่าชัยชนะนั้นเป็นของข้า”
นับตั้งแต่วีรกรรมที่กล้าหาญของท่านหญิงเปร์เปตัว มิเพียงแต่จำนวนชาวคริสต์จะไม่ลดลง แต่กลับมีคนโรมันชั้นสูงมาเชื่อมากขึ้น นำมาซึ่งการไต่สวนในที่สาธารณะซึ่งดำเนินไปอย่างถึงพริกถึงขิงด้วยข้อกล่าวหาที่อยู่ในใจคนทั้งจักรวรรดิก็ว่าได้ อาทิเช่น
ผู้กล่าวหา “พวกชาวคริสต์มันกินเลือดกินเนื้อ พวกเจ้าชอบนัดพบกันในที่ลับๆ แล้วก็กินเนื้อคนเป็นอาหาร มีเลือดคนเป็นเครื่องดื่มใช่หรือไม่ จงสารภาพมา ! “
ผู้ถูกกล่าวหา “ไม่ใช่เลย เราพบกันเพื่อการสามัคคีธรรม อ่านจดหมายฝากของเปาโลและของอัครทูตคนอื่นๆร่วมกัน แล้ว สิ่งที่เรากิน คือ ขนมปังไร้เชื้อที่เล็งถึงพระกายของพระเยซู ส่วน น้ำสีแดงก่ำ คือเหล้าองุ่น นั่นเล็งถึงโลหิตพระองค์ที่หลั่งบนไม้กางเขน ในระหว่างอาหารมื้อสุดท้าย the Last Supper พระเยซูทรงสั่งให้สาวกทำเช่นนั้น ”
ผู้กล่าวหา “แกอย่ามาแก้ตัว พวกแกไม่ยอมเคารพบูชาพระดาวเสาร์ Saturn *(4) ของเรา ทำให้หลายปีนี้ ไร่นาเราถูกแมลงทำลายเสียหาย นี่คือฝีมือพวกแก แล้วก็ยังเรื่องพระจูปิเตอร์ Jupiter *(5) อีก ท่านไม่พอใจพวกแก ไม่ส่งฝนมาหลายปีแล้ว เรากำลังพินาศเพราะแก แกคือศัตรูตัวจริงของมนุษยชาติเลย !”
ผู้ถูกกล่าวหา “พวกเราบูชาพระเจ้าองค์เดียวที่เป็นพระผู้สร้าง เหมือนคนยูดาห์*(6) เราผิดตรงไหน พวกยูดาห์ก็ไม่ได้บูชาพระต่างๆของโรมันเช่นกัน ทำไมท่านมาเอาผิดแต่พวกเรา”
ผู้กล่าวหา “พวกคริสต์ ไม่เหมือนพวกยูดาห์ ข้าเองหลงเข้าใจผิดเสียนาน นึกว่าเหมือนกัน พวกแกทำเป็นมีมาตรฐานจริยธรรมสูงส่ง ทำเป็นดูแลคนจน คนป่วย ไหนจะทาสอีก แกคิดว่าแกวิเศษมาจากไหน มันทำให้เราเสียการปกครอง แม้แต่อดีตทาส คาลิสตัส Callistus แต่ยังยกให้เป็นบิชอป ไอ้พวกคนชั้นต่ำมันกำลังเหิมเกริมขึ้นทุกวันเพราะแก ! ”
การโต้เถียงมักจบลงด้วยการตัดสินว่าผิดและถูกประหารโดยศาลเตี้ยที่มีจักรพรรดิให้ท้าย จึงไม่จำเป็นต้องไปร้องทุกข์ที่ศาลอื่นใดอีกให้มากความ ชาวคริสต์ที่ถูกจับต้องเผชิญกับสัตว์ร้ายเช่นสิงโต วัวบ้า ในสังเวียนที่ล้อมรอบด้วยกลุ่มคนเชียร์ที่กระหายเลือด
https://media.tacdn.com/media/attractions-splice-spp-674x446/06/6f/44/b2.jpg
ในรัชกาลของจักรพรรดิเดซิอัส Decius 249-251 AD ได้ประกาศพระราชโองการให้ประชากรทุกคนในจักรวรรดิจุดธูปบวงสรวงจักรพรรดิแห่งโรมปีละครั้ง พร้อมกล่าว “ซีซาร์คือพระเจ้า” ซึ่งมีการออกใบรับรองให้ผู้ที่ได้ปฎิบัติจริง กล่าวได้ว่าแผนการของเดซิอัสนั้นแนบเนียนและจริงจัง ในยุคนั้นเองผู้นำคริสตจักรรวมถึงบิชอปถูกประหารไปหลายคนทีเดียว
ในช่วงรัชกาลของจักรพรรดิวาเลเรียน ปี 258 AD ไซเปรียน Cyprian บิขอปเมืองคาร์เธจถูกประหารด้วยข้อหา ปฏิเสธการบูชาพระของโรมัน ไซเปรียนเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงและเป็นนักเขียนที่ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่ง ท่านได้ศึกษาค้นคว้าเขียนหลักคำสอนศาสนศาสตร์เพื่อปกป้องความเชื่อของชาวคริสต์
การไต่สวนและประหารในครั้งนั้นกระทำในที่สาธารณะ ประวัติศาสตร์จึงได้บันทึกบทสนทนาแบบคำต่อคำระหว่าง ผู้ปกครองเมือง กาลีเรียส แม๊กซิมัส Consul Galerius Maximus และ ไซเปรียน
กาลีเรียส “เจ้าคือ ไซเปรียน ใช่หรือไม่”
ไซเปรียน “ถูกต้อง”
กาลีเรียส “จักรพรรดิผู้ศักดิ์สิทธิ์บัญชาให้เจ้าเข้าพิธีกราบไหว้บูชาแบบชาวโรมัน”
ไซเปรียน “ข้าขอปฏิเสธ”
กาลีเรียส “ระวังตัวเอาไว้”
ไซเปรียน “แม้ข้าจะระวัง ท่านก็จะสั่งสิ่งที่ท่านต้องการ”
กาลีเรียส “เจ้าจัดชุมนุมพวกเข้ารีตอย่างผิดกฎหมาย และประกาศตัวว่าเจ้าคือศัตรูของพระแห่งโรมัน และศาสนาของโรม เป็นศัตรูต่อจักรพรรดิผู้ศักดิ์สิทธิ์ แม้เราจะพยายามนำเจ้ากลับมาสู่วิถีบูชาแห่งโรม เจ้าก็ปฎิเสธ เพื่อมิให้การกระทำของเจ้าเป็นเยี่ยงอย่างแก่พวกเข้ารีตคริสต์ ดังนั้นด้วยสิทธิอำนาจของกฎหมายโรม โลหิตของเจ้าจะเป็นสัตยาบันแห่งความผิดนี้”
กาลีเรียส แม็กซิมัส
ไซเปรียนถอดเสื้อคลุม นำผ้ามาปิดตาด้วยตนเอง คุกเข่าลง เขาเปล่งเสียงชัดว่า “ขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า” ก่อนที่คมมีดจะปะทะลำคอ
คนมากหลายจากแทบทุกสารทิศมาเป็นพยานในการไต่สวนครั้งนี้ ทั้งจากอเล็กซานเดรีย และแม้กระทั่งไกลโพ้นอย่างบิทธิเนีย เอเชียไมเนอร์ เฮเลน่าหญิงผู้เชื่อ ยืนสะอื้นอยู่หลังเสากับเพื่อนสาว ผ้าคลุมผมที่มิดชิดของเธอซ่อนน้ำตาที่ไหลพรากไว้ ในครรภ์น้อยๆของเธออุ้มบุตรชายที่จะเปลี่ยนอนาคตของคริสตศาสนาไปตลอดกาล
DISCLAIMER : ความเรียงเชิงประวัติศาสตร์อ้างอิงเรื่องราวจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ล คำพูด บทสนทนา และรูปประกอบ เป็นจินตนาการของผู้เขียนเพื่อให้นึกภาพของเหตุการณ์ หากมีคำอ้างอิง quotations ที่มาจากพระคัมภีร์โดยตรงจะมีเชิงอรรถกำกับไว้ ในส่วนชื่อของบุคคล/สถานที่ นั้นมาจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ล และ/หรือ บันทึกประวัติศาสตร์นอกพระคัมภีร์
เชิงอรรถ
 
*(1) Bithynia – บิทธิเนีย ดินแดนด้านตะวันตกของตุรกีในปัจจุบัน
*(2) Helena - พระนางเฮเลน่า มารดาของจักรพรรดิคอนสแตนติน
*(3) Gladiator- นักสู้ในสังเวียนที่ต่อสู้กับสัตว์ร้าย หรือ นักโทษคดีฉกรรจ์ ในสมัยอาณาจักรโรมัน
*(4) Saturn – เทพเจ้าดาวเสาร์ในเทพนิยายโรมัน เชื่อว่าให้พรที่เกี่ยวกับการเกษตร
*(5) Jupiter – เทพเจ้าดาวจูปิเตอร์ (พฤหัส) ในเทพนิยายกรีก เชื่อว่าเป็นผู้ควบคุมด้านดินฟ้าอากาศ ฝน พายุ
*(6) คนยูดาห์ – ชาวยิวที่อาศัยอยู่ตอนใต้ของปาเลสไตน์ นับถือศาสนายูดาห์ Judaism ซึ่งยึดถือเอกเทวนิยม (พระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว)
โฆษณา