THE STANDARD LIFE X No Name Noodle เยียวยาจิตใจด้วยมื้อพิเศษหลังเลิกงาน
เมื่อวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทาง THE STANDARD LIFE ได้ร่วมมือกับร้านราเมงที่โด่งดังและจองยากที่สุดร้านหนึ่งในประเทศไทยอย่าง No Name Noodle BKK ในการจัด Chef Table มื้อพิเศษภายใต้ชื่อ Project ว่า LIFE TABLE: Good Night Ramen "เยียวยาจิตใจด้วยมื้อพิเศษหลังเลิกงาน" ครับ
สำหรับใน Project นี้ ถือว่าเป็นการเริ่มทำอะไรใหม่ๆหลายอย่างของ No Name Noodle ที่ไม่เคยเปิดรับลูกค้ารอบเย็นมาก่อน รวมถึงวิธีการเสิร์ฟที่แตกต่างจากการทานราเมงทั่วไป จากปกติที่จะเสิร์ฟให้ทานเป็นชามๆ มาใช้วิธีการเสิร์ฟแบบ GOZEN (御膳) หรือเสิร์ฟแบบเป็นคอร์สครับ
สำหรับในรอบที่ผมได้จองไปคือเย็นวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม รอบเวลา 19.30 น. ซึ่งถือว่าเป็นเวลาดีในวันศุกร์ที่เราจะหาอะไรอร่อยๆทานเพื่อเติมพลัง ฟื้นฟูพลังใจให้ตัวเองหลังจากที่เหน็ดเหนื่อยมาตลอดสัปดาห์ ตาม Concept ของโปรเจกต์นี้ (รวมถึงตรงกับ Concept บน banner ของเพจด้วยครับว่า "หากใจของท่านเหนื่อยล้า จงเดินหาร้านราเมง")
ป้ายชื่อ กระดาษโอริกามิที่มีข้อความภายใน และผ้ากันเปื้อน
ซึ่งก่อนที่จะเริ่มคอร์ส ก็มีทั้งการกล่าวเปิดรอบโดยทีมงานของทาง THE STANDARD LIFE และการเกริ่นถึงพระเอกของราเมงคอร์สนี้อย่าง"แป้ง"ที่ใช้ทำเส้นด้วยเครื่องทำเส้นที่เชฟชินลงทุนสั่งเข้ามาใช้เองครับ เรียกได้ว่าเป็นการเปิดคลาสเรียนย่อมๆเลยทีเดียว
แป้งสาลี 101 โดย เชฟชิน
สำหรับใน Ramen Course ที่ทางเชฟชินได้เตรียมไว้ มีทั้งหมด 4 คอร์สที่ทำจากวัตถุดิบของญี่ปุ่นที่เชฟเลือกมาอย่างพิถีพิถันและดึงรสชาติของวัตถุดิบออกมาเสิร์ฟให้กับลูกค้า ตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อย, ราเมง, ข้าว และของหวาน โดยที่จะมีสาเก 3 แบบคอยจับคู่ในการทานแต่ละช่วงครับ
เส้นพิเศษที่ทำสำหรับคอร์สนี้โดยเฉพาะ
ไล่จากคอร์สแรกคือ Appetizer รองท้องที่เป็นเกี๊ยวกุ้งร้อนๆในซุปที่ผสมด้วย Ichiban Dashi กลิ่นหอมๆของทั้งซุปและเปลือกส้มยูสุช่วยเรียกน้ำย่อยได้ดีทีเดียว
Appetizer เกี๊ยวกุ้งในน้ำซุปหอมๆ
ต่อมาเป็น Double Soup Tsukesoba อาหารจานหลักที่ทำจากเส้นแบบพิเศษที่เชฟชินเตรียมไว้สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ แช่ใน Kombusui แบบพิเศษแบบเดียวกับที่ใช้ในเมนูพิเศษ Torotoro Kombusui Tsukesoba เสิร์ฟพร้อมซุปจุ่ม 2 แบบ ทั้ง Shoyu Soup ที่ใช้เป็นซุปเป็ด และ Shio Soup ที่เป็นซุปไก่ครับ พร้อมทั้ง Topping ที่ผ่านการปรุงและซูวีมาในระดับที่พอดีและอร่อย
Double Soup Tsuke Soba
โดยมีเครื่องปรุงเสริมให้เลือกผสมเพื่อเปลี่ยนรสชาติอย่างวาซาบิ (แนะนำให้ผสมใน Shoyu Soup) และสาหร่าย (แนะนำให้ผสมใน Shio Soup) และยังสามารถขอซุป dashi เพื่อมาวาริกับซุปจุ่มที่เหลือหลังจากทานเส้นเพื่อซดต่อได้ตามสไตล์การทานแบบจุ่มแบบนี้ครับ
ซุปแต่ละชนิด และเครื่องเคียง
แต่ละส่วนประกอบที่ผ่านกระบวนการทำมาอย่างดีเยี่ยม
สำหรับผม นอกจากการทานความอร่อยของเส้นแล้ว ตัวซุปเองก็จะอร่อยขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากมีส่วนของ Kombusui ที่แช่เส้นลงไปผสมด้วยส่วนหนึ่ง แล้วก็ซุปดาชิที่เทลงไปวาริตอนท้าย (หรือจะตักเอา Kombusui ที่เหลือเทลงไปผสมกับซุปแบบที่ผมทำ เพื่อเพิ่มความอูมามิก็ได้ครับ เป็นรสชาติของซุปโชยุที่มีมิติขึ้นและอร่อยถูกใจมาก ชวนให้นึกถึงรสชาติที่ประทับใจของ Ramen Break Beats ที่ญี่ปุ่นเลย)
หลังจากทานเส้นหมดก็มาวาริซุปแล้วซดกันครับ
คอร์สต่อมาจะเป็นเมนูข้าว ที่สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นเนื้อวากิว หรือหน้าไข่ปลาครับ (ผมเลือกข้าวหน้าเนื้อไป) ซึ่งเราสามารถจะเอาซุป Shio ที่เหลือมาใส่ที่ข้าวประมาณ 2 ช้อนเพื่อเพิ่มความอร่อยได้ด้วย
ข้าวหน้าเนื้อวากิว :)
ปิดท้ายกันที่ของหวานที่สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นชีสเค้กหรือเค้กช็อกโกแลต เสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมยูสุ เป็นการปิดคอร์สที่อิ่มทั้งท้องอิ่มทั้งใจครับ
ของหวานปิดท้าย ตัดรสและปิดคอร์สได้อย่างดี
ขอบคุณทาง THE STANDARD LIFE ที่จัดโปรเจคดีๆแบบนี้ขึ้นมา และขอบคุณคุณเจม Co-Founder ของ No Name Noodle ที่เอื้อเฟื้อและต้อนรับผู้เข้าร่วมทุกคนเป็นอย่างดีครับ
หลังจากนั้น ทางทีมงานก็ให้กระดาษมาเขียนวิธีฮีลใจของแต่ละคน ซึ่งแน่นอนครับว่าจะต้องเป็น"ราเมง":)
ทิ้งท้ายด้วยการถ่ายรูปคู่กับคุณเคน นครินทร์ ที่ทานในรอบเดียวกัน ติดตามผลงานมานานมากตั้งแต่สมัยที่ทำ Voice TV จนกระทั่งมาทำ The Standard ครับ :)
#หากใจของท่านเหนื่อยล้าจงเดินหาร้านราเมง
#THESTANDARDLIFE #LIFExNoNameNoodle #TheUrbanGuidetoWellbeing #LIFEtable
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
