27 ส.ค. 2023 เวลา 13:54 • ประวัติศาสตร์

ห้าทฤษฎีสมคบคิดสุดแปลกของเรือ Titanic ที่ไม่มีวันจม (ภาคแรก)

จากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเรือสำรวจใต้น้ำ Titan ของบริษัท Ocean Gate ซึ่งหายสาบสูญไประหว่างการดำดิ่งสู้ก้นมหาสมุทรแอตแลนติกเพื่อพาลูกเรือทั้ง 6 ชีวิต เที่ยวชมซากเรือ Titanic ที่ก้มอยู่ก้นมหาสมุทรลึกราว 4 กิโลเมตร
ก่อนที่จะเกิดโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้า ที่ทุกคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้ว เมื่อเรือดำสำรวจใต้น้ำ Titan เกิดระเบิดใต้ท้องทะเลลึกเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ.2023 และลูกเรือทั้งหกชีวิตได้เสียชีวิตทั้งหมด จนนำมาสู่คำบอกเล่าถึงคำสาปต่าง ๆ ของเรือ Titanic ที่ครั้งหนึ่งเคยได้ฉายาว่า ‘เรือที่ไม่มีวันจม’
การระเบิดของเรือสำรวจใต้น้ำ Titan ได้ถูกผู้คนทั่วโลกร่ำลือถึงคำสาปของเรือ Titanic ที่หลายคนให้คำนิยามว่ามันคือเรือผีสิงดี ๆ นี่เอง และเชื่อกันว่าดวงวิญญาณนับพันดวงที่สิงสถิตอยู่ในซากเรือ Titanic ไม่ต้องการให้ใครก็ตามลงมารบกวนพวกเขาอีกต่อไป
และนี่คือ 5 ทฤษฎีสมคบคิดสุดแปลกของเรือ Titanic ที่ไม่มีวันจม ภาคแรก
1. คนภายในบริษัทรวมหัวกันเพื่อเอาเงินประกัน
โรบิน การ์ดิเนอร์ นักทฤษฎีสมคิดได้ตั้งข้อสังเกตว่า บางทีเรือ Titanic อาจไม่ได้จมลงสู่ก้นมหาสมุทรจริง แต่เป็นเรือพี่น้องอย่าง RMS Olympic ที่ถูกสวมรอยเป็นเรือ Titanic เพื่อเอาเงินประกันจากบริษัทเจ้าของเรือ International Mercantile Marine Company ที่บริหารงานโดย เจ.พี. มอร์แกน นายธนาคารชาวอเมริกันในขณะนั้น และบริษัทแห่งนี้ ยังเป็นบริษัทแม่ของบริษัทเดินเรือ White Star Line อีกด้วย
เรือ RMS Olympic
อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีสมคบคิดของการ์ดิเนอร์ก็ถูกปัดตกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อมีผู้ออกมาคัดค้านว่า วัสดุที่ใช้ก่อสร้างเรือ Titanic คือหมายเลข 401 ในขณะที่วัสดุที่ใช้ก่อสร้างเรือ Olympic คือหมายเลข 400 และภายหลังก็มีการตรวจพบวัสดุหมายเลข 400 ในซากปรักหักพังของเรือ Titanic ที่จมอยู่ก้มมหาสมุทร
2. การจมลงของเรือ Titanic คือส่วนหนึ่งของแผนการฆาตกรรมของมอร์แกน
เจ.พี. มอร์แกน นายธนาคารผู้มั่งคั่งของสหรัฐฯ เคยถูกตั้งข้อสงสัยว่าเขาอาจวางแผนฆาตกรรมคู่แข่งทางธุรกิจของเขาอย่าง จอห์น เจคอบ แอสเตอร์, เบนจามิน กุกเกนไฮม์ และ อิซิดอร์ สเตราส์ ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ล้วนเป็นนักธุรกิจผู้มั่งคั่ง และเชื่อกันว่าพวกเขาทั้งสามคนเป็นผู้คัดค้านการสร้างธนาคารกลางของสหรัฐฯ (US Federal Reserve Bank) ของมอร์แกน โดยมีข้อสังเกตว่า กุกเกนไฮม์และสเตราส์ จมลงไปพร้อมกับเรือ Titanic ในขณะที่ศพของแอสเตอร์ ได้ถูกกู้ขึ้นมาในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีดังกล่าวได้ถูกปัดตกไป โดยนักเขียน เจ. เคนท์ เลย์ตัน ที่กล่าวว่ามีหลักฐานชี้ชัดไม่เพียงพอ
เจ.พี. มอร์แกน CEO ของ International Mercantile Marine Company
3. ทฤษฎีมัมมี่ต้องคำสาป
หนึ่งในทฤษฎีสมคบคิดที่เกี่ยวข้องกับการอับปางของเรือ Titanic คือคำสาปมัมมี่เจ้าหญิงของอียิปต์โบราณที่ถูกพามากับเรือ Titanic ด้วย โดยทฤษฎีสมคบคิดดังกล่าว ถูกพูดถึงมานานนับศตวรรษแล้ว และหลายคนก็ยังเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง!!
ในปี ค.ศ.1985 ชาลส์ ฮาสส์ จาก Titanic International Society ที่เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรของอเมริกา ที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ของเรือ Titanic ได้เคยลงไปสำรวจถึงห้องเก็บสัมภาระของเรือ แต่ไม่มีการค้นพบโลงศพมัมมี่อยู่ในนั้น จะมีเพียงแค่ขนสัตว์นานาชนิดที่จะถูกนำไปเป็นวัตถุดิบในการถักทอเสื้อผ้าเครื่องนุ่มห่มก็เท่านั้น
4. เรือ Titanic ถูกเรือดำน้ำเยอรมันยิงจนอับปาง
ในช่วงเวลาที่เรือ Titanic อับปาง ณ ขณะนั้นสงครามโลกครั้งที่หนึ่งยังไม่อุบัติขึ้น แต่ก็มีคนตั้งข้อสังเกตว่าเรือดำน้ำ U-Boat ของเยอรมัน อาจเข้าโจมตีเรือโดยสารของอังกฤษก็เป็นได้ มีผู้รอดชีวิตจากเรือ Titanic บางคนอ้างว่า พวกเขาเห็นเรือดำน้ำซ่อนอยู่ห่างออกไปหลายกิโลจนถึงเช้า บางทีเรือดำน้ำอาจมีเป้าหมายในการโจมตีเรือโดยสารของอังกฤษ หรืออาจจงใจพุ่งชนเพื่อให้เกิดอุบัติเหตุ
ภายหลัง ทฤษฎีดังกล่าวได้ถูกปัดตกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเรือ RMS Lusitania ถูกโจมตีด้วยเรือดำน้ำ U-Boat ของเยอรมัน และอับปางสู่ก้นมหาสมุทรในปี ค.ศ.1915 ภายในระยะเวลาเพียง 18 นาที ในขณะที่เรือ RMS Titanic ใช้เวลาในการอับปางสู่ก้นทะเลถึง 2 ชั่วโมง 40 นาที
ภาพวาดเรือ RMS Lusitania ขณะกำลังอับปาง
5. การอับปางของเรือ Titanic เกิดจากการก่อวินาศกรรม
ที่อู่ต่อเรือเบลฟาสต์ในประเทศไอร์แลนด์เหนือ มีคนงานสองคนที่ชื่อฮาร์แลนด์และโวลฟ์ ที่นับถือศาสนาคริสต์นิการโรมันคาทอลิก ตกใจกับตัวเลข ‘3909 04’ บนตัวเรือ Titanic ด้วยเหตุเพราะเมื่อพวกเขาอ่านตัวเลขดังกล่าวกลับหลัง คล้ายจะสะกดเหมือนคำว่า ‘No Pope’ หรือ ‘ไม่ใช่พระสันตปาปา’
ประเด็นก็คือ เรือ Titanic ถูกจอดพักไว้ที่ลานหมายเลข 401 ที่เป็นตัวเลขอย่างเป็นทางการและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้สร้างเรือ Titanic ล้วนใช้เลข 401 ดังนั้นตัวเลข ‘3909 04’ จึงเป็นตัวเลขอันน่าฉงน ที่ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไป
อีกทั้งคนงานส่วนใหญ่ในอู่ต่อเรือเบลฟาสต์ ยังนับถือศาสนาคริสต์นิกายโปร์เตสแตนต์ ซึ่งนิยายนี้เป็นไม้เบื่อไม้เมากับศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกอีกด้วย
ตัวเลข '3909 04' บนตัวเรือ Titanic ที่เมื่ออ่านกลับหลังจะเป็น 'NO POPE'
โปรดติดตามภาคสองเร็ว ๆ นี้ครับ
ที่มา :
โฆษณา