"ดิจิทัลวอลเล็ต" แห่งชาติ จะสร้างการเปลี่ยนแปลง ตลาดเงินและตลาดทุนอย่างไร?
บทความโดย : นเรศ เหล่าพรรณราย
ไม่นานมานี้ตัวแทนของ "พรรคเพื่อไทย" ได้ออกมาตอกย้ำว่าถ้าหากสามารถขึ้นเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ จะผลักดันนโยบาย "ดิจิทัลวอลเล็ต" แห่งชาติ เพื่อที่จะแจกเงินดิจิทัลจำนวน 10,000 บาท ให้กับคนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ประเด็นนี้ถูกพูดถึงในหลายแง่มุมทั้งในด้านการเมือง การคลัง ตลอดจนทางด้านเทคโนโลยี
บทความนี้ผู้เขียนขอแสดงมุมมองที่มีต่อนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตในมุมของเทคโนโลยีเท่านั้น โดยไม่ขอพูดถึงประเด็นทางด้านการเมืองและการคลังแต่อย่างไร
เท่าที่จับใจความได้จากการออกมาให้สัมภาษณ์ของตัวแทนพรรคเพื่อไทย "ดิจิทัลวอลเล็ต" แห่งชาตินี้ จะสร้างสิ่งใหม่อยู่สองเรื่องคือ หนึ่ง..ระบบการชำระเงินใหม่ สอง..ตลาดทุนดิจิทัล ส่วนสาเหตุที่เรียกว่าเป็นดิจิทัลวอลเล็ตแห่งชาติเพราะถูกสร้างขึ้นโดยมีรัฐบาลเป็นเจ้าของ
เริ่มที่ระบบการเงินใหม่ ในความเป็นจริงแล้วระบบการเงินสำหรับรายย่อยของไทยถือว่ามีความทันสมัยไม่แพ้ประเทศอื่นที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลกแต่อย่างไร และระบบการเงินที่มีอยู่ในปัจจุบันก็รองรับการทำงานที่ตัวแทนพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงอยู่แล้วเช่นการกำหนดเงื่อนไขในการใช้เงิน ไม่ว่าจะเป็นขอบเขตพื้นที่การใช้เงินหรือระยะเวลาโดยไม่จำเป็นต้องใช้บล็อกเชนก็ได้
แต่ถ้าเพิ่มระบบการเงินใหม่ที่มีบล็อกเชนเข้ามาก็ถือว่าเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ให้คนไทยมีโอกาสใช้ระบบการเงินที่มีความฉลาด (Smart) มากขึ้นอย่างเช่นการกำหนดเงื่อนไขในการใช้เงินอาจสามารถแนบคูปองดิจิทัล (จะเป็น NFT ก็ได้)ที่ใช้เป็นส่วนลดหรือได้รับสิทธิพิเศษจากการใช้เงินนั้นลงไปได้
รวมถึงภาครัฐสามารถที่จะจัดสรรงบประมาณต่างๆตรงไปยังบุคคลที่ถือดิจิทัลวอลเล็ตนั้นๆเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะด้านได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องหน่วยงานกลางมาคอยกระจายงบประมาณซึ่งสุดท้ายอาจนำไปสู่การใช้เงินที่ผิดวัตถุประสงค์ก็เป็นได้ เรียกได้ว่าเป็นระบบการเงินใหม่ที่เข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับคนไทยควบคู่กับระบบการเงินเดิมที่มีอยู่
ส่วนตลาดทุนดิจิทัล ประเด็นนี้ไม่ค่อยถูกพูดถึงมากนัก จึงขอวิเคราะห์จากเทคโนโลยีและกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันที่ประเทศไทยเป็นหลัก โดยเรามี พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล ที่ออกใบอนุญาตผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขาย นายหน้าและผู้ค้า สินทรัพย์ดิจิทัล ตลอดจนผู้เสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือ ICO Portal ที่จะสามารถรองรับการทำงานร่วมกันกับดิจิทัลวอลเล็ตแห่งชาติในอนาคตนี้ได้ เพราะมีเทคโนโลยีเบื้องหลังคือบล็อกเชน
แต่ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องเพิ่มบล็อกเชนที่เป็นของดิจิทัลวอลเล็ตแห่งชาตินี้ลงไปเพราะ Exchange เกือบทั้งหมดจะรองรับ Public Blockchain อย่าง Bitcoin และ Ethereum เป็นหลัก
ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนถ้าจะเรียกว่าตลาดทุนดิจิทัลใหม่นี้ช่วยยกระดับการลงทุนให้กับคนไทย ดิจิทัลวอลเล็ตนี้จะต้องเป็นช่องทางให้ผู้ใช้งานสามารถลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆในรูปแบบของโทเคนดิจิทัลได้อย่างสะดวกภายใต้กฎหมายที่รองรับ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ พันธบัตร หุ้นกู้ ฯลฯ
ด้วยคุณสมบัติของบล็อกเชนสามารถที่จะจัดสัดส่วนของสินทรัพย์ให้มีการกระจายความเป็นเจ้าของเป็นส่วนย่อยได้หรือ Fractional Ownership เช่นจากเดิมที่ต้องซื้อพันธบัตรรัฐบาลขั้นต่ำหลักหมื่นบาทหากใช้บล็อกเชนก็จะสามารถใช้เงินเพียงหลักร้อนหรือหลักพันบาทก็สามารถเริ่มต้นลงทุนได้และยังเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายได้ นี้คือการใช้ประโยชน์จากบล็อกเชนเพื่อยกระดับตลาดทุนเข้าสู่ดิจิทัลจริง
ส่วนจะเป็นช่องทางให้ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็น Decentralized อย่าง Bitcoin ได้ด้วยหรือไม่ เรื่องนี้ต้องแล้วแต่มุมมองของรัฐบาลใหม่
โดยรวมแล้วดิจิทัลวอลเล็ตแห่งชาติมีโอกาสที่จะช่วยยกระดับตลาดเงินและตลาดทุนของไทยได้ โดยภาครัฐสามารถเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบการเงินใหม่นี้ด้วยกันตลอดจนกฎหมายที่ต้องรองรับต่อการพัฒนาและกำกับดูแลอย่างประสิทธิภาพด้วย
ปล.มุมมองของผู้เขียนในบทความนี้ต้องการชี้ให้เห็นถึงข้อดีของระบบเทคโนโลยีที่ดิจิทัลวอลเล็ตสามารถทำได้เท่านั้น ไม่ได้หมายถึงมุมมองที่มีต่อนโยบายของพรรคการเมืองใดก็ตามแต่อย่างไร และมุมมองนี้เป็นเฉพาะบุคคลไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานหรือองค์กรใดที่ผู้เขียนมีส่วนร่วมแต่อย่างไร
อ่านบทความเพิ่มเติมที่ : https://moneyandbanking.co.th/2023/56082/
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
