29 ส.ค. 2023 เวลา 08:58 • ประวัติศาสตร์

“ทฤษฎีโลกกลวง (Hollow Earth Theory)” ทฤษฎีที่เชื่อว่ามีอารยธรรมใต้พิภพ

“ทฤษฎีโลกกลวง (Hollow Earth Theory)” เป็นทฤษฎีที่แปลกประหลาดทฤษฎีหนึ่ง
1
เรื่องราวเป็นยังไง ลองมาดูกันครับ
เรื่องราวของทฤษฎีโลกกลวง สามารถย้อนกลับไปได้ตั้งแต่สมัยโบราณ โดยในสมัยกรีกโบราณก็มีเรื่องเล่าของโลกใต้พื้นดิน อีกทั้งยังมีเรื่องเล่าของชาวนอร์เวย์เกี่ยวกับดินแดนใต้แสงเหนืออีกด้วย
1
แต่เรื่องเกี่ยวกับทฤษฎีโลกกลวงเริ่มเป็นที่แพร่หลายจริงๆ ก็ในสมัยศตวรรษที่ 17
หนึ่งในผู้ที่เสนอเรื่องทฤษฎีโลกกลวง ก็คือ "เอ็ดมอนด์ ฮัลเลย์ (Edmond Halley)" นักดาราศาสตร์ชื่อดังผู้คำนวณการโคจรของดาวหางชื่อดัง
ฮัลเลย์เสนอแนวคิดว่าโลกนั้นประกอบไปด้วยเปลือกโลกที่ภายในมีพื้นที่กว้างขวางพอสำหรับผู้คนจะพักอาศัย
เอ็ดมอนด์ ฮัลเลย์ (Edmond Halley)
ต่อมาเมื่อถึงศตวรรษที่ 19 "จอห์น คลีฟส์ ซิมมส์ จูเนียร์ (John Cleves Symmes Jr.)" ทหารชาวอเมริกัน ได้เขียนและบรรยายเรื่องราวของทฤษฎีโลกกลวง โดยกล่าวว่าโลกนั้นมีลักษณะกลวง และสามารถเข้าไปยังใต้ดินได้ผ่านทางเข้าในแถบขั้วโลก
จากนั้น ทฤษฎีโลกกลวงก็โด่งดัง ทำให้หลายคนอยากพิสูจน์ว่าทฤษฎีนี้เป็นจริงหรือไม่ โดยเมื่อถึงต้นศตวรรษที่ 20 "ริชาร์ด อี. บายด์ (Richard E. Byrd)" ทหารเรือและนักสำรวจชาวอเมริกัน ได้วางแผนการสำรวจขั้วโลก และจากบันทึกของบายด์ ก็มีการบันทึกว่าคณะของตนได้เดินทางไปถึงแกนในของโลก และพบกับอารยธรรมที่รุ่งเรืองใต้ผืนน้ำแข็ง
หากแต่ในชุมชนวิทยาศาสตร์ กลับไม่ได้ให้ค่าทฤษฎีนี้มากเท่าไรนัก
จากลักษณะทางภูมิศาสตร์ ข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม และข้อมูลต่างๆ ทำให้ทฤษฎีนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เป็นเพียงแค่นิทานที่เล่ากันปากต่อปากมาเป็นเวลายาวนานเท่านั้น
แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนสนใจในทฤษฎีนี้ก็คือเรื่องเล่าถึงอารยธรรมลึกลับแต่รุ่งเรืองที่ซ่อนอยู่ใต้พิภพ โดยที่ถูกกล่าวถึงบ่อยที่สุดก็คือ "อาณาจักรอาการ์ธา (Agartha)" เมืองในอุดมคติที่รุ่งเรืองซึ่งซุกซ่อนอยู่ใต้เทือกเขาหิมาลัย โดยว่ากันว่าอาณาจักรอาการ์ธามีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำหน้ากว่าผู้คนในยุคเดียวกัน
1
และทฤษฎีนี้ยังทำให้นักเขียนหลายคนนำไปเขียน แต่งเป็นนิยายจำนวนมาก และก็ยังเป็นที่พูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าโอกาสเป็นไปได้จะแทบไม่มีเลยก็ตาม
โฆษณา