1 ก.ย. 2023 เวลา 23:00 • ประวัติศาสตร์

ฮันนิบาล บาร์กา คู่อาฆาตของโรมัน

Hannibal Barca เป็นผู้บัญชาการทหาร Carthaginian และเป็นหนึ่งในนายพลที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยโบราณ เขาเกิดเมื่อ 247 ปีก่อนคริสตกาลในเมืองคาร์เธจ ซึ่งเป็นนครรัฐที่ทรงอำนาจ ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เรียกว่าตูนิเซียในปัจจุบัน เขาเป็นที่รู้จักกันดีจากการเป็นผู้นำในช่วงสงครามพิวนิกครั้งที่สอง (218-201 ปีก่อนคริสตกาล) กับจักรวรรดิโรมัน
ชีวิตในวัยเด็ก
ฮันนิบาลมาจากตระกูลคาร์ธาจิเนียนที่มีชื่อเสียง โดยมีฮามิลการ์ บาร์กา พ่อของเขาเป็นผู้บัญชาการทหารที่มีทักษะ ฮันนิบาลเติบโตขึ้นมาโดยได้รับอิทธิพลทางการทหารมาจากบิดา และต้องเผชิญกับสงครามตั้งแต่อายุยังน้อย
อาณาเขตของเมืองต่างๆ 218-201 ปีก่อนคริสตกาล
คำสาบานของฮันนิบาล
เมื่อตอนเป็นเด็ก ฮันนิบาลสาบานว่าจะเกลียดชังโรมชั่วนิรันดร์ เนื่องจากความขัดแย้งที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องระหว่างคาร์เธจและโรม กล่าวกันว่าคำสาบานนี้มีอิทธิพลต่อการกระทำของเขาตลอดชีวิต ฮันนิบาลได้รับกองทัพเป็นมรดกจากบิดา และทรัพย์สมบัติเงินทองสำหรับใช้บำรุงกองทัพ ไม่ต่างกับพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชที่ได้รับกองทัพมาซิโดเนียจากพระเจ้าฟิลิป พระราชบิดา
ฮันนิบาลมีจิตใจรุกรบ และนิยมการรบด้วยวิธีการรุก คิดที่จะโจมตีกรุงโรมก่อนที่ทางโรมจะโจมตีแผ่นดินแม่ของคาร์เธจในแอฟริกา เมื่อเวลานั้นได้มาถึง เมื่อเมืองซากุนตุมเกิดข้อขัดแย้งกับเมืองเล็กๆ ใกล้เคียง ซากุนตุมได้ร้องขอให้กรุงโรมช่วยเหลือเพราะเป็นพันธมิตร ฮันนิบาลจึงประกาศช่วยเหลือเมืองเล็กๆนั้น
ภาพเหตุการณ์ข้ามเทือกเขาแอลป์ไปยังอิตาลี ในสงครามพิวนิกครั้งที่สอง
ในตอนนั้น กรุงโรมได้ส่งกองทัพบก กองทัพเรือไปปรามปรามอาณานิคมในแคว้นอิลลีเรีย (lllyria) ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของทะเลอาเดรียติก ฮันนิบาลจึงตัดสินใจเข้าโจมตีซากุนตุนในปี 219 ก่อนคริสตกาล หลังจากล้อมอยู่ไม่นาน ทัพคาร์เธจก็พิชิตซากุนตุนได้สำเร็จ ทางกรุงโรมทราบข่าวก็ไม่พอใจอย่างมาก แต่เนื่องจากไม่ต้องการทำสงคราม ดังนั้น ทางสภาโรมจึงสั่งให้คาร์เธจส่งตัวฮันนิบาลไปยังกรุงโรม แน่นอนว่าทางคาร์เธจได้ปฏิเสธและระดมกองทัพทันที ก่อให้เกิดสงครามพิวนิกครั้งที่สอง
สงครามพิวนิกครั้งที่สอง
ความสำเร็จที่สำคัญที่สุดของฮันนิบาลเกิดขึ้นในช่วงสงครามพิวนิกครั้งที่สอง เขามีชื่อเสียงจากการเป็นผู้นำกองทัพ ประกอบไปด้วย ทหารราบคาร์เธจและสเปน 70,000 นาย ทหารม้านูมิเดียน 12,000 นาย และช้างศึกหุ้มเกาะ 40 เชือก ข้ามเทือกเขาแอลป์ไปยังอิตาลี ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่เสี่ยงอันตรายมาก ระหว่างที่ข้ามเทือกกำลังพลและช้างศึกตกผาเป็นจำนวนมาก แต่ผลจากความกล้าและระห่ำนี้เองที่ทำให้ชาวโรมันประหลาดใจ เมื่ออยู่ๆมีฝูงช้างวิ่งเข้ามาถลุ่มกองทัพโรมันนำชัยชนะการรบมาสู่กองทัพฮันนิบาล
ยุทธการที่กันไน
ยุทธการที่กันไน
216 ปีก่อนคริสตกาล ถือเป็นยุทธการที่สำคัญในสงครามพิวนิกครั้งที่สอง ฝ่ายโรมันตัดสินใจประจัญกับฮันนิบาลที่กันไน ด้วยกำลังพลโรมันและพันธมิตรราว 86,000 นาย ฝ่ายโรมันกระจุกทหารราบหนักในรูปขบวนลึกกว่าปกติ เมื่อฮันนิบาลใช้ยุทธวิธีตีโอบสองชั้น (double-envelopment) ซึ่งประสบความสำเร็จจนกองทัพโรมันถูกทำลายลงโดยสิ้นเชิง หลังความปราชัย นครรัฐอิตาลีอื่นๆอีกหลายแห่งแปรพักตร์จากสาธารณรัฐโรมันไปเข้ากับคาร์เธจ
1
การตอบโต้ของโรมัน
แม้ว่าฮันนิบาลจะประสบความสำเร็จจากหลายครั้ง แต่ในที่สุดฮันนิบาลก็ถูกเรียกตัวไปที่คาร์เธจเพื่อป้องกันการโจมตีของโรมันในแอฟริกาเหนือ สุดท้ายเขาก็ต้องพบกับคู่ปรับของเขา คือ นายพลชาวโรมัน สคิปิโอ อัฟริกานัส สคิปิโอได้ศึกษากลยุทธ์
ของจอมทัพฮันนิบาลผู้นี้ จนเข้าใจทะลุปรุโปร่ง อีกทั้งยังลอบติดต่อกับชาวนูมิเดียนและซื้อตัวพวกนั้นมาเป็นทหารม้าของโรม เพื่อตัดกำลังฝ่ายคาร์เธจ
นายพลชาวโรมัน สคิปิโอ อัฟริกานัส
ทำให้กองทัพของคาร์เธจต้องเสียกองทหารม้าชั้นยอดไป อีกทั้งทหารที่มีในคราวนี้ ส่วนใหญ่เป็นทหาร ที่เพิ่งถูกเกณฑ์มา ยังขาดประสบการณ์ในการรบ ผิดกับฝ่ายโรมัน ที่ล้วนเป็นทหารชำนาญศึก สุดท้ายนายพลชาวโรมันก็เอาชนะฮันนิบาลได้ในยุทธการที่ซามาเมื่อ 202 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งยุติสงครามพิวนิกครั้งที่สองลงได้
ความพ่ายแพ้ที่ซามา ทำให้คาร์เธจต้องยอมสงบศึกกับโรมและต้องยกดินแดนในคาบสมุทรไอบีเรียให้โรมันเป็นค่าปฏิกรรมสงคราม อีกทั้งถูกจำกัดจำนวนกองเรือลง ทว่าแม้จะพ่ายศึก แต่ฮันนิบาลก็สามารถฟื้นฟูคาร์เธจได้อย่างรวดเร็ว ทำให้โรมจับตามองอย่างไม่ไว้ใจ
รูปปั้นครึ่งตัวของ ฮันนิบาล ที่เป็นทองสัมฤทธิ์ ซึ่งอาจจะเป็นผลงานของนโปเลียน ค.ศ. 1815 มหาวิทยาลัยซัสแคตเชวัน
จนกระทั่งในปีที่ 14 หลังสงครามที่ซามา ทางสภาแห่งโรมได้สั่งให้คาร์เธจส่งตัวฮันนิบาลให้แก่โรม ทว่า  ฮันนิบาลได้พาครอบครัวหนีไปอยู่ที่เมืองไทร์ (ปัจจุบันอยู่ในเลบานอน) ซึ่งเป็นเมืองแม่ของคาร์เทจ (ชาวฟินิเชียนจากเมืองไทร์เป็นผู้ก่อตั้งเมืองนี้)และจากนั้นจึงเดินทางไปที่เมืองเอเฟซุส (ปัจจุบันอยู่ในตุรกี)
วาระสุดท้าย
ภายหลังฮันนิบาลได้ขอลี้ภัยกับพระเจ้าปรูซีอัสที่ 1 (Prusias I) แห่งบิทิเนีย ฮันนิบาลได้ช่วยพระองค์รบกับกองทัพจากเมืองเปอร์กามอนซึ่งเป็นพันธมิตรของโรมัน เมื่อทางโรมันทราบเรื่องก็กดดันให้พระเจ้าปรูซีอัสที่ 1 ทรงส่งมอบตัวฮันนิบาลให้กับทางโรมัน ฮันนิบาลจึงตัดสินใจดื่มยาพิษในปี 183 ก่อนคริสตกาล ที่เมืองลิบิสซา ริมชายฝั่งตะวันออกของทะเลมาร์มะรา
คำสาบานของฮันนิบาล โดย John West ค.ศ. 1770
กลยุทธ์และยุทธวิธีทางทหารของฮันนิบาลยังคงได้รับการศึกษาในสถาบันการทหารจนถึงทุกวันนี้ การข้ามเทือกเขาแอลป์อย่างกล้าหาญและยุทธวิธีในสนามรบที่สร้างสรรค์ของเขามักถูกอ้างถึงเป็นตัวอย่างของอัจฉริยะในประวัติศาสตร์การทหาร แม้ว่าเป้าหมายสูงสุดของเขาในการเอาชนะโรมจะไม่บรรลุเป้าหมาย
แต่ตลอดเวลา 15 ปี ที่เขาทำสงครามในดินแดนโรมันเขาไม่เคยแพ้ เขาในฐานะผู้นำทางทหารที่เก่งกาจและบทบาทของเขาในการกำหนดเส้นทางของประวัติศาสตร์โบราณยังคงมีความสำคัญถึงปัจจุบัน
ฝากกดถูกใจ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
Reference ฮันนิบาล บาร์กา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา