29 ส.ค. 2023 เวลา 11:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เทคโนโลยีการเงิน = กระดูกสันหลังภาคการเงินและธุรกิจ?

ในเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีน อินเดีย และอินโดนีเซีย จะกลายเป็นตลาดฟินเทคที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี ค.ศ. 2030 สร้างรายได้รวมเกือบ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีถึง 27%
[#FinTech] การให้บริการทางการเงินเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจโลก สามารถสร้างรายได้ทั่วโลก 12.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และทำกำไรสุทธิได้อย่างน้อยปีละ 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (18.4% ของรายได้) สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของตลาดเทคโนโลยีทางการเงินหรือฟินเทค (Financial Technology: FinTech) ซึ่งกำลังเข้ามามีบทบาทในภาคการเงินมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
และแม้ว่าตลาดคริปโทเคอร์เรนซีจะเป็นตลาดที่มีความผันผวนสูง แต่เทคโนโลยีการเงินซึ่งเป็นกลไกที่เบื้องหลังกลับกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันทั่วโลกมีบริษัทด้านฟินเทคมากกว่า 2.6 หมื่นแห่ง มีการคาดการณ์ว่าภายในปี ค.ศ. 2025 ตลาดฟินเทคจะมีขนาดใหญ่ถึง 1.24 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีอัตราเติบโตทบต้นต่อปีถึง 23.84% สะท้อนภาพความต้องการของทุกภาคส่วนต่อการครอบครองครองนวัตกรรมและบริการทางการเงินที่รวดเร็วและสะดวกสบายมากกว่าเดิม
นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมฟินเทคจะสามารถสร้างรายได้ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีภายในปี ค.ศ. 2030 ในฐานะตัวช่วยให้บริการนอกระบบธนาคาร เป็นเครื่องมือสำหรับการชำระเงินรูปแบบใหม่ และเป็นกลไกสำคัญเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำให้นักวิเคราะห์จำนวนมากมองว่าสกุลเงินและโทเคนดิจิทัลเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเศรษฐกิจใหม่นี้เท่านั้น
จุดสำคัญที่จะทำให้ตลาดเทคโนโลยีทางการเงินสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วคือ การขยับไปสู่ B2B2X หรือการให้บริการทั้งกลุ่มลูกค้าองค์กรซึ่งให้บริการผู้บริโภครายย่อย (Business-Business-Customer: B2B2C) และลูกค้าองค์กรที่ให้บริการธุรกิจอื่น (Business-Business-Business: B2B2B) ความสามารถในการให้บริการกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายเพื่อผสมผสานโลกการเงินเดิม และโลกดิจิทัลผ่านวิธีการต่าง ๆ
เช่น การร่วมมือกับสตาร์ทอัพด้านการเงินเพื่อนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ ควอนตัมคอมพิวเตอร์ บล็อกเชน อินเทอร์เน็ต เป็นต้น มายกระดับขีดความสามารถขององค์กรขนาดใหญ่ วิสาหกิจระดับเล็กและระดับกลาง (SME) และสตาร์ทอัพอื่นเพื่อให้ระบบการให้บริการทางการเงินถูกขับเคลื่อนได้อย่างไร้รอยต่อ
ลดความเสี่ยง เพิ่มโอกาสการทำงานและการต่อยอดทางธุรกิจ โดยผสมผสานความสามารถในการทำธุรกรรมไปในระบบการทำงานของทุกองค์กรทั้งในและนอกภาคการเงินจนกลายเป็นเรื่องปกติ จะทำให้ทุกมิติของการใช้ชีวิตของผู้คนในอนาคตสามารถทำธุรกรรมการเงินทุกระดับได้อย่างลื่นไหล
ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกกำลังพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการเงินและการธนาคารอย่างจริงจัง เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัยกำหนดอนาคตเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว มีการคาดการณ์ว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีน อินเดีย และอินโดนีเซีย จะกลายเป็นตลาดฟินเทคที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี ค.ศ. 2030 สร้างรายได้รวมเกือบ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีถึง 27%
ในขณะที่ทวีปแอฟริกาก็กำลังถูกมองว่าจะเป็นศูนย์กลางระบบนิเวศทางการเงินแห่งใหม่ ปัจจุบัน 70% ของเศรษฐกิจในทวีปแอฟริกาถูกขับเคลื่อนด้วยวิสาหกิจรายย่อย (micro, small, and medium-sized businesses: MSMEs) ) ซึ่งรองรับงานกว่า 80% ของทั้งทวีป สตาร์ทอัพกว่า 34% ในแอฟริกาที่กำลังขยายธุรกิจคือสตาร์ทอัพด้านฟินเทค ทั้งยังมีการคาดการณ์ว่าตลาดการให้บริการทางการเงินในแอฟริกาจะสามารถสร้างรายได้มากกว่า 2.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี ค.ศ. 2025
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศไนจีเรียซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะกลายเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก (ประมาณ 5.5 ร้อยล้านคน) ภายในปี ค.ศ. 2100 และกลายเป็นอีกหนึ่งชัยภูมิสำคัญที่เต็มไปด้วยโอกาสสำหรับอุตสาหกรรมฟินเทคในอนาคต
นัยยะสำคัญที่มีต่ออนาคต:
- ความพร้อมด้านระบบโครงสร้างทางการเงินกลายเป็นข้อเปรียบเทียบใหม่ของประเทศและศูนย์กลางเศรษฐกิจ
- เกิดการเติบโตของธุรกิจคนเดียว ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจขนาดเล็ก และธุรกิจขนาดกลางมากขึ้นจากการปลดล็อกศักยภาพการให้บริการทางการเงิน
- เกิดการไหลเข้าของแรงงานศักยภาพสูงจากหลายอุตสาหกรรมเข้าสู่ภาคการเงินและเศรษฐกิจดิจิทัล เกิดการกระตุ้นการผสมผสานบริการทางการเงินเข้ากับการดำเนินการของอุตสาหกรรมต่าง ๆ
อ้างอิงจาก
-Global Fintech 2023: Reimagining the Future of Finance https://www.bcg.com/publications/2023/future-of-fintech-and-banking
-Technologies that Shaping the Future of FinTech Industry https://radixweb.com/blog/technologies-shaping-the-future-of-fintech
#FuturePossible #FutureofLiving #FutureofTech #FutureTalesLab #MQDC
โฆษณา