30 ส.ค. 2023 เวลา 01:26 • ข่าว

ความ (สิ้น) หวังการศึกษาไทย ?

โผ ครม.เศรษฐา 1 มีชื่อ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ น้องชายคุณเนวิน พี่ชายคุณศักดิ์สยาม มาจับจองเก้าอี้เสมา 1 (กระทรวงศึกษาธิการ) ซึ่งหนีไม่พ้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องคุณสมบัติและประสบการณ์ ไม่ต่างจากอีกหลาย ๆ ท่านที่มีชื่อนั่งเก้าอี้กระทรวงอื่น ๆ
ยศหน้าชื่อก็บ่งบอกชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นตำรวจ ผู้บังคับใช้กฎหมาย ตามประวัติด้านการศึกษาคุณเพิ่มพูนจบด้านกฎหมาย ตลอดอายุราชการเท่าที่ค้นดูก็ไม่ได้มีตำแหน่งแห่งหนในองค์กรตำรวจที่เกี่ยวกับด้านการศึกษา
มาถึงจุดนี้ ผลจาก โผ ครม.เศรษฐา 1 คงมีทั้งเสียงยี้ เสียงเย่ ส่วนเสียงไหนจะอึงมี่กว่ากัน ฝากข้อมูลให้ช่วยกันพิจารณา
ผมอยากจะพาย้อนอดีตกลับไปดูร่องรอยจากประวัติศาสตร์การเมืองเฉพาะเก้าอี้ รมว.ศึกษา เสียหน่อย
รายงานวิจัย โครงการวิจัยเพื่อศึกษากระบวนการกำหนดนโยบายทางการศึกษาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของประเทศไทยผ่านมุมมองเศรษฐศาสตร์วถาบัน จัดทำโดย ธร ปีติดล และคณะ ศูนย์วิจัยความเหลื่อมล้ำและนโยบายสังคม (CRISP) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ธ.ค.2565) พบว่า
25 ปี ตั้งแต่ปี 2540 สมัยรัฐบาลชวน 2 ถึง ปี 2564 สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 1 มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รวม 21 คน เฉลี่ยวาระดำรงตำแหน่งนี้ประมาณ 13 เดือน หรือ 1 ปี เท่านั้น ถือว่าค่อนข้างสั้นเมื่อเทียบกับลักษณะงานด้านการศึกษา
นอกจากนี้ยังพบว่า รัฐบาลที่มาจากเลือกตั้ง ผู้ที่มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการนั้น แทบทั้งหมดเป็นนักการเมืองหรือทีมนโยบายของพรรคแกนนำรัฐบาลได้รับโควตากระทรวงศึกษาธิการ โดยมีเพียง 4 คนที่มีภูมิหลังด้านบริหารการศึกษา คือ ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาดำรงเวช และนายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ แต่ทั้ง 4 คนก็อยู่ในตำแหน่งไม่นาน
แล้วรัฐบาลที่มาจาการรัฐประหารมีแนวโน้มจะให้ตำแหน่ง รมว.ศึกษากับผู้มีภูมิหลังด้านการบริหารมากกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
คร่าว ๆ ประมาณนี้น่าจะพอประเมินได้ว่า เสียงเย่ หรือเสียงยี้ อะไรจะดังกว่า ถ้าหูไม่หนวกคงได้ยินกัน.
(ขอบคุณภาพจาก PPTV HD 36)
โฆษณา