31 ส.ค. 2023 เวลา 01:15 • ธุรกิจ

MI คาด "อุตฯโฆษณา"ปี 66 ทะลุ 8.3 หมื่นลบ. หวังนโยบายเศรษฐาดันเม็ดเงินปีหน้าโต 5%

นายภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือ MI เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมโฆษณา ปี 2566 คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัก 83,031 ล้านบาท เติบโต 2.5% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อช่วงต้นปีที่ประมาณการขยายตัวไว้ที่ 5%
📌ทิศทางเม็ดเงินโฆษณาเป็นไปตามที่เคยคาดการณ์ไว้ สื่อทีวีเข้าสู่ขาลงต่อเนื่อง โดยปีนี้น่าจะอยู่ที่ 36,199 ล้านบาท ลดลง -1% เมื่อเทียบกับปี 2565
โดยตัวขับเคลื่อนหลักของสื่อทีวี คือ คอนเทนต์รายการประเภทข่าว วิเคราะห์ข่าวและละคร ซึ่งปีนี้กลับมาคึกคักเป็นพิเศษ ส่วนรายการประเภทอื่นค่อนข้างถดถอยและถูกท้าทายอย่างต่อเนื่องหลัก ๆ โดยคอนเทนต์บน Social & Streaming Platforms
“สื่อทีวี มีแนวโน้มถดถอยไปถึงในจุดตัดระดับเดียวกับเม็ดเงินสื่อดิจิทัลในปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 27,000 ล้านบาท ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า หรือราวปี 2567-2568 ปัจจัยหลักมาจากการแย่งชิงชิงสายตาคนดู (eyeball) จากแพลตฟอร์มสตรีมมิงและOTT ในปัจจุบัน”
📌ส่วนสื่อดิจิทัลและสื่อนอกบ้าน (Out of Home & Transit : OOH) ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีอัตราการเติบโตอย่างน้อย +7% และ +10% ตามลำดับ
สำหรับเม็ดเงินสื่อดิจิทัลที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ถูกขับเคลื่อนจาก 2-3 แพลตฟอร์ม หลักคือ Meta และ YouTube ส่วน TikTok เป็นอีกแพลตฟอร์ม ที่น่าจับมองในแง่การเติบโตของเม็ดเงินโฆษณาและมีผลกะทบในเชิง Full-Funnel Solution
โดย MI GROUP คาดผู้ใช้งานเป็นประจำในไทยทะลุมากกว่า 30 ล้านคน (monthly users base 49.3M users info by TikTok) โดยมีเหล่าครีเอเตอร์ (Influencers) เป็นตัวขับเคลื่อนหลักในยุคเศรษฐกิจอีคอมเมิร์ซ (e-commerce economy) เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้สื่อดิจิตัลคึกคักและเติบโตต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสื่ออื่น ๆ แม้จะมีบทบาทน้อยลง แต่ยังคงมีบทบาทในการสื่อสารและสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างกันไปกับแต่ละกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ
ทั้งนี้ การเติบโตของอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาที่ลดลงกว่าคาดการณ์ เป็นผลจากความท้าทายและปัจจัยลบตลอด 8 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา อาทิ อัตราการเติบโต GDP ต่ำกว่าคาดการณ์ (กรอบ 3%) เงินเฟ้อสินค้าราคาแพง หนี้ครัวเรือนสูงขึ้น ภาคส่งออกติดลบ การเมืองยังไม่นิ่ง ฉุดความเชื่อมั่นและความต้องการสินค้าในตลาดต่ำ
ส่วนปัจจัยบวกยังมีไม่มาก คือ การฟื้นตัวการท่องเที่ยว ต่างชาติเดินทางเข้าไทย ส่งผลไปยังธุรกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงปัจจัยบวกใหม่ หลังจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ และโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี (เศรษฐา1)
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีปัจจัยอื่น ส่งผลต่อการเมืองและรัฐบาลใหม่ หรือมีนโยบายบางอย่างที่ประกาศว่าจะทำเลยหลังรัฐบาลใหม่เข้าบริหารประเทศภายในปลายเดือนกันยายน เช่น การปรับลดราคาเชื้อเพลิง ค่าครองชีพเช่น ค่าเดินทาง ค่ารักษาพยาบาล
รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ทุกคนเฝ้ารอน่าจะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาด ในช่วงต้นปีหน้าเป็นอย่างเร็ว เช่น เงินดิจิทัล 10,000 บาท หรืออาจส่งผลได้ในระยะเวลาอีกหลายปี เช่น ค่าแรงขั้นต่ำ เงินเดือนนักศึกษาจบใหม่ เงินเดือนข้าราชการ ซอฟต์พาวเวอร์ เป็นต้น
📌โดยในปีหน้า MI Group มองว่าในปี 2566 ยังมีหลายปัจจัยกระทบที่ยังไม่นิ่งในอุตสาหกรรมสื่อโฆษณา สำหรับปัจจัยบวก คือ ภาคการท่องเที่ยวที่จะยังดีอยู่ และความคืบหน้านโยบายด้านเศรษฐกิจ ส่วนปัจจัยลบ คือ การถดงถอยต่อเนื่องของสื่อดั้งเดิม (เช่น ทีวี, สิ่งพิมพ์, วิทยุ ผลกระทบจากการเข้ามาของ เอไอ ผลักดันให้ในปีหน้าเติบโตไม่เกิน +5%
โดย 3 อันดับแรกสื่อโฆษณาที่จะยังเติบโตต่อเนื่อง คือ สื่อดิจิทัล สื่อนอกบ้านและสื่อเคลื่อนที่ (Out of Home & Transit) ส่วนสื่อที่เหลือคาดจะเติบโตคงที่หรือถดถอย
อ่านบทความเพิ่มเติมที่ : https://moneyandbanking.co.th/2023/58212/
โฆษณา