Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
59 วิ ปิดการขาย
•
ติดตาม
31 ส.ค. 2023 เวลา 01:39 • ธุรกิจ
วิธีเอาชนะอคติทางจิตวิทยาของลูกค้า
ในทุกๆขาย สิ่งที่คนขายต้องเจออยู่เป็นประจำคืออคติทางจิตวิทยาของลูกค้า
อคติเหล่านี้เป็นความคิดหรือความเชื่อที่ผิดๆ ที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการโดยไม่ได้พิจารณาถึงความเป็นจริง อคติเหล่านี้อาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ประสบการณ์ส่วนตัว ความเชื่อทางศาสนา หรือค่านิยมทางสังคม
อคติทางจิตวิทยาของลูกค้า มีดังนี้
1.
อคติแบบ Confirmation Bias คือ การมองหาข้อมูลหรือหลักฐานที่สนับสนุนความเชื่อเดิมของตนเอง และละเลยข้อมูลหรือหลักฐานที่ขัดแย้งกับความเชื่อนั้นๆ
2.
อคติแบบ Anchoring Bias คือ การยึดติดกับข้อมูลแรกที่ได้รับ และใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการตัดสินข้อมูลอื่นๆ
3.
อคติแบบ Status Quo Bias คือ แนวโน้มที่จะเลือกสิ่งเดิมๆ ซ้ำๆ เพราะรู้สึกสบายใจและปลอดภัย
4.
อคติแบบ Social Proof Bias คือ การเชื่อในสิ่งที่คนส่วนใหญ่เชื่อ
5.
อคติแบบ Loss Aversion Bias คือ ความกลัวที่จะสูญเสียมากกว่าความคาดหวังที่จะได้กำไร
วิธีเอาชนะอคติทางจิตวิทยาของลูกค้าแต่ละแบบ
●
เข้าใจอคติทางจิตวิทยาของลูกค้า นักขายควรเข้าใจอคติทางจิตวิทยาของลูกค้าแต่ละประเภท เพื่อให้สามารถคาดการณ์และเตรียมรับมือกับอคติเหล่านั้นได้
●
นำเสนอข้อมูลอย่างเป็นกลาง นักขายควรนำเสนอข้อมูลอย่างเป็นกลางและครบถ้วน เพื่อให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล
●
สร้างประสบการณ์ที่ดี นักขายควรสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจและตัดสินใจซื้อ
ตัวอย่างวิธีการเอาชนะอคติทางจิตวิทยาของลูกค้าแต่ละแบบ
1.อคติแบบ Confirmation Bias
สมมติว่านักขายกำลังขายรถมือสองให้กับลูกค้าคนหนึ่ง ลูกค้าคนนั้นต้องการซื้อรถที่ประหยัดน้ำมัน นักขายพยายามนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับรถคันนั้นว่าประหยัดน้ำมันมาก แต่ลูกค้ากลับไม่ยอมตัดสินใจซื้อ
สาเหตุที่ลูกค้าไม่ยอมตัดสินใจซื้ออาจเป็นเพราะลูกค้ามีอคติแบบ Confirmation Bias อยู่ โดยลูกค้าอาจเคยได้ยินว่ารถรุ่นนั้นประหยัดน้ำมันน้อยกว่าที่คิด ลูกค้าอาจฝังใจกับความเชื่อนั้นไปแล้วจึงมองหาข้อมูลหรือหลักฐานที่ยืนยันความเชื่อเดิมของตนเอง และละเลยข้อมูลหรือหลักฐานที่ขัดแย้งกับความเชื่อนั้นๆ
เพื่อเอาชนะอคตินี้ นักขายควรนำเสนอข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ข้อมูลเปรียบเทียบการประหยัดน้ำมันของรถคันนั้นกับรถรุ่นอื่นๆ หรือข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีประหยัดน้ำมันที่รถรุ่นนั้นใช้อยู่
2.อคติแบบ Anchoring Bias
สมมติว่านักขายกำลังขายคอมพิวเตอร์ให้กับลูกค้าคนหนึ่ง ลูกค้าคนนั้นต้องการซื้อคอมพิวเตอร์ที่มีราคาไม่เกิน 10,000 บาท นักขายพยายามนำเสนอคอมพิวเตอร์ที่มีราคา 10,000 บาท ให้กับลูกค้า แต่ลูกค้ากลับไม่ยอมตัดสินใจซื้อ
สาเหตุที่ลูกค้าไม่ยอมตัดสินใจซื้ออาจเป็นเพราะลูกค้ามีอคติแบบ Anchoring Bias อยู่ โดยลูกค้าอาจเคยได้ยินว่าคอมพิวเตอร์ราคา 10,000 บาท มีสเปคไม่ดี ดังนั้นลูกค้าจึงยึดติดกับราคา 10,000 บาท และใช้ราคานั้นเป็นตัวตั้งต้นในการตัดสินคอมพิวเตอร์รุ่นอื่นๆ
เพื่อเอาชนะอคตินี้ นักขายควรนำเสนอคอมพิวเตอร์ที่มีราคาต่ำกว่า 10,000 บาท โดยเน้นที่คุณสมบัติและประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ เพื่อให้ลูกค้าเห็นคุณค่าของคอมพิวเตอร์รุ่นนั้นๆ
3.อคติแบบ Status Quo Bias
สมมติว่านักขายกำลังขายประกันชีวิตให้กับลูกค้าคนหนึ่ง ลูกค้าคนนั้นกำลังใช้บริการประกันชีวิตกับบริษัทอื่นอยู่แล้ว นักขายพยายามนำเสนอประกันชีวิตของบริษัทของตนเองให้กับลูกค้า แต่ลูกค้ากลับไม่ยอมตัดสินใจเปลี่ยนบริษัทประกัน
สาเหตุที่ลูกค้าไม่ยอมเปลี่ยนบริษัทประกันอาจเป็นเพราะลูกค้ามีอคติแบบ Status Quo Bias อยู่ โดยลูกค้าอาจรู้สึกว่าการใช้บริการประกันชีวิตกับบริษัทเดิมนั้นสบายใจและปลอดภัย ดังนั้นลูกค้าจึงเลือกที่จะไม่เปลี่ยนแปลงอะไร
เพื่อเอาชนะอคตินี้ นักขายควรนำเสนอข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า เช่น การลดเบี้ยประกัน หรือการเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าการเปลี่ยนไปใช้บริการกับบริษัทของตนเองนั้นคุ้มค่ากว่า
4.อคติแบบ Social Proof Bias
สมมติว่านักขายกำลังขายสินค้าใหม่ให้กับลูกค้าคนหนึ่ง ลูกค้าคนนั้นไม่รู้ว่าสินค้านั้นดีหรือไม่ดี นักขายพยายามนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้านั้นๆ ให้กับลูกค้า แต่ลูกค้ากลับไม่ยอมตัดสินใจซื้อ
สาเหตุที่ลูกค้าไม่ยอมตัดสินใจซื้ออาจเป็นเพราะลูกค้ามีอคติแบบ Social Proof Bias อยู่ โดยลูกค้าอาจต้องการข้อมูลหรือความคิดเห็นจากผู้อื่นก่อนตัดสินใจซื้อ ดังนั้นลูกค้าจึงมองหาข้อมูลหรือความคิดเห็นจากคนรอบข้าง
เพื่อเอาชนะอคตินี้ นักขายควรนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้านั้นๆ จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น ผู้เชี่ยวชาญ หรือลูกค้าที่เคยใช้สินค้านั้นๆ แล้ว
5.อคติแบบ Loss Aversion Bias
สมมติว่านักขายกำลังขายสินค้าลดราคาให้กับลูกค้าคนหนึ่ง สินค้านั้นลดราคาจาก 1,000 บาท เหลือ 500 บาท นักขายพยายามนำเสนอสินค้านั้นให้กับลูกค้า แต่ลูกค้ากลับไม่ยอมตัดสินใจซื้อ
สาเหตุที่ลูกค้าไม่ยอมตัดสินใจซื้ออาจเป็นเพราะลูกค้ามีอคติแบบ Loss Aversion Bias อยู่ โดยลูกค้าอาจกลัวที่จะสูญเสียเงิน 1,000 บาทมากกว่าที่จะได้กำไร 500 บาท
เพื่อเอาชนะอคตินี้ นักขายควรเน้นไปที่ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากสินค้านั้นๆ แทนที่จะเน้นไปที่ราคาที่ลดลง เช่น บอกลูกค้าว่าสินค้าเสนอส่วนลดให้กับลูกค้า 50% หากซื้อสินค้าภายใน 1 ชั่วโมง ลูกค้าจะรู้สึกเสียดายโอกาสหากไม่ซื้อสินค้า เพราะกลัวว่าหากไม่ซื้อตอนนี้อาจพลาดส่วนลดที่ดี เป็นต้น
สรุป
อคติทางจิตวิทยาของลูกค้าเป็นสิ่งท้าทายสำหรับนักขาย แต่หากนักขายเข้าใจอคติเหล่านี้และสามารถเอาชนะอคติเหล่านั้นได้ ก็จะสามารถปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ธุรกิจ
missiontothemoon
การตลาด
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย