31 ส.ค. 2023 เวลา 06:37 • การศึกษา
มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด

การวิเคราะห์แบบแนวโน้ม หรือแนวนอน

เป็นอีกหนึ่งในเครื่องมือพื้นฐานที่ได้รับความนิยมในการวิเคราะห์ข้อมูลจากงบการเงินไม่แพ้เครื่องมือแรกที่ผู้เขียนได้นำเสนอในโพสต์ก่อนหน้า
เครื่องมือนี้จะช่วยให้ผู้อ่านหรือผู้วิเคราะห์งบการเงินได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของรายการต่าง ๆ ในงบการเงินว่าเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น หรือลดลงมากน้อยเพียงไรเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้าหรือปีฐาน ปกติผู้อ่านหรือผู้วิเคราะห์งบการเงินก็จะดูการเปลี่ยนแปลงบางรายการที่สำคัญ หรือที่สนใจเท่านั้น (เราจะไม่ดูทุกรายการ)
วิธีการวิเคราะห์แบบแนวโน้ม หรือแนวนอน:
1) แบบปีต่อปี: สมมติว่าต้องหาการเปลี่ยนแปลงของปี 2564 กับ 2565 เป็นต้น
ให้นำข้อมูลปี 2565 เป็นตัวตั้ง และลบออกด้วยข้อมูลปี 2564 จากนั้นคูณ 100 และทำการหารด้วยข้อมูลปี 2564 ซึ่งสามารถเขียนเป็นสูตรได้ดังนี้
สูตรแบบปีต่อปี: ((ข้อมูลปี 2565 - ข้อมูลปี 2564) *100)/ ข้อมูลปี 2564
2) แบบปีฐาน: สมมติว่าต้องการหาการเปลี่ยนแปลงในรอบ 3 ปี ตั้งแต่ปี 2563 2564 และ 2565 เป็นต้น
ให้นำข้อมูลปี 2565 เป็นตัวตั้ง และลบออกด้วยข้อมูลปี 2563 (เรียกปี 2563 นี้ว่าเป็นปีฐาน) จากนั้นคูณ 100 และทำการหารด้วยข้อมูลปี 2563 ซึ่งสามารถเขียนเป็นสูตรได้ดังนี้
สูตรแบบปีฐาน: ((ข้อมูลปี 2565 - ข้อมูลปี 2563) *100)/ ข้อมูลปี 2563
หมายเหตุ: ผู้อ่านหรือผู้วิเคราะห์งบสามารถเปลี่ยนปีฐานได้ เช่น ถ้าต้องการดูการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลงบการเงินในรอบ 5, 10, หรือ 15 ปี เป็นต้น
ใน "งบแสดงฐานะการเงิน" ส่วนใหญ่มักจะดูการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์หมุนเวียนรวม สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนรวม สินทรัพย์รวม หนี้สินหมุนเวียนรวม หนี้สินไม่หมุนเวียนรวม หนี้สินรวม ส่วนของเจ้าของของบริษัทแม่ และกำไรสะสม เป็นต้น ส่วนการเปลี่ยนแปลงของหัวบัญชีอื่น ๆ ก็ขึ้นกับวัตถุประสงค์ของผู้อ่านหรือผู้วิเคราะห์งบการเงินครับ
ใน "งบกำไรขาดทุน" ส่วนใหญ่มักจะดูการเปลี่ยนแปลงของรายได้รวม รายได้หลัก (หรือ รายได้จากการขายและการให้บริการ) ต้นทุนขายและการให้บริการ กำไรขั้นต้น กำไรจากการดำเนินงาน (บางตำราเรียนกว่า กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี หรือ Earnings Before Interest and Tax, EBIT) กำไรสุทธิ เป็นต้น ส่วนการเปลี่ยนแปลงของหัวบัญชีอื่น ๆ ก็ขึ้นกับวัตถุประสงค์ของผู้อ่านหรือผู้วิเคราะห์่งบการเงินครับ
ดูคลิปแนบประกอบเพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้น
โฆษณา