1 ก.ย. 2023 เวลา 06:35 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

"I am become Death, the destroyer of worlds"

เจ. โรเบิร์ต ออพเพ็นไฮเมอร์ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะ "บิดาแห่งระเบิดปรมาณู" เขาเป็นผู้รับผิดชอบในการกำกับโครงการแมนแฮตตัน ซึ่งนำไปสู่การสร้างอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกของโลกอย่างที่เราทราบกันดีจากในหนัง
แต่น้อยคนที่จะรู้ว่านอกจากเป็นทั้งนักฟิสิกส์แล้ว ออพเพ็นไฮเมอร์ยังเป็นนักเขียนอีกด้วย เขาชอบเขียนบทกวีและเรียงความเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การเมือง และปรัชญา โดยบทกวีของเขามักสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของเขาในธรรมชาติและจักรวาล เช่นเดียวกับความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของวิทยาศาสตร์ต่อมนุษยชาติ
ออพเพ็นไฮเมอร์ได้เขียนบทกวีเอาไว้มากมาย เช่น "The Man from the Mountain" ซึ่งกล่าวถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ในการค้นหาความจริง "Burning Day" ซึ่งกล่าวถึงความงามและความน่ากลัวของธรรมชาติ และ "The Hollow Men" ซึ่งกล่าวถึงความว่างเปล่าและความไร้ความหมายของชีวิต
แต่บทกวีที่มีชื่อเสียงที่สุดของออพเพ็นไฮเมอร์ก็คือ "I am become Death, the destroyer of worlds" โดยหลังจากการทดลองระเบิดปรมาณูครั้งแรกในปี 1945 ออพเพ็นไฮเมอร์ได้กล่าวประโยคที่กลายเป็นที่จดจำไปทั่วโลกนี้ว่า "I am become Death, the destroyer of worlds" ประโยคนี้เป็นการอ้างอิงจากคัมภีร์ภควัทคีตาของศาสนาฮินดู ซึ่งกล่าวถึงการต่อสู้ระหว่างพระกฤษณะกับอรชุนในสนามรบ Kurukshetra
ในคัมภีร์ภควัทคีตา พระกฤษณะปรากฏตัวต่ออรชุนในร่างของพระเป็นเจ้า เขาบอกกับอรชุนที่ลังเลที่จะทำสงครามว่า เขาต้องทำหน้าที่ของเขาในฐานะนักรบเพื่อปกป้องโลกจากปีศาจ
ออพเพ็นไฮเมอร์รู้สึกผิดบาปอย่างสุดซึ้งกับบทบาทของเขาในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ เขาเชื่อว่าระเบิดปรมาณูเป็นเครื่องมือทำลายล้างที่ทรงพลังซึ่งสามารถนำมาซึ่งความหายนะได้
ประโยค "I am become Death, the destroyer of worlds" สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกผิดบาปและความสับสนของออพเพ็นไฮเมอร์ เขารู้สึกเหมือนเป็นผู้ทำลายโลก เขาตระหนักดีว่าระเบิดปรมาณูมีศักยภาพที่จะทำลายล้างมนุษยชาติ
บทกวีนี้ยังเป็นการเตือนสติถึงอันตรายของวิทยาศาสตร์ เขาตระหนักดีว่าวิทยาศาสตร์สามารถนำมาซึ่งประโยชน์มหาศาล แต่ก็สามารถนำมาซึ่งความหายนะได้เช่นกัน
โฆษณา