พ่อสอนเรื่องจิต
(แนวปุจฉา วิสัชชนา)
ตอนที่ 1 จิตอยู่ที่ไหน ?
พ่อชอบตั้งคำถาม ที่ยากต่อการตอบ กับพวกเราเช่นนี้ เสมอ
พ่อ : เราต้องตั้งคำถามสิ จะทำให้ได้คิด และคิดได้
จิตเป็นธาตุรู้ ... แล้วจิตอยู่ที่ไหน ?
เวลาเราตายแล้ว ... จิตไปไหน ?
“Everywhere หรือป่าวคะ จิตอยู่ทุกแห่ง.. ทุกที่”
“บี” ลูกสาวจาก NYC (ผู้อัดเสียงสนทนาธรรมกับพ่อทุกครั้งที่กลับบ้าน) ตอบก่อน
พ่อ : แล้วไส้เดือนนี่มีจิตไหม ?
จิตทำให้เกิดมีชีวิตหรือเปล่า ?
ถ้าจิตอยู่ในร่างกายคนเรา บอกเรามีชีวิตใช่มั้ย ?
ถ้าจิตออกจากร่างกายคนเราว่าตายใช่มั้ย ?
นี่..มันต้องตั้งคำถามกันอย่างนี้
“...แล้ว จิต เป็น วิญญานไหม อาคิว ?”
“อาจี้” ศิษย์ผู้หลานถามกลับ
พ่อ : วิญญานรึ ?
บี : อืม คนตายไม่มีจิตนี่
พ่อ : อ้าว! ยังไง พอฟังๆ ไปแล้วเพลิน เลยไม่รู้ อะไร คืออะไร? ใช่ไหม (ฮ่าๆ)
เราต้องรู้ทีละคำ ว่า จิตคืออะไร และ วิญาณคืออะไร ?
อาจี้ : จิตกับวิญญานเหรอคะ เอ... หรือจะเป็นตัวเดียวกันมะ
พ่อ : เคยคุยให้ฟังแล้ว ... จิตเป็นธาตุรู้ ... ทีนี้พ่อถามว่า จิตอยู่ที่ไหน>
จิตอยู่ที่ไหน> ... ลูกตอบมาเลย
ติ๊กต๊อกๆ (เสียงนาฬิกา ดังขึ้นเพราะความเงียบ แต่ลูกหลานเริ่มเครียด)
บี : จิตอยู่ที่…ความรู้สึก
พ่อ : จิตอยู่ที่ไหน> พ่อยังคงถามซ้ำ
“อืมม... เหมือนจิตอยู่ในตัวเราอย่างนั้นหน่ะ”
พี่ใหญ่อย่างเรา เริ่มขยับ
พ่อ : พูดถูก !!
เรา : (อ้าว จริงดิคร้า) ..เอ่อ... เหมือนจิตอยู่ที่ใจ ...
พ่อ : จิตอยู่ที่ใจ... ถูก !
บอกว่า จิตอยู่ที่ความรู้สึก ก็ถูก เพราะว่า ถ้ายังไม่ตาย ก็มีความรู้สึกใช่มั้ย
เพราะว่า ถ้าจิตอยู่ที่ใจ ใจอยู่ที่ไหน ?
บี : จิตมีกี่ดวงอ่ะคะ
“บี” ผู้จบนักธรรมตรี ถามชิ่ง
พ่อ: อ้าว เราไม่ไปพูดตามตำราอย่างนั้นสิ เรายังไม่รู้จิตเลย ท่องจำตามนั้นก็ไม่รู้
เราจะต้องรู้จักที่จิตก่อน เรายังไม่รู้จิตเลย ท่องจำตามนั้น เขาว่าจิตมี 121 ดวง
แล้วเราก็ไม่รู้ ว่าอยู่ที่ไหน เราจะต้องรู้ที่จักจิตก่อนสิว่าอยู่ที่ไหน เท่าที่เธอคิด
ได้
พ่อ : จิตอยู่ที่ไหนนะ >
เรา : ในตัวเรา (เราพยายามอีกครั้ง 555)
พ่อ : นี่ถูก
บี: จิตอยู่ที่ความรู้สึก
พ่อ: นี่ถูก เพราะถ้าลมพัดมานะ เย็นๆ โดนขนนะ เย็นสบาย จิตก็ มาอยู่ที่ขน
แล้วขนนี้อยู่ที่ไหน
บี: ตัวเรา
พ่อ: อยู่ที่ผิวหนังใช่ไหม จิตอยู่ที่ความรู้สึกใช่ไหม เวลาเห็นภาพสวยๆ รู้สึกไหม
บี : ชอบ
เรา : ที่เรามีความรู้สึก...เพราะเรามีชีวิต ใช่ไหมเนี่ย
พ่อ : ที่เรามีชีวิต .. เพราะอะไร?
เรา : มีหัวใจ
บี : มีวิญญาณ
พ่อ : อ่าว! ก็มีจิต หนะสิครับ
พ่อ : (หันไปทางอาจี้) เมื่อตะกี้ ที่อาคิวตั้งต้นไว้ว่า จิตเป็นธาตุรู้ แล้วเธอรู้ใช่ไหมว่า
ถ้าลมมาสัมผัส สัมผัสที่ไหน แขนซ้ายหรือแขนขวา นิ้วช้ายหรือนิ้วขวา นี่คือ
รูป เข้าใจไหม จิตเป็นธาตุรู้ เรารู้ใช่ไหม ทีนี้ที่บอกว่า จิตอยู่ที่ใจ แล้วใจอยู
ที่ไหน
อาจี้ : อยู่ข้างในนี้ (ชี้ไปที่อก)
พ่อ : ใจ ? … อยู่ที่หัวใจหรอ
อาจี้ : เหมือนอย่างนั้นหน่ะ...(หัวเราะ)
พ่อ : หัวใจนี่เป็นรูปนะ นี่เราพูดถึงใจก่อนนะ เรายังไม่พูดถึงรูปนะ หัวใจเป็นรูปแล้ว
จิตอยู่ที่หัวใจ พอเราผ่าไปที่หัวใจ ปรากฏว่ามันมีแต่นำ้ มีแต่เลือดอ่า แล้วจิต
อยู่ที่ไหน ควักหัวใจออกมา เอาหัวใจใหม่ใส่เข้าไป เปลี่ยนหัวใจ เปลี่ยนลิ้น
หัวใจ เปลี่ยนอะไหล่ได้ ถ้าจิตอยู่ที่หัวใจ พอเปลี่ยนเสร็จแล้ว จิตมันคง มันคง
แย่มั้ย
บี: คงตายไปแล้ว
พ่อ : มันคงจะพิการ ความรู้คงไม่เหมือนเก่า แต่พอเปลี่ยนหัวใจ เปลี่ยนลิ้นหัวใจ
มันก็เหมือนเก่านะ
บี : จิตเป็นธาตุรู้ เป็นธาตุรู้ยังไง
พ่อ : เออ เป็นธาตุรู้ยังไง แล้วจิตอยู่ที่ไหนอีกหล่ะ คุยเรื่องจิต
เรา : จิตอยู่ที่...ร่างกายนี่หล่ะ ตัวเรานี่หล่ะ จริงเลย
บี : เหมือนจิตกับสมองนี่ มันก็คล้ายๆกันใช่ไหม เหมือนสมองสั่งงานใช่ไหม สมอง
อ่ะ ..บีขนลุก...ก็ยังรู้
พ่อ: อาจจะคล้ายก็ได้ แต่ถามหน่อย ถามว่า จิตนี่ มันเป็นรูป หรือว่า มันเป็น... มัน
เป็น...
เรา : นาม ?
พ่อ : หรือ มันเป็นพลังงาน
บี : จิตเป็นพลังงาน
พ่อ : มันเป็นธาตุที่เป็นพลังงานรู้ ตะกี้บอกว่าจิตกับสมองใช่ไหม ...
แล้วสมองเป็นจิตไหม
บี : สมองมันสั่งงานอ่า เหมือนกับตัวเดียวกันนะกับจิตนะ หรือไม่ใช่
พ่อ : สมองเป็นรูปนะ รูปสมองมีใช่ไหม เป็นรูปทรงใช่ไหม มีเซลสมองใช่ไหม มีเซล
สมองต่อกับยิบยับๆเลยใช่ไหม มีนิวรอน (neuron) หน่ะ พวกหมอเรียนรู้ อัดกัน
แน่นเลยอยู่ในนั้นหน่ะ. เพราะฉะนั้น สมองใช่จิตไหม..... สมองเป็นรูป เรากำลัง
พูดถึง รูปกับจิต หรือ กายกับจิต… แล้ว เราเคยเห็นจิตไหม
บี : ไม่เห็น
พ่อ : แต่รู้ว่าจิตมี ใช่ไหม
เรา : ช่ายยยย
พ่อ : รู้ได้ อย่าง ไง
บี : รู้ตามความรู้สึก
พ่อ : เมื่อเรายังไม่ตาย ใช่ ไหม เมื่อเรายังไม่ตาย รู้สึกทางไหนบ้าง
บี : หู ตา คอ จมูก อะไรพวกนี้
พ่อ : อ่า เห็นมะ ... นี่เริ่มรู้เลย...ทำไมรู้ เรื่อง หู ตา คอ จมูก
บี : เหมือนตะกี้ที่บีบอกอ่ะ ความรู้สึก มันก็คือ สัมผัส
พ่อ : ความรู้สึกนี่คือ สัมผัสเฉพาะกาย แต่มีความรู้โลกได้ทางไหน อีกหล่ะ...
เธอรู้ ...นี่คือ ต้นไม้ ใช่ไหม ? ภูเขาไช่ไหม ?
บี : ขันธ์ห้า... ขันธ์5
พ่อ : ยังไม่ถึง > ยังไม่ถึง > ถ้าพูด ขันธ์5 ก็ดูเหมือนจะเข้าใจ..555
บี : เหมือนจะสรุป..555
พ่อ : เหมือนจะเข้าใจธรรมะ แต่...
บี : แต่ไม่ใช่ 555
พ่อ: แต่ไม่ใช่....ไม่เข้าใจเลย
บี/ เรา/ อาจี้ : ฮ่า ๆๆ (หัวเราะร่วนพร้อมกัน โดยไม่ได้นัดหมาย)
พ่อ : นี่ อย่างนี้ ไม่เข้าใจธรรมะ รู้จัก แต่ภาษา
เรา : อ๋อ…อายตนะห้า.. อายตนะทั้ง 5
บี : อ่า..ใช่ๆ
พ่อ : แล้วมันเชื่อมกันได้อย่างไรหล่ะ ขันธ์ 5 กับอายาตนะ อธิบายสิ>>
ติ๊กต๊อกๆ เสียงนาฬิกา ...ลอยมาอีกครั้ง
พ่อ : เห็นม่ะ ต้องอธิบายให้ได้ ...อธิบายไม่ได้ แต่จำได้ ว่ามี อายตนะ5
บี : มันจะมี ห้า มี แปด อะไรนี่แหล่ะ แต่ไม่รู้มันเชื่อมกันยังไง
เรา : ขันธ์ 5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อายตนะ 5 มี ตา หู จมูก ลิ้น
กาย...ใจ ..เอ๊ยย..เอ๊ะ หรือ อายตนะมี 6 หรอ หรือมี ใจ ด้วย ???
พ่อ : อ่า เห็นม่ะ ตาเป็น รูป...หูเป็นอะไร
เรา : เป็นเสียง ?
พ่อ : อย่าพึ่งสิ เราพูดถึงรูป ตาเป็นรูปหรือเปล่า หูเป็น...
บี : รูป
พ่อ : ที่เธอว่ารู้สึกหน่ะ รู้สึกทางไหน...ทางตาหรือป่าว
เรา : ความรู้สึกหรอ ?
พ่อ : ความรู้ ความรู้โลกหน่ะ ..อากาศเป็นของโลกหรือป่าว เย็น ร้อน อ่อน แข็ง เป็น
ของโลกหรือป่าว เธอรู้ทางไหน
บี : สัมผัส
พ่อ: เห็นมั้ย เนี่ย ต้องมีละเอียด...อย่างนี้เขาเรียก วิปัสสนา เข้าใจไหม ถ้าเธอไปนั่ง
เฉยๆ แล้วบอกวิปัสสนา ไม่ใช่นะ ไม่ใช่นะ ละเอียดยิบเลยนะ ละเอียดเป็นอนู
เล็กๆๆๆ ยิบๆๆๆๆเลยนะ นี่เขียนลำบากมากเลยนะ เขาถึงไม่เขียนกันไง....แล้ว
ถ้าจิตไม่ละเอียดจริงๆ ฟังไม่ได้หรอก ฟังไม่รู้เรื่อง......นี่ถ้าไล่ไปนะ ถ้าไล่ไปให้
คิดนี่ ... บางทีถึงบางอ้อ
พ่อ : เราต้องคิดว่า เรามีตาเพื่ออะไร
เรา : ดู
พ่อ: แล้วหูหล่ะ
เรา : ฟัง
พ่อ : แล้วจมูกหล่ะ
เรา : ดม
บี : สูดกลิ่น
พ่อ : สูดกลิ่นที่ไหนอ่ะ
บี : จมูก
พ่อ : สูดเข้ารูจมูกอ่า แล้วกลิ่นมาจากไหน
บี: เอิ่ ม……………
พ่อ : กลิ่นมาจากโลก ใช่มั้ย around ใช่มั้ย
เรา : ทั่วไป
พ่อ : อาหาร ลม กลิ่นโชยมา ... เสียงเอามาจากไหนอ่า ....เสียงของใคร
บี : เอิ่ ม ......
พ่อ : เสียงฟ้าผ่าจากโลก จากโลกที่เราอยู่ใช่ไหม เสียงดนตรี ใครเล่น กระจายไป
ในอากาศ ตา เราเห็นอะไร เห็นโลกใช่ไหม อ่านหนังสือ ต้องใช้ตาใช่ไหม
เรียนก็ต้องใช้เสียงพูด ครูบาอาจารย์ใช่ไหม เรียนรู้โลกใช่ไหม จมูก ก็ดม
กลิ่นโลกใช่ไหม อาหารหล่ะ ปากหล่ะ ลิ้นหล่ะ ทุกอย่างเนี่ย เชื่อมต่อกับโลก
ภายนอก ทั้งนั้นเลย แล้วนี่ ผิวหนังนี่ ลมพัด ลมร้อน ลมเย็น อุณหภูมิ เป็น
เพราะโลก ใช่ไหม
อายตนะ 5 ตา หู จมูก ลิ้น กาย เพราะฉะนั้น องค์ประกอบของชีวิตมี หก ที่เขา
เรียก อายตนะเชื่อมโลกนั้นมีอยู่ 6 คือ ใจ ใจ นี่ไม่ใช่รูป >>
พ่อ : แล้วสัตว์มีไหม หมู หมา มีไหม
บี : มี
พ่อ : แมว เห็ด เป็ด ไก่ สัตว์เซลเดียว สองเซล เหมือนกันไหม หนึ่ง ต้องหาอาหาร
รู้ว่าอาหารอยู่ที่ไหน มองเห็นอาหารได้กลิ่นอาหาร ค้างคาวรู้ใช่มั้ย ว่าอาหาร
อยู่ที่ไหน เพราะฉะนั้น สัตว์ทุกอย่างต้องมีอาหารของมันนึกออกใช่มั้ย หนอนรู้
ไหม ว่าอาหารของมันนั้นอยู่ไหน มันมีผัสสะ ใช่มั้ย มันต้องไปขลุกกับอาหาร
ใช่ไหม ...เราไม่เคยคิด...นี่วิปัสสนาเป็นอย่างนี้นะ นี่แบบง่ายๆนะ
บี : แล้วที่นั่งๆ แล้วบอกไม่ใช่วิปัสสนา แล้วมันคืออะไร
พ่อ : มันก็ปวดหัว ตัวร้อนหล่ะสิ
บี : ห๋าาา !!!!
พ่อ : นั่งแล้วกลุ้มใจ นั่งแล้ว บ้าๆ บอๆ ปวดหัว ตัวร้อนหล่ะสิ คิดว่า เป็นอย่างนั้น
คิดว่าเป็นอย่างนี้ มันไม่ได้เข้าหลักการอ่า
อาจี้ : แล้วการที่นั่งนิ่งๆ เพื่อดูจิต ดูอะไร อ่ะคะ
พ่อ : คืออย่างนี้นะ ศุภพร ศุภพร มีตา ใช่ไหม รู้จักรูปใช่มั้ย
อาจี้ : ใช่
พ่อ : มีหู รู้จักเสียง ใช่ไหม.. มีจมูก รู้จักกลิ่น ใช่มั้ย.. ว่ามาจากไหน มาจากในครัว
หรือมาจากข้างนอก กลิ่นขยะ หรือว่ากลิ่นน้ำหอม หรือกลิ่นดอกไม้ ใช่ไหม
รู้ใช่ไหม ว่าอาหารมีกาก ยังไง.. รสชาติยังไง ใช่ไหม.. ลิ้นนี่รู้รส ใช่ไหม
รู้ร้อน อ่อน แข็ง อุณหภูมิ เวลาจะใส่เสื้อออกจากบ้านต้องรู้ว่าอากาศเป็น
อย่างไรใช่ไหม.. ผัสสะ นั่งเก้าอี้รู้ใช่มั้ย ว่าจะต้องนั่งมุมไหน อย่างไหนมัน
แข็ง มันอ่อน ใช่มั้ย
พ่อ : สิ่งเหล่านี้ ถามจริงๆเถอะ เราเคยพิจารณาไหม...ไม่! ไม่เคยพิจารณา
มันเป็นธรรมชาติ ที่มีอยู่ในตัวเราแล้ว ...แล้วสิ่งที่เราพูดเมื่อตะกี้หน่ะ มันเป็น
อายตนะ5 ... อายตนะ5 นี่คือรูป ติดอยู่ในร่างกายเรา ในส่วนต่างๆ นึกออกมะ
มีตา 2>มีหู 2 >จมูก 2 > รูปาก1 > เข้าใจมั้ย ... นี่วิปัสสนาเป็นอย่างนี้นะ
นี่แค่รูปอย่างเดียวนะ ยัง ยังละเอียด ขนาดนี้นะ ...แล้วบอกว่า ใจ อีกตัว
อ่า ใจอยู่ไหน ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ...
บี : ใจ
อาจี้ : ใจ
พ่อ : จิต....จิต อยู่ไหนอ่ะ>
พ่อ : นี่เรารู้แล้วนะ ว่ามีหก เราพูดถึงรูป5 นี่ก็คุมหมดใช่มั้ย คุมหมดมั้ย
ผม นี่ก็เป็นผิวหนังไง เป็นกายไง เธอรู้ว่าผมพันไม่พัน เป็นกายอ่ะ
ขนลุก ไม่ขนลุก ตาเธอเห็นรูป เธอรู้ว่า สวย หรือ ไม่สวย หูเธอรู้ เสียงนี้เป็น
ของคนที่เรารักพูด หรือคนที่เราเกลียดพูด เสียงเพลงที่เราชอบ หรือ ที่เรา
ไม่ชอบ แม่พูด หรือลูกพูด ...
พ่อ : นี่.. วิปัสสนา เป็นอย่างนี้นะ ถามว่าทั้งหมดนี้เป็น Instinct (สัญชาตญาณ)
ทำไมต้องมาเรียนรู้ด้วย ไม่ต้องเรียนรู้เราก็รู้อยู่แล้ว ..แต่เรารู้ แยกไม่เป็นนะ.
นี่เรารู้มาตั้งแต่เด็ก นี่คือรู้สัญชาตญาณ ประจำเผ่า ประจำภพหน่ะ
พ่อ : มีแมว มีหมู มีหมา นี่อยู่ในภพเดียวกัน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ก็มีทุกอย่าง
ปอด ตับไต มีทุกอย่าง ใช้แทนกันได้ เหมือนตัวอย่าง เพื่อนผมอ่าเป็นหมอ
ไปเปลี่ยนลิ้นหัวใจ เอาลิ้นหัวใจหมู มาใส่ในลิ้นหัวใจคน แล้วสามารถเชื่อม
ต่อ ไปใส่ที่เยอรมันนะ ประกันจ่าย สามล้านบาท ท่านทำบุญมาเยอะ โชคดี
มาก ไปถึงมีเครื่องบินมารอเลย พาไปผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจแล้ว มีชีวิตอยู่ต่อ
ได้ เพราะเซลมันเชื่อมกัน...นี่วิปัสสนาเป็นอย่างนี้
บี : แล้วเรานั่งวิปัสสนา เราจะได้อะไร
พ่อ : ถามว่า เธอเคยรู้เรื่องเหล่านี้มั้ย แล้วพอเธอรู้ เธอจะรู้เองว่า เธอได้อะไร เรื่อง
แบบนี้ถ้าเธอไม่สงบนะ เธอจะคิดไม่ออกนะ นี่เราไล่มาแล้วนะ ตา หู คอ จมูก
ลิ้น กาย
บึ : ใจ
พ่อ : ใจ ยังไม่ได้พูด.... ที่เราถามว่า ใจ นี่อยู่ที่ไหน
บี : ในนี้ (ชี้ที่ หัวใจ)
พ่อ : ในนี้ อยู่ที่ไหน นักวิทยาศาสตร์ บอกว่า ใจอยู่ที่สมอง มันรับคำสั่ง แล้วมันสั่ง
ด้วย
บี : เหมือนจิตสั่ง สมองสั่ง
พ่อ : แต่ว่า เราเคยเห็นจิตไหม มนุษย์เคยเห็นจิตมั้ย มนุษย์เรารู้อยู่แล้ว ว่าจิตอยู่
ในร่างกายแต่ มันอยู่ตรงไหน....ในสมัยโบราณนะ เค้าเอาคนเป็นเนี่ย ไปขังอยู่
ในตู้ ปิดให้สนิทนะ ไม่ให้มีลมอะไรออกได้นะเพื่อจะขังจิตนะ เพื่อให้ตาย
แล้วเปิดดูฃิ เปิดออกมาแล้ว จะมีควัน จะมีจิตไหม มีจิตลอยออกมามั้ย ทำ
อย่างไง มันก็มองไม่เห็นจิต
บี : จิตมันเหมือน มโน นึก อ่ะ
พ่อ : ถ้ามโนนึก มันนึกได้ที่ไหนอ่ะ
บี : สมอง
พ่อ : ก็แสดงว่าสมองเป็นจิต หรือเปล่า...ถ้าบอกรู้สึกที่แขนอ่ะ จิตอยู่ที่ไหน แขนรู้
จะต้องไขว่คว้า จะทำอะไร ปากรู้ว่าจะต้องด่าใคร จะต้องสรรเสริญใคร
บี : มาจากสมอง
พ่อ : มาจากสมอง? เขาก็ว่าจิตมาจากสมอง สมองเป็นอะไร
บี : เป็นรูป
พ่อ : เป็นรูป> พวกแพทย์จะเรียนสมองเยอะ สมองเป็นรูป< แพทย์เรียนเฉพาะเรื่อง
รูป> แพทย์ไม่ได้เรียนจิตเลย
พ่อ : เราเห็นจิตมั้ย ไม่เห็นนะ
บี : ไม่เห็น
พ่อ : รู้มั้ยจิตอยู่ที่ไหน...ไม่รู้นะ แต่รู้ว่าอาณาจักรของจิตอยู่ที่ไหน...รู้นะ อยู่ในชีวิต
ของคนแต่ละคน รู้ใช่มั้ย ก็จิตอยู่ในคน คนละก้อนอ่า
บี : ในกายนี้
พ่อ : ในกายนี้ มีสนามของจิตอยู่ในกายนี้ > นี่คืออาณาจักรของจิตแต่ละคน < พอ
มาเข้าอยู่ในสนามของตนปั๊บ ปรากฏว่า คนๆนั้น มีนิสัยไม่เหมือนกันเลย
รูปร่างเหมือนกันมั้ย นิสัยเหมือนกันมั้ย ผิวพรรณหน้าตาเหมือนกันมั้ย อะไรๆ
มันก็ไม่เหมือนกันอ่า....เนี่ย วิปัสสนาเป็นอย่างนี้คร้าบ .....แล้วถ้าไล่ต่อไปนะ
จะสนุกมากขึ้นนะ ...
แล้วถ้าพวกเธอได้ฟังคำสาธยายแบบนี้นะ จะเร็วมากนะ ...นี่เกิดขึ้นจากความ
รู้ของตัวเราเองนะ ไม่มีใครสอนนะ แล้วมัน วิลิสมาหรามากนะ มันตะลึงตึงบัง
มันตื่นเลยนะ !!
เพราะฉะนั้น เราจะสรุปเลยนะว่า ในกายนี้มี จิต กับ อายตนะ คือรูป อ่ะนะ ซึ่ง
ก็คือ มีรูป กับ จิต แล้วรูป5รูปนี้หน่ะ คุมเนื้อที่หมดนะ ตา หู จมูก ลิ้น กาย คุม
เนื้อที่หมด แล้วก็ใจนี้ อยู่ในก้อนเนื้อก้อนนี้แหละ เราเรียกว่าใจนี้คุม แขนขา
หน้า หลัง แล้วใจนี่รับรู้อะไร…
บี : ใจ ใจนี่ไม่เป็นรูปนะ ใจเป็นนาม
พ่อ : ถูกต้อง ใจเป็น นาม!! ฉะนั้น เราจึงเรียกว่ารูปและนาม เพราะฉะนั้น…
วิปัสสนา คือการรู้จัก รูปและนาม...แค่นั้นเอง นี่เป็นเรื่องรูปกับนาม เท่านั้น
เอง.
พ่อ : สรุป แล้วนะ นี่แบบใหญ่ๆนะ แล้วมันจะละเอียดกว่านี้อีก
ทีนี้ รูปและนาม นี่เองเป็นมูลเหตุของการมีชีวิตอยู่...ตาบอดแล้วชีวิตสมบูรณ์
มั้ย ...ไม่สมบูรณ์ หูหนวกชีวิตสมบูรณ์มั้ย...ไม่สมบุรณ์ นามรูปนี้ไม่สมบูรณ์
เพราะฉะนั้น การที่เราได้ตามา ได้หูมา ได้จมูกมา ได้สมบูรณ์แบบนี่ กรรม
เก่าเราดี เกิดมาแล้วมีครบ แล้วใช้งานได้ ถ้าทำบุญมาไม่ดีนะ เกิดมาตาเหล่
ตาเข หูหนวก ปากแหว่ง จมูกโหว่ มันเป็นอย่างนี้คร้าบ...
เพราะฉะนั้นเราเกิดมาดีนี่ เราต้องสรรเสริญตัวเราเองก่อน ว่าเราเป็นคนที่ดี
ทำบุญมาดี เพราะฉะนั้น เราอยู่ในภพนี้นะ เราต้องทำแต่สิ่งดี พูดแต่ในเรื่อง
ดีๆ…กรรมสาม ยังไม่ถึง กรรม 3 นะ ถ้าเธอรู้จักกรรมสามเมื่อไหร่นะ
เธอบรรลุธรรมสุดยอดนะ เธอเป็น...โสดาบัน....
เพราะฉะนั้นนะ วิปัสสนา คือ สนามที่เราจะต้องรู้ ก็คือ รูปกับนาม
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
