RETINAL IMAGE ภาพที่เกิดขึ้นบนจอตา

อย่างที่เราเคยพูดกันไปแล้วว่า ในการมองวัตถุชิ้นหนึ่ง ภาพที่เราเห็นจะชัดเจนได้ เมื่อแสงที่กระทบกับวัตถุ สะท้อนเข้าดวงตาของเราแล้วไปโฟกัสที่บริเวณจอตาพอดี
แต่ในบางกรณีที่แสงไม่ได้โฟกัสที่บริเวณจอตา ดวงตาของเราสามารถปรับโฟกัสเพื่อมองวัตถุหนึ่งๆให้ชัดได้ เมื่อมองวัตถุหนึ่ง วัตถุอื่นๆที่เราไม่ได้โฟกัส จะเบลอ ยกตัวอย่างเช่น เราถือปากกาขึ้นมาด้ามหนึ่ง แล้วมองตรงไปที่ปากกา ภาพของปากกาจะคมชัด แต่ภาพของวัตถุอื่นๆที่อยู่ทั้งด้านหลัง ด้านข้างและด้านหน้าของปากกาจะเบลอ มันเป็นเพราะอะไร ?
Optical image คือ Image จากการโฟกัสของแสงที่สะท้อนเข้าดวงตา ผ่าน Visual System ของดวงตา ซึ่งประกอบไปด้วย Tear ( น้ำตา ) , Cornea ( กระจกตา ) และ Crystalline lens ( เลนส์แก้วตา ) และเกิดการหักเหภายในลูกตา
Optical image จะเป็นภาพที่ Clearly focused คมชัดเสมอ และอาจจะโฟกัสตรงหรือไม่ตรงกับจอตาก็ได้
Retinal image คือ ภาพที่เกิดขึ้นบนจอตา ซึ่งอาจจะโฟกัสได้อย่างคมชัดหรืออาจจะเบลอก็ได้
หากภาพที่เกิดจาก Optical System ของตาไปโฟกัสบริเวณจอตาพอดี จะเกิดเป็นภาพที่คมชัด
ในกรณีนี้ Optical image และ Retinal image จะเป็นภาพภาพเดียวกัน
แต่ถ้า Optical image ของวัตถุ โฟกัสไม่ตรงกับจอตา จะเกิดเป็นภาพที่ไม่คมชัด Retinal image จะเกิดเป็น Blur Circle ขึ้นมา
ขนาดของ Blur Circle ขึ้นอยู่กับ
1. ระยะห่างของ Optical image จากจอตา : ระยะห่างของ Optical image กับจอตายิ่งมาก ขนาดของ Blur Circle ยิ่งมีขนาดใหญ่มากขึ้น ในทางกลับกันหากระยะห่างของ Optical image กับจอตาน้อยลง ขนาดของ Blur circle ก็จะมีขนาดเล็กลงด้วย
2. ขนาดของรูม่านตา หรือ Pupil size : ขนาดของรูม่านตามีการเปลี่ยนแปลง หด/ขยาย ในขณะที่ Optical image ยังคงอยู่ที่ตำแหน่งเดิม ในขณะที่รูม่านตาขยายมากขึ้น ขนาดของ Blur circle จะใหญ่ขึ้นและในขณะที่รูม่านตาหดตัวเล็กลง ขนาดของ Blur cirle จะลดลงด้วย
ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนที่มีปัญหาสายตาที่ยังไม่ได้แก้ไขมักมีอาการมองเห็นภาพในตอนกลางคืนแย่กว่าตอนกลางวัน เป็นเพราะว่าในที่แสงน้อยขนาดของรูม่านตาจะมีการขยายใหญ่ขึ้น ดังนั้น ขนาดของ Blur circle จะมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลง จึงขึ้นอยู่กับขนาดของรูม่านตาด้วย
ซึ่งการเกิด Blur circle ที่บริเวณจอตา เป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นการเกิด Accommodation หรือการเพ่ง เมื่อเกิด blur circle ร่างกายของเราจะสั่งการไปที่สมองให้เกิดกลไกในการปรับโฟกัสเพื่อให้ภาพที่เห็นนั้นชัดเจนขึ้น ซึ่งภาพจะชัดหรือไม่ชัดนั้นขึ้นอยู่กับว่าดวงตาของเราจะเพ่งไหวไหม ระยะห่างของ optical image กับจอตาห่างกันมากน้อยแค่ไหน
Christopher Scheiner , 1619 ใช้การ์ดที่มี รูเข็ม 2 รู หรือเรียกว่า Scheiner disc วางไว้ด้านหน้าของรูม่านตา ในการทดสอบการ Accommodation แสงที่กระทบกับวัตถุที่อยู่ไกล แล้วสะท้อนเข้าสู่ดวงตาจะถูกขวางด้วย Scheiner disc ให้รวมกันเหลือเพียง 2 ส่วน
ซึ่งการเกิด Blur circle ที่บริเวณจอตา เป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นการเกิด Accommodation หรือการเพ่ง เมื่อเกิด blur circle ร่างกายของเราจะสั่งการไปที่สมองให้เกิดกลไกในการปรับโฟกัสเพื่อให้ภาพที่เห็นนั้นชัดเจนขึ้น ซึ่งภาพจะชัดหรือไม่ชัดนั้นขึ้นอยู่กับว่าดวงตาของเราจะเพ่งไหวไหม ระยะห่างของ optical image กับจอตาห่างกันมากน้อยแค่ไหน
Christopher Scheiner , 1619 ใช้การ์ดที่มี รูเข็ม 2 รู หรือเรียกว่า Scheiner disc วางไว้ด้านหน้าของรูม่านตา ในการทดสอบการ Accommodation แสงที่กระทบกับวัตถุที่อยู่ไกล แล้วสะท้อนเข้าสู่ดวงตาจะถูกขวางด้วย Scheiner disc ให้รวมกันเหลือเพียง 2 ส่วน
ในคนที่สายตาปกติ Emmetropic แสงจะไปโฟกัสที่บริเวณจอตาเพียงจุดเดียว และเห็นเป็นภาพภาพเดียวเท่านั้น
แต่ในคนที่มีปัญหาสายตา หรือ มี Refractive error แสงที่ไปโฟกัสบริเวณจอตาจะมี 2 จุด และเห็นเป็นภาพสองภาพ หรือ Diplopia
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่กำลังโฟกัสมองวัตถุที่อยู่ในระยะไกล แล้วมีวัตถุหนึ่งที่วางอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ขึ้น จะทำให้ภาพของวัตถุที่อยู่ใกล้นั้นเบลอ และเห็นเป็นภาพซ้อน หรือ Diplopia แต่ถ้าเปลี่ยนมาโฟกัสที่วัตถุที่อยู่ในระยะใกล้ วัตถุนั้นจะมองเห็นได้ชัดและเห็นเป็นภาพเดียว แต่วัตถุที่ไกลออกไปจะเห็นเป็นภาพเบลอและเกิดเป็นภาพซ้อน
สรุปได้ว่า วัตถุที่อยู่ระยะไกลและระยะใกล้ไม่สามารถที่จะโฟกัสพร้อมกันบนจอตาได้ จึงทำให้เรามองเห็นวัตถุหนึ่งชัด และวัตถุรอบข้างจะเบลอเมื่อมองในเวลาเดียวกัน
การ Accommodation ไม่ได้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงกำลังสายตาของกระจกตา หรือ การเปลี่ยนแปลงความยาวของกระบอกตา แต่เกิดจากการรับผิดชอบของ Crystalline lens
( ในคนที่เป็น Aphakic หรือ การถอด lens ตาออก จะไม่สามารถโฟกัสวัตถุที่อยู่ใกล้ได้ )
หากท่านใดสนใจเกี่ยวกับเรื่องของ การ Accommodation สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://voradaoptometry.com/knowleage/detail/33
ในวันนี้ ขอลากันเพียงเท่านี้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านและผู้สนใจไม่มากก็น้อย
ขอขอบคุณทุกท่านที่คอยติดตามอ่านบทความตลอดมา
Content by : Worada Saraburin ,O.D
Ref : textbook Primary Care Optometry
นัดหมายเข้ารับบริการ : 065-949-9550
Facebook Page : Vorada Optometry
Location : 102 ม.2 ต. หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา 24190
สามารถจอดรถได้ที่บริเวณลานจอดรถวัดหัวสำโรง
โฆษณา