6 ก.ย. 2023 เวลา 16:27 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ปัจจัยลบในตลาดหุ้นสหรัฐฯ

ปัจจัยลบในตลาด
ในปัจจุบัน ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงเผชิญกับปัจจัยลบหลายประการ ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางการลงทุนในระยะสั้นและระยะกลางได้ ปัจจัยลบที่สำคัญ ได้แก่
นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ซึ่งยังคงมุ่งมั่นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ โดย FED ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 11 ครั้งในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา และคาดว่าจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าเงินเฟ้อจะลดลงสู่ระดับเป้าหมาย 2%
สถานการณ์เศรษฐกิจของจีน ซึ่งได้รับผลกระทบจากนโยบาย Zero COVID-19 ของรัฐบาลจีน ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างหนัก โดยตัวเลขเศรษฐกิจของจีนหลายรายการออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เช่น การนำเข้าและส่งออก การว่างงาน และยอดขายรถยนต์
ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น ราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ภาวะเงินเฟ้อ และความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน และอาจนำไปสู่การปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียน
ผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยลบเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นในหลายด้าน ได้แก่
ความผันผวนของตลาดหุ้น อาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดหุ้น
การปรับลดเป้าหมายราคาหุ้น นักวิเคราะห์อาจปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบต่างๆ
กระแสเงินทุนต่างชาติไหลออก นักลงทุนต่างชาติอาจมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดหุ้นของประเทศต่างๆ จึงอาจถอนเงินทุนออกจากตลาดหุ้น
คำแนะสำหรับนักลงทุน
นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยลบต่างๆ เหล่านี้อย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนในตลาดหุ้น ไม่ควรคาดหวังถึงผลตอบแทนที่สูงมากในระยะสั้น และควรกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยง
โฆษณา