รีวิว Heartstopper season2 (เธอทำให้หัวใจฉันหยุดเต้น 2) จ้า
เมื่อวานเพิ่งดู Heartstopper season 2 จบไป หัวใจฟูขึ้นมาเล็กน้อยถึงปานกลาง วันนี้ก็เลยขอมารีวิวตามสไตล์ชะนีหัวฟูอีกแล้วจ้า
heartstopper เป็นซีรีส์ LBBT โรแมนติกวัยใสไฮสคูลที่น่ารักเรื่องหนึ่งจาก Netflix ที่มีความยาว 8 ตอน และแต่ละตอนสั้นประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง ปกติเราจะชอบดูซีรีส์วายไทย เพราะรู้สึกว่ามันทำได้ถึงกึ๋นดี แต่บางทีก็มีข้ามโซนไปมาแหละ ต้องขอบอกเลยว่าเรื่องนี้ให้บรรยากาศแบบวัยแรกรุ่นสุด ๆ และยังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในซีซั่นแรกจนกระทั่งมีซีซั่น 2 ให้เราได้ชมกันในปัจจุบันนี้
สืบเนื่องจากภาคแรก ที่นิค เนลสัน ( Kit Corner) หนุ่มไบของเราที่เริ่มมั่นใจว่าตัวเองชอบชาร์ลี สปริง (Joe Locke) หนุ่มน้อยเกรด 10 จากโรงเรียนทรูแฮม ภาคนี้เขาต้องการที่จะคัมเอาท์กับทุกคนว่าตัวเองชอบผู้ชาย แต่มันก็ไม่ง่ายเลยสำหรับหนุ่มนิคที่จะเปิดเผยความจริงให้ทุกคนได้รับรู้ แต่โชคดีที่ชาร์ลีเข้าใจเขาและคอยอยู่เคียงข้างจนในที่สุดนิคก็สามารถเปิดเผยความจริงให้ทุกคนได้รับรู้ว่าตนเป็นไบเซ็คชวล และกำลังคบหาอยู่กับ ชาร์ลี สปริง
ซีซั่นนี้จะได้เห็นความสัมพันธ์ที่แน้นแฟ้นมากขึ้นของทั้งสอง เริ่มมีฉากเลิฟซีนที่มากขึ้น ฝีมือการแสดงของสองหนุ่มก็ดูเหมือนจะพัฒนามากขึ้นด้วย มันดูแล้วอิน อย่างการสื่อสารกันทางสายตาเนี่ยมันดูแบบเรียลมาก ตอนจูบก็ดูแบบอยากจะจูบกันจริง ๆ
และยังมีผองเพื่อนที่เข้ามาทำเรื่องราวมีสีสันมากขึ้น ชะนีชอบคู่ของแอลล์กับเทามาก คือสองคนนี้ตอนซีซั่นแรกเนี่ยก็แอบลุ้นหนักอยู่แต่ตอนนั้นลุ้นไม่ขึ้น อิอิ แต่ซีซั่นนี้แอลล์สวยมาก นางดูเก๋มีสไตล์และดูแซ่บกว่าเดิม ส่วนเทาตัดผมแล้วคือจึ้งสุด ไม่เชื่อดูภาพยืนยันจ้า
ขอบคุณภาพจาก pinterest
จริง ๆ แล้วความสัมพันธ์ของสองคนนี้ก็ไม่ง่ายนะ เพราะทั้งสองเป็นเพื่อนรักกัน ความใกล้ชิดก็ทำให้เกิดความชอบขึ้นมา แต่ก็ไม่ง่ายที่จะเปิดเผยความรู้สึกเพราะกลัวว่าจะเสียเพื่อนไป
ไปฝั่งเลสเบี้ยนกันบ้าง นั่นก็คือทาร่ากับดาร์ซี ที่เปิดตัวหวานกันมาตั้งแต่ซีซั่นแรกและดูเหมือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะไปได้ดี แต่ซีซั่นนี้จะทำให้เห็นถึงปัญหาในเรื่องการสื่อสารกันของทั้งสอง คืออีกฝ่ายอยากจะพูดคุยถึงปัญหาเพื่อหาทางแก้ไข ส่วนอีกฝ่ายก็กลัวว่าจะทำให้คนรักไม่สบายใจเลยเก็บปัญหาไว้คนเดียว แต่ตอนจบก็ลงเอยด้วยดี
ขอบคุณภาพจาก pinterest
อันนี้ฉากไปงานพรอม ทำให้ได้เห็นมิตรภาพของเพื่อนที่รักและห่วงใยซึ่งกันและกัน เห็นแล้วชะนีก็คิดถึงสมัยยังเป็นวัยรุ่น ตอนนั้นมีแก๊งเพื่อนที่ได้ทำอะไรสนุก ๆ คือแบบมันดีมาก
ขอบคุณภาพจาก pinterest
ซีซั่นนี้นอกจากจะชูประเด็นความหลากหลายทางเพศแล้ว ยังเน้นประเด็นครอบครัวอีกด้วย ทำให้เห็นมุมมองที่หลากหลายและเข้าใจวิธีคิดของคนในยุคปัจจุบันเกี่ยวกับเรื่องเพศผ่านตัวละคร
สรุปซีซั่นนี้ได้รับความประทับใจเต็มอิ่มกันทีเดียวเชียว ส่วนใครอยากใจฟูก็มีฉากเลิฟซีนของคู่พระเอกนายเอกกันเต็มที่ไปเลยจ้า ใครชอบซีรีส์วัยรุ่นแนว LGBT ไฮสคูลเบาสมองแบบนี้ก็ไปดูกันได้ที่ Netflix รับรองฟีลกู๊ดแน่นอน ^^
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
