นี่คือการตัดการรับรู้จากโลกภายนอกร่างกาย คือการเข้าสมาธิขั้นสูง เมื่อเข้าสมาธิถึงจุดหนึ่งทั้งกายและใจ จะไม่ทุกข์ร้อนใดๆเลย
เมื่อปี 2506 โลกต้องตะลึง พระภิกษุ ทิก กว่าง ดั๊ก ผู้มีชื่อเสียงด้านสมาธิภาวนา ได้เดินทางจากเมืองเว้ มายังไซ่ง่อน ด้วยรถออสตินสีฟ้า แล้วนั่งลงกลางสี่แยก มีการวางกำลังคนเป็นกำแพงป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาขัดขวาง เมื่อหลวงพ่อพนมมือกำหนดลมหายใจอานาปานสติเป็นสมาธิจนเข้าสมาบัติ ตัดการรับรู้จากโลกภายนอกร่างกาย แล้วจึงมีคนนำน้ำมันมาเทราดทั่วทั้งตัว จากนั้นก็จุดไฟเผาจนไฟลุกท่วม โดยไม่ได้แสดงอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด ยังคงนั่งสมาธิไม่ไหวติง จนร่างล้มลงและมรณภาพ
มีการเปิดเผยว่าท่านได้กล่าวไว้ก่อนนี้ว่า
“ข้าพเจ้าไม่ได้ตายเพราะโง่เขลา
ข้าพเจ้าไม่ได้ฆ่าตัวตายเพราะมิจฉาทิฏฐิ
ข้าพเจ้าตายเพื่อคนหูหนวกจะได้ยิน
เพื่อคนตาบอดจะได้มองเห็น
เพื่อยุติการเข่นฆ่าสายเลือดเดียวกัน”
ไฟได้เผาร่างของท่านจนไหม้เกรียม แต่หลวงพ่อได้อธิษฐานให้ไฟเผาไปไม่ถึงหัวใจ ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจของพุทธศาสนา จะยังคงอยู่ต่อไป ที่เป็นคำสอนแก่นแท้ของพุทธศาสนา บรรดาศิษย์ของท่านจึงนำหัวใจหลวงพ่อ ทัก กว่าง ดั๊ก ไปบรรจุไว้ในสถูปทองคำ ส่วนรถออสตินที่ท่านใช้เดินทางมาจากเมืองเว้ ก็นำไปเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ให้คนรุ่นหลังได้รำลึกถึงการเสียสละชีวิตของท่านเพื่อรักษาพุทธศาสนาให้ดำรงค์ต่อไป
ชาวโลกไม่ว่าศาสนาใด ต่างตะลึงต่อภาพที่พระภิกษุสงฆ์ชาวเวียดนาม กลางสี่แยกถนนในเมืองไซ่ง่อน ขณะที่การจราจรคับคั่ง เพื่อประท้วงการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม ของประธานาธิบดี โง ดินห์ เดียม ซึ่งนับถือศาสนาคริสต์นิกายคาธอลิค ออกคำสั่งห้ามชาวพุทธชักธงศาสนาในวันวิสาขบูชา
การประท้วงได้เริ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่เมืองเว้ ซึ่งเป็นเมืองหลวง แต่ถูกเจ้าหน้าที่ยิงกราดจนมีผู้ชุมนุมเสียชีวิตหลายคน ในเดือนมิถุนายนจึงมีการประท้วงเกิดขึ้นที่เมืองไซ่ง่อนด้วย เรียกร้องให้ชดเชยค่าเสียหายให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตที่เมืองเว้ และไม่ให้รัฐเข้ามาแทรกแซงกิจการทางศาสนา ให้สิทธิแก่นักบวชชาวพุทธ เท่าเทียมกับนักบวชคริสต์ การประท้วงครั้งนี้ได้มีพระสงฆ์กว่า ๓๐๐ รูปได้เข้าร่วมชุมนุมด้วย
ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี แห่งสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า
“ไม่มีภาพข่าวใดในประประวัติศาสตร์ ที่สร้างความรู้สึกสะเทือนใจไปทั่วโลกเท่ากับภาพนี้อีกแล้ว”
ภาพของพระภิกษุ ทัก กว่าง ดั๊ก เป็นภาพเขย่าโลก ทำให้ประธานาธิบดีโง ดินห์ เดียม ประกาศยอมอ่อนโอนต่อคำเรียกร้องของชาวพุทธ แต่คำสัญญานี้ก็ไม่ได้ถูกปฏิบัติจริง จนทำให้ความขัดแย้งเสื่อมทรามลงไปอีก
ชาวพุทธทั่วประเทศได้ลุกขึ้นต่อต้านการปกครองของรัฐบาลที่กดขี่ชาวพุทธ โดยมีรัฐบาลอเมริกันหนุนหลัง ได้ใช้หน่วยรบพิเศษที่ตั้งขึ้นมา เป็นหน่วยอารักขา เข้าทำลายการต่อต้านวัดพุทธ ยึดหัวใจของหลวงพ่อทัก กว่าง ดั๊ก ที่เผาไม่ไหม้ไปด้วย ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน จนฝ่ายสหรัฐก็ไม่อาจจะทนความโหดเหี้ยมนี้ต่อไปได้ จึงได้ใช้วิธีที่ถนัด สนับสนุนให้กลุ่มทหารที่แปรพักตร์ทำรัฐประหาร ควบคุมตัว โง ดินห์ เดียม และ โง ดินห์ นู สองพี่น้องผู้ครองอำนาจได้ และนำไปประหารในวันต่อมา
ในที่สุด อำนาจล้นฟ้าของอธรรม ก็ต้องมอดไหม้ไปเพราะหัวใจเพียงดวงเดียวของผู้ทรงธรรม
คลิปเหตุการณ์จริง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
