Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Book Gossip: เล่มนี้ต้องขยาย
•
ติดตาม
8 ก.ย. 2023 เวลา 13:44 • หนังสือ
ผมจะเฝ้ารอฆาตกรที่ร้านหนังสือแห่งความทรงจำ
สำหรับสาวกนิยายสืบสวนแล้ว ช่วงหลังมานี้เห็นหนังสือของสำนักพิมพ์น้องใหม่ในเครืออมรินทร์อย่าง Prism Publishing มาแรงมากๆ เพราะนอกจากจะออกถี่ ออกโหดตามสไตล์ของอมรินทร์แล้ว เนื้อหาแต่ละเล่มที่ตีพิมพ์ยังค่อนข้างดุเดือดเข้มข้น ซึ่งแน่นอนว่าเราก็ไม่พลาดที่จะซื้อมาประดับกองดองของตัวเองบ้างเล็กๆน้อยๆ 🤣
เล่มแรกที่เราเลือกมาอ่านก็คือ #ผมจะเฝ้ารอฆาตกรที่ร้านหนังสือแห่งความทรงจำ เป็นหนังสือที่เล่าเรื่องราวชีวิตของ "อาจารย์ยูมย็องอู" ชายที่ต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดที่สูญเสียครอบครัวไปในเหตุการณ์ฆาตกรรมเมื่อ 15 ปีก่อน เขาบังเอิญรอดชีวิตมาได้เพราะหนังสือเก่าที่คนร้ายหวงแหน
เมื่อเวลาผ่านไปอาจารย์จึงประกาศเกษียณตัวเองออกมาเปิดร้านหนังสือเพื่อขายหนังสือสะสมล้ำค่าที่เขาเก็บมาทั้งชีวิต เพราะเชื่อว่า "นักล่า" ชายที่เป็นดั่งฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนเขามาเนิ่นนานจะต้องมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีกครั้งแน่นอน
เป็นหนังสือที่สนุกและลุ้นระทึกมาก อ่านแล้วรู้สึกไม่อยากวางเลย ทุกตัวละครดูน่าสงสัยไปหมด แถมด้วยข้อจำกัดของอาจารย์ยูมย็องอูที่เป็นคนพิการนั่งรถเข็นก็ยิ่งทำให้เราอยากรู้มากขึ้นว่าอาจารย์จะตามสืบด้วยวิธีไหน และจะรับมือกับฆาตกรจิตวิปริตคนนี้ยังไง ถ้าไม่ติดว่าต้องทำงานนี้คือจะอ่านมันทั้งวันทั้งคืนแบบรวดเดียวจบไปเลย 5555555
จุดที่รู้สึกว่าตื่นเต้นดีคือผู้อ่านจะต้องร่วมลุ้นไปพร้อมๆกับตัวละครของอาจารย์ว่านักล่าคือใครกันแน่ในหมู่ลูกค้า เขาแวะมาที่ร้านจริงๆแล้วหรือยัง นึกภาพว่าคนที่จ้องจะเชือดเรารู้จักหน้าค่าตาเราดีมาก แต่เราไม่รู้เลยว่าคนคนนั้นคือใคร ตอนนี้หน้าตาเป็นแบบไหน เขาอาจจะเคยมายืนต่อหน้าเราเพื่อลองเชิงโดยที่เราไม่รู้ตัวแล้วก็ได้ คิดแค่นี้ก็รู้สึกเสียวไส้ไม่น้อยเลย แล้วลูกค้าแต่ละคนที่มาก็มีพิรุธกันสุดๆ
โลกใบนี้กว้างใหญ่ แล้วก็มีคนบ้าอยู่เยอะครับ
เนื้อเรื่องจะสับขาหลอกหลายรอบมาก แต่ก็ไม่ได้หลอกแบบไร้เหตุผลหรือที่มาที่ไป มันเป็นการสับขาหลอกที่ดูน่าเชื่อถือ เพราะตัวละครหลายตัวในเรื่องมีพฤติกรรมแปลกๆหรือเข้าข่ายอันตรายเยอะมาก ทำให้เรารู้เลยว่าสังคมทุกวันนี้มันโหดร้ายมากแค่ไหน ยากมากที่เราจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยหากเลือกที่จะเชื่อใจคนอื่นมากไป อาจจะฟังดูเศร้าแต่โลกมันก็เป็นแบบนี้จริงๆ ความเครียดและความกดดันที่ใครสักคนได้รับมันมากพอที่จะทำให้เขากลายเป็นคนที่ไม่สนใจไยดีคนอื่น หรือกลายเป็นคนที่จิตใจบิดเบี้ยวไปเลยก็ได้
ที่นี่ไม่ใช่สถานที่สำหรับหาเงิน แต่เป็นสถานที่เพื่อจดจำครับ...จดจำคนที่ได้รับบาดแผลและความเจ็บปวดน่ะ
อาจารย์ยูมย็องอู
นี่เป็นประโยคปิดท้ายที่เราชอบมากๆ เนื่องจากอาจารย์ยูมย็องอูเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้รับบาดแผลที่แสนทุกข์ทรมาน การเฝ้าจดจ่ออยู่กับความแค้นและความรู้สึกผิดเป็นระยะเวลายาวนานขนาดนั้นย่อมกัดกร่อนจิตวิญญาณของเขาให้ผุพังลงอย่างแน่นอน แต่อาจารย์ก็ยังคงเลือกที่จะใช้ชีวิตต่อไปตามครรลองที่มันถูกต้อง ใช้ความเจ็บปวดของตัวเองในการเรียนรู้ที่จะเห็นอกเห็นใจและช่วยเหลือผู้อื่นที่เผชิญชะตากรรมเลวร้าย
ครอบครัวของเหยื่อเองก็คงอยากให้สังคมจดจำว่าเหยื่อเป็นผู้ถูกกระทำและพวกเขาคือผู้ที่ต้องรับมือกับความสูญเสีย มากกว่าจะให้คนจดจำชื่อเสียงเรียงนามของฆาตกร เราไม่ควรให้ค่าคนที่ทำลายชีวิตของคนอื่น ไม่ควรให้แสงหรือพื้นที่สื่อ ไม่ควรมอบความสนใจใดๆให้ทั้งนั้น สิ่งที่สมควรทำมากที่สุดคือการเยียวยาจิตใจของผู้สูญเสีย และร่วมแบ่งปันความเศร้านี้ไปพร้อมกับพวกเขา
บอกก่อนว่าบทสรุปของเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ตรงใจใครหลายคนนัก ยิ่งคนที่เชื่อมั่นในการรับโทษทางกระบวนการยุติธรรมยิ่งแล้วใหญ่ แต่ถ้าอ่านแบบเอาสะใจนี่บอกเลยว่าต้องโดนจริงๆ เป็นการเอาคืนที่เลือดเย็นมากสมกับที่รอคอยมา 15 ปี เพราะบางครั้งบทลงโทษทางกฎหมายก็อ่อนเกินไปสำหรับฆาตกรใจโหดหินที่อำมหิตผิดมนุษย์ แม้กระทั่งความตายก็ดูจะง่ายเกินไปด้วยซ้ำ
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย