11 ก.ย. 2023 เวลา 07:59 • ความคิดเห็น
นี่คือคำถามที่แสนสนุก ที่จะให้ความเพลิดเพลินไปกับการวิเคราะห์
คุณค่าของ"ชีวิต" ได้มาโดยธรรมชาติ หรือเราต้องสร้างมันขึ้นมากันแน่นะ  งั้นเรามาวิเคราะห์ไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า
1
ก่อนอื่นเลย เราต้องหาความหมายของคำว่า"ชีวิต"ก่อน ว่าชีวิตคืออะไร
ชีวิตก็คือ การที่ยังไม่ตาย คือความที่ยังเป็นอยู่ ที่ตรงข้ามกับความตาย
เป็นสถานะที่แยกสิ่งมีชีวิต ออกจากสิ่งไม่มีชีวิต หรือซากอินทรีย์วัตถุคือสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้ว  สิ่งมีชีวิตจะเติบโตผ่าน กระบวนการ แบ่งเซลล์ หรือการสืบพันธุ์ หรือการสันดาป การเพาะพันธุ์จากรุ่นสู่รุ่น หรือเหมือนกับการปลูกพืช หรือเชื้อราที่เกิดเองตามธรรมชาติ หรือการเกิดขึ้นเองของจุลชีพ หรือแพลงก์ตอนในน้ำทะเล เป็นการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อม สิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิดสามารถพบได้ใน ชีวมณฑลของโลก
ก็คือเป็นระบบนิเวศในระดับดาวเคราะห์ ที่ควบรวมเอาสิ่งมีชีวิตทั้งหมดและความสัมพันธ์ ทั้งระหว่างกันเอง กับทั้งปฏิสัมพันธ์กับองค์ประกอบต่าง ๆ ของธรณีภาค ปฐพีภาค อุทกภาค และชั้นบรรยากาศมาไว้ด้วยกัน มีการสันนิษฐานว่าชีวมณฑลมีการวิวัฒนาการ มาตั้งแต่ต้นกำเนิดของชีวิตบนโลก ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการกำเนิดชีวิตจากสิ่งไร้ชีวิตก็ตาม
เอาล่ะ ตอนนี้เราได้ความหมายของคำว่าชีวิตแบบคร่าวๆล่ะ
ทีนี้เรามาวิเคราะห์กันต่อ ของไอ้คำว่า"คุณค่า"เนี่ย มันแปลว่าอะไร
คุณค่า ก็คือ สิ่งที่เป็นประโยชน์ หรือ มีมูลค่า ในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และสิ่งนั้นต้องเป็นผู้รับและรับรอง ว่าสิ่งนั้นมีคุณค่าต่อผู้ที่รับ โดยมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายบางอย่าง ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต เปรียบเสมือนคือการสร้างสรรค์เพื่อเดินทางไปสู่เป้าหมาย เพื่ออาศัยคุณค่า ของผู้ที่สร้างสิ่งที่ทำให้เกิดคุณค่า
นี่คือภาพของ galaxy ทั้งช้างเผือก ที่ระบบสุริยะของเราได้อาศัยอยู่
ในใจกลางกาแลคซี่ทางช้างเผือก ที่ขาวๆสว่างๆนั่นคือ กลุ่มดาวฤกษ์ที่อยู่กันอย่างหนาแน่น และใจกลางจริงๆเป็นหลุมดำมวลยิ่งยวด
ซึ่งดาวฤกษ์รอบหลุมดำ จะถูกแรงโน้มถ่วงของหลุมดำดึงดูดให้โคจรรอบใจกลาง เป็นลักษณะกังหันสวยงาม มีความยิ่งใหญ่เป็นอนันต์
galaxy จะบรรจุระบบสุริยะที่มีดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์อยู่จำนวนหลายล้านระบบสุริยะ และหนึ่งในนั้นคือระบบสุริยะที่เราอาศัยอยู่ด้วย
bigbang ให้กำเนิดพระอาทิตย์ จากปฏิกิริยาการระเบิดของเทอร์โมนิวเคลียร์ฟิวชั่น ที่ส่งต่อกันเป็นลูกโซ่ กระจายออกจากกัน จากก๊าซก็เป็นมวลหนาแน่น เป็นดาวเคราะห์ต่างๆล้อมรอบดวงอาทิตย์ เรียกว่าระบบสุริยะ ปรากฏการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นทั่วกาแล็กซี่ ในแต่ละ galaxy จะมีระบบสุริยะกระจัดกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ บางระบบสุริยะก็อยู่อาศัยตรงส่วนปลายของกังหัน galaxy บางระบบสุริยะก็อยู่ใกล้ๆกับจุดศูนย์กลาง
แต่ละระบบสุริยะ จะมีดาวบริวาร 1 ดวงที่โคจรล้อมรอบ และอยู่ในอุณหภูมิที่ไม่ร้อนไม่เย็นจนเกินไป เป็นโซนที่เหมาะแก่การเกิดสิ่งมีชีวิตขึ้นมา ธรรมชาติจึงสร้างสิ่งมีชีวิตในดาวเคราะห์ดวงนั้น จากความชื้นและการสันดาป  ลักษณะแบบนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หมายความว่าจักรวาลไม่เคยสร้างขยะ เพราะสิ่งมีชีวิตเกิดจากการจงใจของจักรวาล คือธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่
โลกเป็นผู้ให้สิ่งมีชีวิต พืช สัตว์ สิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก เชื้อรา ก่อเกิดเป็นระบบนิเวศที่ลงตัว เป็นความหลากหลาย ที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการไปถึงจุดหนึ่ง ที่ระลึกถึงการมีตัวตน และอาศัยขับเคลื่อนด้วยการหาเลี้ยงชีพของตัวเอง ตามวัฏจักรของกลไกระบบนิเวศ ไม่ว่าจะเป็นไส้เดือนกิ้งกือตะขาบงูสัตว์น้อยใหญ่สิงโตเสือ หรือสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์ เกิดประสาทรับรู้ถึงการตระหนักรู้ ตามองเห็น หูได้ยิน ท้องหิว กินเคี้ยวสัมผัสรสชาติ ออกล่าหมุนวนล้มตาย เปลี่ยนเป็นสสารอื่นกลายเป็นซากอินทรีย์วัตถุ
1
หมายความว่าชีวิตมีคุณค่า ด้วยตัวของมันเอง เพราะธรรมชาติเป็นผู้สร้างชีวิตขึ้นมา  และธรรมชาติไม่เคยสร้างขยะ
1
แต่สิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา มีการตระหนักรู้ ที่ลึกซึ้งซับซ้อนถึงการมีตัวตน มีการกระทำที่เป็นกรรม ในการดำเนินไป ที่นอกเหนือจากระบบนิเวศของธรรมชาติ เรียกว่ามนุษย์ มนุษย์คือเทคโนโลยีกลไกชีวภาพ ที่สามารถเคลื่อนไหว นึกคิด โดยที่ไม่ต้องต่อสายไฟ เป็นสิ่งมีชีวิตชีวภาพที่สามารถเข้าถึงจินตนาการ ทั้งภาพ หรือเสียง เข้าถึงการสร้างสรรค์กลไก และปรัชญา และการตระหนักรู้ ที่สัตว์เผ่าพันธุ์อื่นไม่สามารถทำได้ มนุษย์จึงเป็นเผ่าพันธุ์เดียวที่อยู่เหนือกฎของระบบนิเวศ เป็นจุดสูงสุดของห่วงโซ่ของสิ่งมีชีวิตในดาวเคราะห์
มนุษย์ได้รับของขวัญจากธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ คือการเชื่อมโยงประสาทสัมผัสอย่างสัมพันธ์กัน มีความนึกคิดและเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ สามารถประมวลผลสร้างภาพในสมอง และจินตนาการที่เหนือประสาทสัมผัสของเผ่าพันธุ์อื่นจะทำได้เหมือนมนุษย์
เรามีคุณค่าที่คู่ควรที่ธรรมชาติมอบให้ ผ่านการเดินทางของชีวิตที่ยาวนานหลายล้านปี เรามีตัวตนอยู่ในจักรวาลนี้ เพราะจักรวาลมองเห็นว่าเรามีคุณค่า จักรวาลจึงสร้างให้เรามีตัวตนและความตระหนักรู้
เมื่อจักรวาลเป็นผู้ให้ มนุษย์เราจึงมีโครงสร้างในอณูร่างกายเหมือนกับจักรวาลไม่มีผิด เพราะธรรมชาติสร้างชีวิตจากต้นแบบของตัวธรรมชาติเอง ดังนั้นสิ่งมีชีวิตจึงมีโครงสร้างภายในที่คล้ายคลึงกันหมดทุกสรรพสิ่ง
1
เอาล่ะ มาถึงคำถามในช่วงท้ายของคำถาม นั่นก็คือ คนที่ใช้ชีวิตอย่างไม่มีคุณค่า จะทำให้ชีวิตของเขามีคุณค่าขึ้นมาได้หรือ
มนุษย์ทุกคนมีคุณค่าเพียงพอที่จะเกิดมาอยู่ในจักรวาลแห่งนี้ แต่มนุษย์ที่ไม่มีคุณค่า ก็คือมนุษย์ที่ละทิ้ง Higher Self ของตัวเอง
1
Higher Self คือตัวตนที่สูงขึ้นหรือตัวตนของเราในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด (The Best of Me) เป็นการนำทางไปยังเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับเรา
Higher Self เป็นตัวตนของเราในความถี่ที่สูงกว่าในโลกของ 3 มิติ คือเป็นตัวตนที่อยู่ในมิติที่ 4 ขึ้นไปตัวตนที่สูงกว่านั้นจะอยู่กับเราตลอด เราแค่ไม่ได้รับรู้ก็เท่านั้น
หากเมื่อไรที่เราสามารถทำการเชื่อมโยงกับเขาได้เราสามารถที่จะขอคำแนะนำ หรือการขอคำตอบสำหรับการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ในการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน โดยอาจจะผ่านวิธีง่าย ๆ เช่น การพูดคุยกับตัวเองผ่านการนั่งสมาธิ หรือเป็นการตั้งจิตกับเขาผ่านการพูดคุยในใจ หาที่นั่งที่เงียบสงบตั้งจิตถึงเขา ให้คนในตัวเรานำทางเชื่อมต่อกับพลังงานเพื่อที่จะให้สามารถเชื่อมโยงสื่อสารถึงกันได้
โดยคำตอบที่จะได้รับนั้นมักจะมาในรูปแบบของข้อความ เสียงเพลง รูปภาพ เหตุการณ์ที่ดูเหมือนบังเอิญเช่นของหล่นใส่ หรือความคิดที่เข้ามาในหัว โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจหรือไม่ได้คิดเอาเอง คำตอบที่ได้รับคือคำแนะนำ หรือเป็นคำบอกใบ้ในเหตุการณ์ที่ส่งตรงมา เพื่อสะท้อนมาจาก Higher Self ภายในจิตใจของเรา
Higher Self คืออีกตัวตนหนึ่งของคุณ อีกเวอร์ชั่นของคุณในมิติที่สูงกว่า เขารอเพื่อที่จะพบเจอคุณ และเขาหวังว่า สักวันหนึ่งคุณจะกลับไปรวมจิตเป็นหนึ่งเดียวกับเขาอีกครั้ง ถึงแม้ว่ากาลครั้งหนึ่งที่แสนยาวนานคุณได้ทอดทิ้งเขาไป แต่ Higher Self อีกตัวตนของคุณ ไม่เคยทอดทิ้งคุณไปไหนเลย
คนที่ใช้ชีวิตอย่างไม่มีคุณค่า
คือคนที่ละทิ้ง Higher Self ไป
1
คนที่ถูกหลอกลวงไปด้วยโฆษณาชวนเชื่อ กระแสหลักของสังคม ความอยากได้อยากมีและอยากเป็น ความภาคภูมิใจในการโอ้อวดและเย้ยหยัน ความถือตนว่าเป็นผู้ที่เหนือกว่าใคร ใช้ชีวิตด้วยการตอกย้ำสิ่งมีชีวิตที่ด้อยกว่า ทั้งทางตรงและทางอ้อม หลงมัวเมาไปกับตัณหาอุปทาน ยศ ลาภ สรรเสริญ ตำแหน่งเงินทอง ความเป็นเจ้าของ ของๆกู ทำให้คุณห่างไกลจากตัวตนที่แท้จริง ทำให้เกิดกรรมที่เป็นมิจฉาทิฐิ จ่ายสินบาท คาดสินบน คอร์รัปชั่นเพื่อความร่ำรวย เข้าข้างความโกง ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ รู้ผิด รู้ถูก แต่ก็ยังทำ เพื่อความร่ำรวย
1
จึงเกิดกรรม ที่มาจากการกระทำฝ่ายมืด ทำให้หลงยึดติดกับอำนาจ มั่งคั่งไปด้วยวัตถุ อ่อนน้อมต่อผู้มีอำนาจ เพื่อสร้าง connection ในการเอื้อผลประโยชน์ให้ตัวเอง คลุกคลีไปกับภารกิจเทาๆของสังคม เพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์สูงสุด แล้วสั่งสอนผู้อื่นโดยมีสถานะที่เหนือกว่า ว่าตนเองคือตัวอย่างที่ดีที่ประสบความสำเร็จ แท้จริงมาได้จากการปลิ้นปล้อนพลิกแพลง ได้มาจากการกระทำที่ประสมผสานกับฝ่ายมืด เพื่อให้ตนเองอยู่รอดในสังคม ลักษณะนี้คือบุคคลที่ขาดความกล้าหาญทางจริยธรรม คนแบบนี้จึงละทิ้ง Higher Self ไปแล้วอย่างเต็มตัว
ธรรมชาติสร้างชีวิตอย่างมีคุณค่า ให้การตระหนักรู้แก่เรามาแล้ว แต่เราทำความเป็นมนุษย์ให้ตกต่ำ จากสิ่งที่ควรเป็นอยู่ ขอให้รู้ไว้ว่าจักรวาลภายในของคุณกำลังพังทลาย Higher Self ของคุณกำลังร้องไห้อยู่ภายใน
1
บางคนมืดสนิทถึงขั้นประกอบอาชีพที่เป็นมิจฉาทิฐิไม่อายฟ้าอายดิน เห็นแก่ตัวถึงขีดสุด บางคนถึงขั้นประกอบอาชีพที่สยดสยอง ทารุณดุร้าย ปล้นฆ่า วางแผนแสดงมารยาร้อยเล่มเกวียน ปากไม่ตรงกับใจ ไม่ยอมพูดความจริง โกหกสารพัดรูปแบบวิธีการ คอรัปชั่นต่างๆนานา เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจและผลประโยชน์
คนที่ใช้ชีวิตอย่างไม่มีคุณค่า คุณค่าเดียวที่เขาจะได้รับ ก็คือ การเป็นอินทรีย์วัตถุให้กับโลกใบนี้และให้สัตว์อื่นอาศัย กลายเป็นหมอกควัน ดินและอากาศ ในทางกายภาพที่แปลเปลี่ยนเป็นสสารอื่นแค่นั้น
แท้จริงแล้ว จักรวาลให้คุณกำเนิดมา เพื่อให้คุณมีคุณค่าในจักรวาลภายในใจของคุณเอง นั่นก็คือหัวใจที่เป็นมิติที่ 4 เหนือกาลเวลาขึ้นไป หลอมรวมเข้ากับทุกสรรพสิ่งโดยไม่มีเงื่อนไข เพื่อที่จะ connect กับทุกสรรพสิ่ง นี่คือเป้าหมายที่จักรวาลสร้างคุณขึ้นมา นี่คือคุณค่าที่ควรจะทำและมอบให้กับโลกนี้
คนที่เข้าใกล้ Higher Self เขาจะไม่ค่อยทุกข์อีกต่อไป ความสุขของเขาไม่ได้ขึ้นอยู่กับเม็ดเงินหรือการมีมากหรือมีน้อย เขาจะไม่รังเกียจคนทั่วไปที่เดินผ่านไปมา นอนกับดินกินกับทรายโดยไม่เดือดร้อน เขาจะไม่เร่งรีบอีกต่อไป จอดรถให้คนข้ามถนนโดยไม่เสียอารมณ์ มีเงินเยอะมันก็แค่มี ถึงไม่มีก็ไม่เป็นไร สูงส่งแต่ไม่โอ้อวด ถึงตกต่ำก็มีความสุข แม้เดินตากฝนท่ามกลางพายุ แต่ในใจกลับยิ้มแย้มแจ่มใส มีอารมณ์ขัน เปิดใจกว้างกับเสรีภาพ ไม่ปิดบังและปิดกั้น ทั้งคำด่าและคำชม มีความปรารถนาที่ดีต่อมนุษย์ด้วยกัน มีความจริงใจ
ส่วนลิงค์อันนี้ แถมเอาไว้อ่านเล่นๆครับ คุณค่าของความเป็นคน วัดกันที่ไหนในมุมมองของคุณ
โฆษณา