30 ก.ย. 2023 เวลา 05:30 • สุขภาพ

ธุรกิจอสังหาฯ เพื่อผู้สูงอายุไทย ตลาดใหญ่ที่น่าจับตามอง

ในตอนนี้ที่หลาย ๆ ประเทศ เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐฯ เกาหลีใต้รวมถึงประเทศไทย เริ่มประสบปัญหาเดียวกันนั่นก็คือ การเกิดใหม่ของประชากรต่ำ และมีอัตราผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น จากสาเหตุหนุ่มสาวอยู่เป็นโสด และถึงจะแต่งงานก็นิยมไม่มีลูก จากปัญหาหลาย ๆ อย่าง เช่น ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น สภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เป็นต้น จากเหตุการณ์นี้ทำให้ประเทศไทยเริ่มต้นก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
ซึ่งเรื่องนี้ในอีกไม่กี่ปีจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างโดยรวมของประเทศ ซึ่งอาจส่งผลถึงเศรษฐกิจ ไลฟ์สไตล์และสังคมอย่างมาก ถึงแม้ปัญหาผู้สูงอายุในประเทศไทยจะเป็นเรื่องใหญ่
แต่ถ้ามีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง สิ่งที่จะตามมาก็คือโอกาสในการสร้างธุรกิจอย่างมากมาย โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาฯ ที่ทำเกี่ยวกับเรื่องบ้านพักในวัยชรา ที่ในปัจจุบันก็มีหลากหลายแบบให้เลือกอยู่ แล้วคนที่รู้ตัวแล้วว่าชีวิตนี้คงจะไม่มีลูก หรือครอบครัวอีกแล้ว จะเริ่มต้นวางแผนชีวิตอย่างไรกันดี ให้ชีวิตในบั้นปลายเต็มไปด้วยความสุข เพราะการเตรียมตัวไว้ก่อนเป็นเรื่องที่ดี เมื่อแก่ตัวไปจะอยู่ได้อย่างไม่ลำบาก
ธุรกิจอสังหาฯ แบบไหนที่เหมาะกับผู้สูงอายุ
บ้านพักคนชรา
ในอดีตหากพูดถึงบ้านพักคนชรา ใครหลายคนคงมีภาพจำที่ไม่ดี ว่าเราต้องอยู่อย่างลำบาก ไม่มีใครมาใส่ใจ แต่จากการเปลี่ยนแปลงของสังคมผู้สูงอายุ ทำให้มีผู้ลงทุนทั้งเล็กและใหญ่ หันมาสนใจธุรกิจอสังหาฯ โดยเฉพาะการสร้างบ้านพักคนชรา เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าวัยกลางคนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วัยเกษียณ
คนกลุ่มนี้จะมีกำลังทรัพย์ค่อนข้างสูง พร้อมจ่ายในสิ่งที่คิดว่าดีกับตัวเองที่สุด และจุดแข็งของธุรกิจอสังหาฯ ประเภทบ้านพักคนชรานั่นก็คือมีสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมกับมีทีมแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
ในปัจจุบันมีบ้านพักคนชราหลากหลายรูปแบบทั้งในรูปแบบของบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม หรือห้องพัก ที่มีหลากหลายราคาให้ได้จับจอง ส่วนใหญ่บ้านพักคนชราจะมีค่าใช้จ่ายแบบรายเดือน หรือรายปี สำหรับใครที่คิดอยากจะลงทุนอสังหาฯ ประเภทบ้านพักคนชราอาจต้องใช้เงินลงทุนที่สูงในช่วงแรก ในการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก แต่ในระยะยาวสามารถสร้างกำไรได้อย่างต่อเนื่อง หากเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว
บ้านหรือคอนโด ผู้สูงอายุ
เพราะคนสูงวัยกำลังมีมากขึ้นในทุกวัน ธุรกิจอสังหาฯ ประเภทบ้านหรือคอนโดมิเนียม สำหรับผู้สูงอายุก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ในตอนนี้มีทั้งการลงทุนจากภาครัฐและเอกชน ให้ความสนใจเกิดโครงการใหม่ ๆ มากมายทั่วประเทศ จุดเด่นของบ้าน หรือคอนโดสำหรับผู้สูงอายุ คือ ทั้งโครงการจะเป็นกลุ่มผู้อาศัยเฉพาะคนสูงวัยหลังเกษียณ มาอยู่รวมกันเป็นชุมชน
สำหรับราคาของบ้าน หรือคอนโดแบบนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มกลางไปถึงสูง เพราะตัวโครงการส่วนใหญ่จะในรูปแบบของการเช่าในระยะยาวหลัก 10 ปี บางแห่งก็ต้องซื้อแบบขายขาดเท่านั้น และข้อสังเกตสำหรับธุรกิจอสังหาฯ ประเภทบ้าน
หรือคอนโดสำหรับผู้สูงอายุอีกข้อก็คือ จะไม่มีแพทย์ หรือพยาบาล คอยดูแลเราแบบใกล้ชิด และการทำความสะอาดที่พัก ผู้สูงวัยก็ต้องทำด้วยตัวเอง ต่างจากบ้านพักคนชราที่จะมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ตลอดเวลา สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าชุมชนผู้สูงอายุแบบนี้เหมาะกับใคร ก็คงตอบได้ว่าเหมาะกับผู้สูงอายุที่สามารถดูแลตัวเองได้ และกำลังมองหาที่พักอาศัยที่มีความเป็นส่วนตัวตอบโจทย์การใช้ชีวิตในบั้นปลายแบบสงบสุขนั่นเอง
เนอร์สซิ่งโฮม
หลายคนอาจมีความสงสัยว่าธุรกิจอสังหาแบบนี้แตกต่างอย่างไรกับบ้านพักคนชรา สำหรับเนอร์สซิ่งโฮมจะเป็นธุรกิจประเภทที่ให้ลูกค้าผู้สูงอายุที่ต้องการมาพักฟื้นดูแลร่างกายในระยะสั้น ๆ เช่น ผู้สูงอายุที่มีอาการบาดเจ็บจากการหกล้ม หรือผู้ที่ต้องการทำกายภาพบำบัด เข้ามารักษาตัว เมื่อรักษาหายมีสุขภาพดี ก็สามารถกลับไปอยู่ที่บ้านได้อย่างปกติ ในตอนนี้ส่วนใหญ่ผู้ลงทุนทำธุรกิจเนอร์สซิ่งโฮม จะเป็นผู้ลงทุนขนาดกลางหรือเล็ก ที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก
โดยเนอร์สซิ่งโฮมจะไม่มีการซื้อขาด แต่จะเป็นการจ่ายเพื่ออยู่รักษาตัวแบบรายเดือน แตกต่างจากบ้านพักคนชราที่สามารถซื้อหรือเช่าอยู่ได้
สำหรับจุดแข็งธุรกิจอสังหาฯ แบบเนอร์สซิ่งโฮมก็คือ มีผู้เชี่ยวชาญ เช่น พยาบาล หรือทีมแพทย์ให้ความช่วยเหลือเราในระหว่างที่เราเข้าพัก สามารถอยู่เป็นครั้งคราว ไม่จำเป็นต้องพักอยู่ตลอด สามารถไปกลับบ้านของเราเมื่อไหร่ก็ได้ สำหรับค่าใช้จ่ายของการเข้าพักเนอร์สซิ่งโฮมจะมีหลากหลายราคา ตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่น
สำหรับใครที่อยากจะลงทุนทำธุรกิจอสังหาฯ ประเภทเนอร์สซิ่งโฮม ให้ประสบความสำเร็จ คือ การทำราคาให้เหมาะสมเพื่อให้ธุรกิจสามารถคืนทุนได้ไว และสร้างกำไรได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับใครที่อยากจะลงทุนทำธุรกิจอสังหาฯ ประเภทเนอร์สซิ่งโฮม ก็เริ่มต้นได้ไม่ยากในช่วงเริ่มต้นก็หาบ้านเดี่ยว มาปรับปรุงพื้นที่ให้เหมาะสม เช่น เปลี่ยนพื้นที่ห้องรับแขกของบ้าน ให้มีเตียงดูแลผู้ป่วย 3-5 เตียงก็ได้
และใช้พื้นที่สวนนอกบ้านเพิ่มอุปกรณ์สำหรับทำกายภาพบำบัดเบื้องต้น และอาจจ้างพยาบาลมาดูแลผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการ ทำแบบนี้ไปก่อนเพื่อดูฐานลูกค้าว่ามีผลตอบรับมากแค่ไหน แล้วค่อยขยายธุรกิจก็ตามกำลังทุนที่
สิ่งที่นักลงทุนต้องเตรียมพร้อมก่อนเริ่มต้นธุรกิจเพื่อผู้สูงอายุ
1. มีการบริหารจัดการที่ดี
สิ่งแรกที่เรานักลงทุนควรมีคือรู้จักการบริหาร นอกเหนือจากเงินลงทุน เรื่องของคน ก็สำคัญไม่แพ้กันหากเริ่มที่จะทำธุรกิจเพื่อสูงอายุ การจัดการคนที่จะมาดูแล หรือบริการผู้สูงอายุ เพื่อความมั่นใจของผู้ที่จะมาใช้บริการ ควรจ้างพยาบาลที่มีใบประกอบวิชาชีพดูแลผู้ป่วย หรือเข้าเป็นพาร์ทเนอร์กับโรงเรียนฝึกหัดพยาบาล
ที่เมื่อน้อง ๆ พยาบาลเรียนจบ ก็รับเข้ามาทำงานในธุรกิจสุขภาพของเราได้เลย การทำแบบนี้จะทำให้คุ้มในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่ไม่ต้องเสียเวลาเทรนพนักงานใหม่ และยังได้ความน่าเชื่อถือในธุรกิจอีกด้วย
2. มีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม
หากว่าเราอยากจะเริ่มต้นกับธุรกิจนี้สิ่งที่เราควรมองหาคือ ทำเลที่ตั้ง โดยอาจเลือกสร้างพักบ้านคนชรา หรือเนอร์สซิ่งโฮมที่มีบริเวณอำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุ เช่น อยู่ใกล้โรงพยาบาล หรือสามารถเดินทางไปโรงพยาบาลได้อย่างสะดวก หรือมีพื้นที่กว้างขวาง ให้ผู้สูงอายุได้ทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายจิตใจ ไม่ให้เครียด โดยเบื้องต้นอาจมองหาพื้นที่จากบ้านมือสอง แล้วมาทำการรีโนเวท ปรับปรุงพื้นที่ให้ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ ในเบื้องต้นที่เรายังมีเงินไม่มากพอ
อาจเริ่มต้นจากการปรับพื้นบ้านด้วยวัสดุกันลื่นโดยเฉพาะห้องน้ำให้มีความลื่นน้อยที่สุด เพื่อป้องกันผู้สูงอายุหกล้ม หรือปรับเปลี่ยนประตูเข้าออกห้องให้มีความกว้าง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุที่ต้องนั่ง Wheel Chair สำหรับประตูห้องโดยทั่วไปจะมีขนาดอยู่ที่ 70 เซนติเมตร ควรเปลี่ยนประตูห้องให้กว้างประมาณ 90 เซนติเมตร เพื่อให้มีพื้นที่ในการใช้งานได้มากขึ้น
3. มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้พร้อม
อีกสิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามก็คือการเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกกับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ เช่น มีราวจับไว้ตามจุดต่าง ๆ ของบ้านพักคนชรา หรือเนอร์สซิ่งโฮม เพื่อที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุทรงตัวได้ง่ายขึ้น หรือการใช้เก้าอี้เพื่อสุขภาพ
ที่มีฟังก์ชันรองรับสรีระร่างกาย ให้นั่งได้อย่างไม่มีการปวด ก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุที่ใช้บริการธุรกิจของเรา และอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ต้องมีติดไว้ในธุรกิจอสังหาฯ ประเภทบ้านพักคนชรา หรือเนอร์สซิ่งโฮมนั่นก็คือ
เครื่องส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือนั่นเอง ที่ควรติดไว้ในพื้นที่เสี่ยง เช่น ในห้องน้ำ ตรงเตียงนอน หรือบริเวณบันได หากมีผู้สูงอายุหกล้ม หรือเกิดอุบัติเหตุ ก็จะสามารถเรียกเราได้ทัน การลงทุนในส่วนที่อำนวยความสะดวกเหล่านี้ อาจเป็นการเพิ่มต้นทุน แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความน่าเชื่อถือในธุรกิจ เพื่อประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการความปลอดภัย เมื่อเข้ามาใช้บริการในธุรกิจของเรา
4. มีการวางแผนทางการเงินที่ดี
หากคุณในตอนนี้ยังไม่มีทุนสำหรับเริ่มทำธุรกิจ แต่มีบ้านพร้อมเป็นทำเลที่ตั้งแล้วล่ะก็ สามารถยื่นขอสินเชื่อกรุงศรี Home for Cash ได้ เพื่อเปลี่ยนบ้านพักที่อยู่อาศัยของคุณเป็นเงินก้อนใหญ่ สำหรับใช้ลงทุนซื้อเตียงผู้ป่วยหรือปรับปรุงบ้านให้กลายเป็นเนอร์สซิ่งโฮมได้ โดยติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินเชื่อได้ที่ ธนาคารกรุงศรี ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือโทร. 1572
ท้ายที่สุดหากวันที่เราเข้าสู่ยุคที่เรียกว่า สังคมผู้สูงอายุ อย่างเต็มตัว ธุรกิจอสังหาประเภท บ้านพักคนชราหรือเนอร์สซิ่งโฮม จะได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างแน่นอน จากจำนวนผู้สูงอายุที่จะมากขึ้นในทุก ๆ ปี ถ้าเราสามารถเริ่มต้นธุรกิจนี้ก่อนใคร ไม่แน่ว่า เราอาจสร้างกำไรและเป็นผู้นำตลาดธุรกิจสำหรับผู้สูงอายุก็เป็นได้
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
โฆษณา