13 ก.ย. 2023 เวลา 08:03 • ไลฟ์สไตล์

สมาคมพระเก๊

16 มกราคม 2022 ·
สวัสดีวันครูครับ เลิฟยูFC
ศาสตร์แห่งการเล่นพระ
สายขาว สายเทา สายดำ
หลายคนเข้าใจว่าโคตรเซียนชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ที่ประสพความสำเร็จได้ เพราะการดูพระเก่ง
จริงอยู่ การดูพระเก่งหรือดูพระเป็น นั้นคือหัวใจของอาชีพ
เหมือนที่หลายคนถูกปลูกฝังมาว่าถ้าเรียนสูงๆ เรียนเก่งๆได้เกรดดีๆ แล้วจะทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิต แล้วปลูกฝังสอนกันมารุ่นสู่รุ่น ก็ไม่ถือว่าผิดแต่อย่างใด
ที่หลายคนจะมุ่งมั่นที่จะดูพระให้เป็นดูพระให้เก่ง เพื่อหวังอนาคตและประสิทธิภาพในการเล่นพระนั้นประสพความสำเร็จ ดังตัวอย่างที่เซียนชั้นแนวหน้าหลายคนนั้นประสพความสำเร็จอยู่
แต่การเรียนให้สูงหรือการดูพระให้เก่งนั้น เป็นเพียงแค่แก่นของอาชีพเท่านั้น
วิธีคิดและประสบการณ์ในชีวิต นั้นเป็นสิ่งสำคัญ มีหลายคนที่เรียนมาทั้งชีวิต แต่กับทำงานไม่ได้ เช่นเดียวกับบางคนที่ดูพระเป็นแต่กลับไม่เติบโต
ผมจะไม่พูดถึง ว่าใครตัวจริงตัวปลอมแต่อย่างใด หากทำให้ใครต้องไม่ชอบใจ ผมต้องขออภัย
แต่ผมขอสรุปเป็นนิยามจำกัดความในแบบเพจสมาคมพระเก๊ หรือจากประสบการณ์ผม ที่สรุปมาให้แล้วกันครับ
อาชีพเซียนพระ เป็นอาชีพต้องใช้ศาสตร์หลายแขนงมาก ต่างจากหมอหรือครู หรือตำรวจ ที่เรียนจบสอบผ่านตามหลักสูตร ก็ประกอบวิชาชีพได้เลย
หรืออาชีพใดๆที่มีความถนัดในด้านนั้นๆมามากพอในระยะเวลานึง ก็ประกอบวิชาชีพได้เลย ช่างเชื่อม ช่างซ่อม ร้านโทรศัพท์ ร้านข้าว กุ๊ก เชฟ
แต่เซียนพระต้องใช้ศาสตร์แห่งการจัดการ การบริหาร การคาดคะเน สังคม จิตวิทยา หลักของหมอดู หลักของนักเลง หลักของการปกครองคน ทุกสิ่งอย่างต้องเรียนรู้ตลอด และใช้ผสมผสานกันในวิชาชีพ
ถ้าคุณเป็นเซียนที่ประสพความสำเร็จอยู่ หรืออยู่ในกลุ่มที่มีแต่บรรดาโคตรเซียนชั้นแนวหน้า หรือเคยผ่านมา จะเข้าใจว่าคนกลุ่มนี้ เค้าไม่ได้ดูพระเก่งอย่างเดียว เค้าไม่ได้มีต้นทุนดีกว่าใคร เค้าไม่ได้ดวงเฮง แต่เค้ามีศาสตร์แห่งการใช้ชีวิตหลายแขนงมาก
เค้ามีวิธีคิดที่แตกต่าง มีการจัดการที่เป็นแบบแผน ใช้ศาสตร์หลายแขนงในการจัดการคน หากมีอย่างใดอย่างนึง หรือมีแค่ศาสตร์2ศาสตร์ ก็เติบโตตามความสามารถเท่านั้น ยิ่งเก่งรอบด้าน รู้หลายศาสตร์ ก็ยิ่งเติบโตเข้าไปอีก และรักษาระดับได้ดี เค้าจึงเหนือกว่าและต่างกว่า
ชีวิตจริง ผมรู้จักเซียนมากมาย ภูธรและนครบาลทั้งรุ่นน้อง ทั้งรุ่นพี่ ที่มีฝีมือมาก และเก่งไม่แพ้เซียนดังเลย แต่ไม่ดัง
เป็นเหมือนมือปืนรับจ้าง ที่ทำงานให้เซียนใหญ่ แต่กลับหาเงินได้ไม่มาก หรือไม่ได้ร่ำรวยหรือเติบโตมากกว่าที่ควรจะเป็น หรือเค้าอาจจะชอบใช้ชีวิตแบบสมถะและพอใจในชีวิตอยู่แล้ว นั่นก็อีกเรื่อง
แต่ถ้าให้ผมพูดตรงๆ ก็คือมีหลายคนที่ดูพระเก่ง แต่เอาตัวไม่รอด หรือไม่โตเท่าที่ฝีมือและความสามารถที่มีอยู่
และหลายคนมีลูกค้าดี ขายพระโคตรเก่ง แต่เงินไม่เหลือ ตั้งตัวไม่ได้ อู้ฟู่แค่เป็นพักๆ หรือมีรายได้มาก แต่ไม่มีเงินเก็บเพื่อสร้างความมั่นคง
บางคนเกิดอยู่หลายปี แล้วมาร่วงเอาตอนอายุ40ก็มีหลายคน และบางคนเล่นมาหลายปีแต่พึ่งมาจับจุดถูก ตั้งตั้วได้ตอน40กว่า ก็มีหลายคน
หลายคนมีแล้วหมด หมดแล้วกลับมามี ขึ้นๆลงหลายครั้ง
และก็ไม่ใช่ว่ามีทุนแล้วจะเกิดได้ทุกคน หรืออาศรัยว่ามีตังมากๆ ซื้อพระบ่อยๆแล้วจะมีประสบการณ์มาก และดูพระเป็น
เพราะถ้าดูพระไม่เป็น ดูคนไม่ออก อ่านเหลี่ยมไม่ขาด เงินล้านนึงเดินสนามวันเดียวก็ซื้อไม่พอ ตังหมดก่อนที่จะเก่ง
อาชีพนี้จึงเป็นอาชีพเฉพาะทางจริงๆ ที่รวมทุกศารตร์ของทุกอาชีพมารวมกัน ในการประกอบวิชาชีพ
บางคนช่วงชีวิตรุ่งโรจน์มีลูกค้ามากมาย มีเงินทองมากมาย แต่กลับรักษาระยะไว้ไม่ได้ เพราะมีแต่ศาสตร์การดูพระ และศาสแห่งการขายที่ดี
แต่ขาดศาสตร์แห่งการจัดการและการวางแผนทางการเงินที่ดี เซียนประเภทนี้มีเยอะ เหมือนสามล้อถูกหวย ได้เงินมาแต่วางแผนการเงินไม่เป็น เพราะพื้นฐานที่เติบมาจากศาสตร์ด้านใดด้านนึงเท่านั้น จึงไม่มีความรู้เรื่องการจัดการต่อยอดที่มีแบบแผน
บางคนขายของเก่ง ขายของดีมีลูกค้ามาก แต่ใช้เงินไม่เป็น มั่วไปหมด ขายได้แต่ไม่รู้ตังหายไปไหน เพราะขาดความรู้ในการจัดการ ใช้เงินกระเป๋าเดียวกัน กำไรต้นทุนรวมอยู่ในนั้น พอรู้สึกว่ามีสภาพคล่อง ก็ใช้มากจนเกินตัว จนลืมเรื่องหลักการค้า ต้นทุนและกำไร
บางคนดูพระเก่งโคตรเทพ แต่ไม่มีศาสตร์มนุษย์สัมพันธ์ วางตัวไม่เป็น ไม่มีศิลปะในการพูด ไม่มีทักษะในการเข้าสังคม ก็ไม่มีคนสนับสนุนหรือคบหา
เมื่อหมดยุคเรืองอำนาจ ลูกค้าเลิกซื้อ หรือมีเด็กรุ่นใหม่ในสายเติบโตขึ้นมา จนลูกค้าหันไปซื้อกับเจเนอรัลชั่นใหม่ ก็หมดทางซื้อทางขาย เพราะมีพวกน้อยและมีแต่คนคอยเหยียบย่ำ ของก็หาไม่ได้ ลูกค้าก็น้อย สุดท้ายก็ร่วงหล่นไปตามวิถี
บางคนมีเงินมาก ดูพระเก่ง แต่มองคนไม่ออก ไปคบกับคนไม่ดี ครอบงำทัศนคติ คือคิดว่าคนนี้ตัวจริง นับถือผิดคน กว่าจะรู้ก็เสียเวลาไปมาก หรือทัศนคตินั้นเปลี่ยนไปแล้ว
ผมคงยกตัวอย่างไม่ไหว
ผมไม่เคยพูดว่าการดูพระเก่งไม่สำคัญ แต่สิ่งที่ผมพยายามสื่อมาตลอดของการทำเพจ คือวิธีคิด
สิ่งที่การเล่นพระต้องมี นั้นคือความรู้ความเข้าใจในการใช้ชีวิต ที่รวมทุกศาสตร์หลายแขนงเข้าด้วยกัน
ศาสตร์แห่งการคำนวณ และการลงทุน การคาดคะเน
ผมยกตัวอย่างสมมุติ เช่น3-4ปีมานี้ พ่อปานราคาแข็ง กำลังมา ก็จะมีนักเล่นกลุ่มนึง ที่มีประสบการณ์มากพอ คาดการณ์ได้ว่า เดียวเนื้อดินพ่อผาด พ่อโหน่ง พิมพ์ขี่สัตว์ต่างๆ พระในสายราคาจะต้องขยับขึ้น เจอในสนามก็ซื้อสวยๆหยอดกระป๋องไว้ ไม่รีบ สุดท้ายราคาก็ขยับ
หรืออาจจะคาดการณ์ได้ว่า ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี คนไทยซื้อยาก ต้องขายต่างชาติ ไต้หวันนั้นชอบกุมารทอง ก็ทำการตลาดกับต่างชาติ ซื้อก่อนเค้าสักปี2ปี ท้ายสุดกุมารทองพ่อเต๋ก็ราคาขยับก้าวกระโดด
(ผมสมมุติครับ)ไม่ใช่รีบไปซื้อตุน ยกตัวอย่าง
จริงอยู่มันไม่มีหลักสูตรตายตัว คล้ายการเล่นหุ้น มันไม่มีใครรู้หมดหรือรู้ได้ ว่าพระอะไรจะขึ้นหรือลง มันเป็นการคำนวณ แต่คนที่อ่านสถานการณ์ออก มันจะอยู่ในหัวสมองอยู่แล้ว ถึงความน่าจะเป็น อาจจะไม่ถูกหมด แต่แค่ถูกมากกว่าผิดก็แค่นั่นเอง คือได้มากกว่าเสีย หลักการเดียวกับหุ้น คือไม่มีสูตรตายตัว แต่ได้มากกว่าเสียก็อยู่ได้แล้ว
ศาสตร์แห่งมนุษย์สัมพันธ์ และกาลเทศะมารยาทในการเข้าหาคน
มีโคตรเซียนดังอยู่คนนึง คนรู้จักทั้งประเทศ จริงอยู่ มีคนไม่น้อยที่ไม่ชอบหน้าเค้า จะเพราะว่าเด็ก หรือว่ารวยแล้วหยิ่งก็แล้วแต่มุมมอง
แต่เค้าก็ฉลาดพอที่จะวางตัวให้คนรักมากกว่าคนเกลียด เค้าจึงดัง เพราะคนรักมากกว่าคนเกลียด
ก็แค่นั้นเอง
เพราะไม่มีคนไหนทำให้ใครชอบได้หมด รักได้หมดอยู่แล้ว แต่เพียงแค่ว่ามีคนชอบมากกว่า ก็อยู่ได้แล้ว แล้วคนรักที่มากกว่าจะพูดถึงเค้า
เพราะเค้ามีศาสตร์แห่งการเข้าหาคน เค้ารู้ว่าปีใหม่ควรจะให้กระเช้าใคร เค้ารู้ว่าคนนี้ควรให้เกียรติ เค้ารู้ว่าคนนี้มีประโยชน์และจะปฎิบัติตัวอย่างไร และรู้ว่าควรปฎิบัติตัวอย่างไรกับคนแต่ละประเภท เค้าจึงมีคนชอบมากกว่าคนไม่ชอบ
ศาสตร์แห่งการทำธรุกิจ และอ่านสถานการณ์ออก
บางคนไม่ได้ดูพระเก่งอย่างเดียว หรือมีความรู้และมีพวกมากในวงการเท่านั้น
แต่เค้าอ่านสถานการณ์ออก ว่าเดี๋ยวอีกหน่อยโลกของการซื้อขายจะเปลี่ยนไป เค้ามองออกก่อน
และก็มีเว็ปซื้อขายพระที่เซียนพระมากกว่า70%นั้นรู้จักดี ที่ใช้ซื้อหากันในปัจจุบันนี้ นั้นเกิดขึ้น
และศาสตร์แห่งการปกครองและใช้คน
ที่น่าตกใจคือเจ้าของเว็ปไม่ได้มีความรู้อะไรเลยเกี่ยวกับเทคโนโลยี ดูแล้วจะโนเทคโนโลยีด้วยซ้ำ คือไม่มีความรู้ด้านนี้เลย
แต่ก็ฉลาดพอที่จะใช้คนได้ถูก มีที่ปรึกษา ปรึกษาได้ถูกคน มีบริวารที่มีความถนัดด้านนี้ สุดท้ายก็ทำมันจนได้ เพราะวิธีคิดที่แตกต่าง
แม้แต่ศาสตร์แห่งความเกรียน นักเลง
ก็ยังเป็นศาสตร์แห่งการปกครองคนได้ ทำให้อ่านคนขาด รู้ทันเหลี่ยม อ่านเกมส์ออก อ่านแต้มแต่ละคนได้ดีขึ้น คือโดนต้มยาก
ผมคงยกตัวอย่างไม่ไหว
แต่ถ้าจะให้ผมอุปมาอุปมัยให้พอเห็นภาพและจำกัดความในอาชีพนี้
ถ้าผมจะเปรียบว่านักเล่นที่ผ่านสนามท่าพระจันทร์ หรือ จตุจักรมาแล้ว ก็เหมือนกับคนที่เรียนจบนายร้อย จ.ป.ร.แล้วนั้นเอง แต่ก็ใช่ว่าจบมาแล้วจะได้ดีทุกคน หรือรักษาระดับไว้ได้หมด แต่บางคนเมื่อจบมาแล้ว ก็ยังมาเรียนต่อเพิ่มอีกไม่จบไม่สิ้น
เช่นบางคนจบ จ.ป.รมาแล้ว ก็ยังมาเรียนหลักสูตรมนุษย์กบอีก ก็เหมือนกับว่าเซียนคนนั้น หันไปศึกษาและเล่นหุ้นเพื่อต่อยอดความมั่งคั่งนั่นเอง
บางคนเปิดสำนักพิมพ์ บางคนออกบัตร บางคนต่อยอดกับงานประกวด ล้วนเป็นศาสตร์ที่ต้องเรียนรู้เฉพาะทางเพิ่มขึ้น เรียนรู้อยู่ตลอดชีวิตนั่นเอง คนกลุ่มนี้ที่ยืนระยะได้ จึงไม่ใช่เพราะดูพระเก่งอย่างเดียว
ถ้าวันนี้ คุณดูพระเก่งแล้ว แต่ชีวิตยังง้องแง้งอยู่
ถ้าวันนี้คุณขายเก่งแล้ว มีลูกค้าดีแล้ว แต่ชีวิตคุณยังง้องแง้งอยู่
ถ้าวันนี้คุณมีเพื่อนฝูงบริวารผู้ใหญ่รักใคร่มากพอแล้วแต่คุณยังง้องแง้งอยู่
แล้วถ้าคุณมีศาสตร์ทุกอย่างที่ว่ามาแล้ว ชีวิตยังง้องแง้งอยู่
เชื่อผมเถอะ ว่าต้องมีอะไรสักอย่างที่ดำเนินการผิดพลาดอยู่ในวิถีของเรา ไม่มากก็น้อย ไม่ด้านใดก็ด้านนึง
ผมไม่ได้ต้องการให้ใครเป็นซุปเปอร์สตาร์ หรือมีชื่อเสียงอะไรขนาดนั้น ทุกคนมีวิถีของตัวเอง แต่ที่ผมพยายามจะสื่อมาตลอด
คือเรื่องวิธีคิดและทรรศนะคติ การเล่นพระนั้นไม่ใช่ว่าต้องดูพระให้เก่งเท่านั้น ความเข้าใจในวงการณ์เป็นเรื่องที่สำคัญ และจีรังกว่า ที่จะยืนระยะได้ยาว
ล้มอย่างไรก็ลุกได้ และเริ่มต้นได้ทุกช่วงอายุครับ วงการนี้หาเงินได้ง่าย ถ้าอยู่เป็นครับ
เพจสมาคมพระเก๊
โคตรเซียนในตำนาน
นานกสมาคมพระเก๊
เลิฟยู อย่าเชื่อครูทั้งหมด จงเรียนรู้เองบ้าง ประสบการณ์ของชีวิตคือครูที่แท้จริง แล้วบทเรียนจะสอนให้ คุณ ยืนหนึ่งในวงการ
โฆษณา