ข้อคิดที่ได้จากหนังสือเรื่อง The Power of Ignorance พลังแห่งความไม่รู้
ผู้เขียน : Dave Trott
ผู้แปล : พราว อมาตยกุล
สำนักพิมพ์ : WeLearn
.
ในบางครั้ง เวลาที่คุณพบปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม และไม่ว่าคุณจะพยายามคิดหาวิธีแก้ไขมันมากขนาดไหนก็ตาม
.
คุณไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ซะที ถึงแม้ว่าคุณจะเชี่ยวชาญในศาสตร์นั้นมากแค่ไหน
.
แต่เมื่อคุณไปปรึกษาเพื่อน หรือคนรอบตัวคนอื่น ที่ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญเท่ากับคุณในเรื่องปัญหานั้นๆ คุณกลับพบว่าคนเหล่านั้นนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่คุณคาดไม่ถึงมาก่อนได้
.
สิ่งนี้คือการคิดในมุมกลับ โดยคิดจากมุมมองของคนที่ไม่รู้เรื่องปัญหาที่คุณกำลังเผชิญอยู่ว่ามันร้ายแรงหรือซับซ้อนเพียงใด ซึ่งคนที่ไม่รู้ถึงความซับซ้อนและยากลำบากนี่แหละจึงทำให้เกิดวิธีแก้ไขปัญหาได้ นี่คือพลังของ’ความไม่รู้’
หนังสือเล่มนี้ตลอดทั้งเล่มประกอบไปด้วยเรื่องสั้น ที่นำเสนอมุมมองการตัดสินใจ การแก้ไขปัญหา และความผิดพลาดต่างๆและความสำเร็จ ของบุคคลต่างๆ ที่เกิดจาก’ความไม่รู้’ และเปรียบเทียบเรื่องเล่าเหล่านั้น กับมุมมองของนักคิดโฆษณา และนักสร้างสรรค์ หรือ Creative ว่าแท้จริงแล้ว ไอเดียที่ดี เกิดมาจากความไม่รู้แบบใด และความไม่รู้ส่งผลเสียหรือปิดบังความคิดดีๆได้อย่างไร
.
ข้อคิดที่ได้จากหนังสือเล่มนี้
.
1.ไอเดียที่ดีไม่จำเป็นต้องมีต้นกำเนิดเกิดจากตัวเรา อยู่ที่เราสานต่อไอเดียที่ได้รับมาหรือแรงบันดาลใจไปต่อยอดให้ดีขึ้นในแบบของเราได้อย่างไร
.
2.ถ้าคุณไม่โดดเด่น ก็จะไม่มีใครเห็นคุณ เหมือนดั่งโฆษณา ถ้าคุณอยากให้คนจดจำได้ คุณก็ต้องสร้างสิ่งที่แตกต่าง ไม่ใช่สิ่งที่ดีตามมาตรฐาน เพราะผู้คนจะไม่จดจำผลงานของคุณเพราะมันเหมือนมาตรฐานทั่วๆไปที่มีอยู่เป็นหมื่นเป็นแสนชิ้น
.
3.ไอเดียดีๆมาจากไหนไม่สำคัญ อยู่ที่คุณภาพของมันว่าดีหรือเปล่า
.
4.เราไม่ได้ทำความเข้าใจผู้รับสารว่าพวกเขาต้องการอะไร ซึ่งในความเป็นจริงแล้วพวกเขาย่อมยุ่งอยู่กับอะไรบางอย่างเสมอ “คนส่วนใหญ่ไม่สนใจโฆษณาเพราะโฆษณาไม่สนใจเขา”
.
5.การถ่ายทอดความคิดของคุณออกมาให้ถูกต้องและครบถ้วนนั้นไม่เพียงพอ แต่คุณต้องเข้าใจมุมมองของผู้รับสาร เพื่อให้เขาสามารถระบสารนั้นได้อย่างถูกต้องและครบถ้วนด้วย
.
6.เชกสเปียร์ไม่ได้เขียนบทประพันธ์เพื่อตอบสนองนักวิจารณ์ แต่เพื่อตอบสนองคนหมู่มาก เขาจึงโดนนักวิจารณ์ด่าว่าบทประพันธ์ของเขาว่าเลวร้ายและถูกดูหมิ่น แต่มีซักกี่คนล่ะที่จดจำนักวิจารณ์เหล่านี้ กลับกันใครบ้างล่ะไม่รู้จักชื่อ ‘เชกสเปียร์’
.
7.ข้อความที่ยอดเยี่ยม และง่ายต่อการจดจำ ต้องเรียบง่าย ทรงพลัง และพูดย้ำซ้ำๆได้
.
8.การกระตุ้นให้คู่แข่งทุ่มเงินเพื่อตอบโต้เรา เป็นวิธีที่ดีและมีประสิทธิภาพในการทำให้ผู้คนรู้ว่าเราเป็นคู่แข่งตัวสำคัญของเขา
.
9.ข้อมูลที่เป็นตัวเลขหรือจำนวน ข้อมูลเหล่านั้นอาจเป็นข้อเท็จจริง แต่มันไม่ใช่ความจริงเสมอไป อย่าให้มันหลอกคุณได้
.
10.อย่ารอจนกว่าทุกอย่างจะสมบูรณ์แบบแล้วค่อยลงมือทำ คุณจะไม่มีวันได้เริ่ม แต่จงลงมือทำซะ
หนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยแนวคิดด้านการเปลี่ยนมุมมองการคิด สำหรับนักโฆษณาและนักสร้างสรรค์เป็นส่วนใหญ่ แต่เนื้อหาและสิ่งที่ได้รับนั้น สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพราะในชีวิตจริง คนเราต้องสื่อสารและใช้ไอเดียนำเพื่อแก้ไขปัญหาและคิดสร้างสรรค์สิ่งต่างๆกับผู้คนอยู่เสมอ เช่น การให้คำปรึกษาหรือขอคำแนะนำจากคนอื่น
.
การคิดในมุมมองของคนที่ไม่รู้ในเรื่องเดียวกับเรา จะทำให้เราได้เห็นถึงมุมมองที่แตกต่างไปจากเดิม สิ่งนี้ทำให้เราออกจากรูปแบบความคิดและเลิกยึดติดอยู่กับสิ่งที่คิดว่าตัวเองนั้นรู้ดีอยู่แล้ว
.
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้คนในแวดวงการสื่อสาร การตลาด และนักคิดสร้างสรรค์ ซึ่งต้องใช้ไอเดีย รูปแบบการนำเสนอข้อมูลต่างๆให้แก่ผู้ฟัง ผู้ชม และผู้ที่ต้องการปรับมุมมองทางความคิด ออกจากกรอบความคิดเดิมๆ
.
#Zcollex_Books
#ThePowerOfIgnorance #DaveTrott
#WeLearn #หนังสือจิตวิทยา #หนังสือพัฒนาตนเอง
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
